หลังจากนั้นไม่นาน เวินหนิงถึงได้ค่อยๆปล่อยมือจากลู่อันหราน “ แม่ไม่เป็นอะไรค่ะ แค่ได้รู้เรื่องอะไรบางอย่างที่แม่ไม่เคยรู้มาก่อน”
เวินหนิงเห็นหน้าเล็กๆกลมๆของลู่อันหรานที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นคนที่เธอเชื่อใจไว้ใจมากที่สุดคนหนึ่ง ตอนนี้กับบอกเธอว่า บางทีที่คน ๆ นั้นเข้ามาให้ความช่วยเหลือตัวเองก็เพื่อที่อยากจะชดเชยให้เธอเท่านั้น ทำให้เธอรู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกมาก
เมื่อได้ยินเวินหนิงพูดแบบนี้ ลู่อันหรานได้แต่พยักหน้า แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง ก็เลยตัดสินใจโทรไปหาลู่จิ้นยวนแล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง
หลังจากที่ลู่จิ้นยวนรู้เรื่องนี้ เขาตกใจมาก จะเป็นไปได้ไหมว่าเขาถูกจับได้แล้วเรื่องที่เขาแกล้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บสาหัส
ลู่จิ้นยวนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง รู้สึกว่าเขาไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไว้อีกต่อไป จึงให้คนส่งเขาไปที่ที่เวินหนิงอาศัยอยู่ในตอนนี้
พอมาถึงใต้ตึก ลู่จิ้นยวนคิดอยู่พักหนึ่ง แทนที่จะเข้าไปทันทีเขากลับหยิบก้อนหินเล็ก ๆ สองสามก้อนขึ้นมาแล้วโยนไปที่หน้าต่างของเวินหนิง
เวินหนิงอาศัยอยู่บนชั้นสอง เธอกำลังงุนงงอยู่ในห้องของตัวเอง เธออารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงกุ๊กกิ๊กของหน้าต่าง เธอคิดว่าน่าจะเป็นเด็กซนที่ไหนหรือเปล่า พอเปิดหน้าต่างกำลังจะตะโกนต่อว่า แต่กลับเห็นลู่จิ้นยวนยืนอยู่ชั้นล่าง
เวินหนิงขมวดคิ้ว เดินลงไปทันทีโดยไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้า
ทันทีที่เธอลงมาถึงชั้นล่าง เธอจึงอดบ่นและต่อว่าเขาไม่ได้ " คุณเป็นบ้าอะไรไป ยังบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วยังวิ่งออกมากลางค่ำกลางดึกแบบนี้ คุณคิดว่าร่างกายของคุณแข็งแรง สุขภาพดีมากเลยใช่ไหม "
“ วันนี้คุณรู้อะไรมาใช่หรือเปล่า”
ลู่จิ้นยวนถามอย่างตรงไปตรงมา
เวินหนิงลังเลครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า
" ผมขอโทษ."
ลู่จิ้นยวนรีบกล่าวคำขอโทษอย่างกะทันหัน “ จริงๆแล้วมือของผมไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น แค่ดูแลรักษาดีๆสักระยะหนึ่งก็หายดีแล้ว
ที่ผมต้องปล่อยข่าวไปแบบนั้น ก็เพราะว่าผมได้พนันกับแม่ของผมไว้ พวกเราตกลงกันว่า เฉพาะคนที่สามารถยอมรับผมในตอนนี้ได้ ผมจะแต่งงานกับเธอ ผลสุดท้ายคุณก็รู้แล้วว่ามีเพียงคนๆเดียวที่สามารถยอมรับผมได้ ก็คือคุณ "
เมื่อเวินหนิงได้ยินเช่นนี้ ในชั่วขณะนี้เธอไม่รู้ว่าเธอจะโกรธหรือจะดีใจดี
ส่วนที่ดีใจก็คือมือของลุ่จิ้นยวนไม่ได้เป็นอะไรมาก เขายังเป็นคนที่สุขภาพดีและสมประกอบทุกประการ ส่วนที่โกรธคือตัวเองนั้นถูกเขาหลอกเล่นอย่างกับลิงโง่ตัวหนึ่ง ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย
เผลอ ๆ ความสุขในใจยังมากกว่าความโกรธอีก
หลังจากที่ได้ผ่านเรื่องเลวร้ายและความเป็นความตายมามากมาย ตอนนี้เวินหนิงรู้สึกว่าตราบใดที่คนๆหนึ่งยังมีสุขภาพที่ดี ถือเป็นความหวังที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าเวินหนิงไม่ได้เดินจากไปในทันที ลู่จิ้นยวนรู้สึกดีใจมาก จากนั้นก็คุกเข่าข้างหนึ่งลง แล้วหยิบแหวนวงหนึ่งออกมา " ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้ว ผมอยากใช้ทั้งชีวิตที่เหลือของผมเพื่อชดเชยความผิดพลาดนี้ ไม่รู้ คุณจะให้โอกาสผมได้ไหม "
ลู่จิ้นยวนพูดอย่างเคร่งขรึม ความจริงเขาแอบซื้อแหวนวงนี้ไว้ตั้งนานแล้ว แค่เขายังไม่มีโอกาสมอบให้เวินหนิง เดิมทีเขาวางแผนไว้ว่าจะจัดงานขอเธอแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะเขากังวลว่า เรื่องนี้จะทำให้เวินหนิงโกรธจนหนีไปทันที ดังนั้นเขาจึงต้องใช้โอกาสนี้ไปก่อน
" ตอนนี้ อาจจะไม่มีพิธีขอแต่งงานที่โรแมนติก แต่ด้วยใจจริงของผม ผมยินดีที่จะชดเชยทุกอย่างให้คุณอย่างสมเกียรติ ... "
ลู่จิ้นยวนยิ่งพูดยิ่งรู้สึกไม่มั่นใจ
จากปกติผู้ชายที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเละเชื่อมั่น พอถึงเรื่องของความรัก แต่กลับไม่มีกลยุทย์อะไรเลย
เวินหนิงมองชายหนุ่มที่คุกเข่าข้างหนึ่ง ในขณะนี้เขากำลังเงยหน้าขึ้นมองเธอ เธอเห็นแววตาของเขาที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความหวัง
“ คุณลุกขึ้นมาก่อน”
เวินหนิงหรี่ตาลง ขนตายาวของเธอปกปิดอารมณ์ในดวงตาของเธอ
ลู่จิ้นยวนลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ลุกขึ้นอย่างว่านอนสอนง่าย เรื่องนี้เขาไม่ต้องการกดดันเธอจนมากเกินไป
" เรื่องนี้ ฉันยังไม่สามารถตอบตกลงคุณได้ในเร็วๆนี้ แต่ ... "
ทันทีที่เวินหนิงเปิดปากปฏิเสธเขา ทำให้หัวใจของลู่จิ้นยวนเย็นไปครึ่งหนึ่ง แต่หลังจากที่ได้ยินคำว่า แต่ ทำให้เขามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
" ก่อนหน้านั้นคุณเคยบอกว่า ให้ฉันเชื่อมั่นคุณหน่อยได้ไหม คำโกหกของคุณเมื่อกี้ จะเป็นการโกหกครั้งสุดท้ายระหว่างคุณกับฉัน คุณกล้ารับประกันหรือเปล่า "
ลู่จิ้นยวนพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด " แน่นอน "
“ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันตกลงรับปากคุณว่าจะให้โอกาสคุณได้เริ่มต้นใหม่ จากนี้ไปฉันจะไม่มองทุกการเคลื่อนไหวของคุณด้วยอคติหรือความสงสัย ถือว่าให้โอกาสตัวเองได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณใหม่ด้วย ”
หลังจากฟังคำพูดนี้แล้วลู่จิ้นยวนรู้สึกดีใจมาก
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเวินหนิงจะพูดออกมาเช่นนี้ การเริ่มต้นใหม่ เขามีความมั่นใจว่าจะสามารถทำให้เวินหนิงลืมเรื่องราวความเจ็บปวดใจในอดีตได้ ซึ่งนี่ก็หมายความว่าเธอเริ่มปล่อยวางเรื่องในอดีตแล้ว
“ ทำไมจู่ๆวันนี้คุณถึงได้เปลี่ยนไปยังไง ... ”
หลังจากที่ลู่จิ้นยวนได้คุยเรื่องทั้งหมดนี้กับเวินหนิงจบ เดาออกทันทีว่าตัวเขานั้นน่าจะเข้าใจผิด คิดว่าข่าวคราวที่ทำให้เวินหนิงสับสนยุ่งเหยิงนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเลย
เขาอยากรู้มากเลยว่าอะไรทำให้เธอได้เปลี่ยนไปขนาดนี้
เวินหนิงลังเลอยู่สักพักหนึ่ง แล้วเอาเรื่องราวทั้งหมดที่เจนนี่เล่าให้เธอฟัง เล่าให้ลู่จิ้นยวนฟัง
“ จู่ๆทำให้ฉันรู้สึกว่า บางทีฉันอาจจะไม่เข้าใจสังคมและผู้คนที่อยู่รอบตัวฉันอย่างจริงจังมาก่อน ดังนั้น ถึงได้บอกว่าอยากเริ่มต้นรู้จักคุณใหม่ ”
เวินหนิงรู้สึกตกตะลึงไม่น้อย สำหรับเหอจื่ออันนั้นเวินหนิงไม่ได้เกลียดชังหรือโกธรเขา เพราะผู้ชายคนนั้นถือว่าได้ชดเชยให้เธอแล้ว เขาได้เสียสละเพื่อเธอไปเยอะมากแล้ว เธอไม่อาจเกลียดผู้ชายคนนี้ได้ลงคอ แค่ว่า เธอไม่รู้ว่าจะไปเผชิญหน้ากับเขายังไงดี
“ ในตอนแรกผมคิดว่า เขาเข้าหาคุณเพื่อแก้แค้นผม ไม่ได้คาดคิดเลยว่า ยังจะมีเหตุผลนี้อยู่ข้างในด้วย ”
หลังจากที่ลู่จิ้นยวนได้ยินเรื่องราวทั้งหมดนี้แล้ว ทำให้เขาตกตะลึงไม่น้อยเหมือนกัน แต่เดิมเขาเกลียดคนร้ายที่ทำให้เขาอยู่ในอาการโคม่ามานานถึงสามปีนี้มาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก