ป่ายฉียกมือขึ้นแล้วโยนขวดยาไปตรงหน้าเย้นหว่าน
จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: "วันละหนึ่งเม็ด รอขาเขาเริ่มมีความรู้สึก ก็เปลี่ยนยาได้แล้วล่ะ"
เย้นหว่านถือขวดยานั้นไว้ด้วยความรู้สึกแปลกใจ
เมื่อวานป่ายฉียังปฏิเสธการรักษาโห้หลีเฉินได้อย่างเด็ดขาดขนาดนั้น เธอคิดว่า อย่างน้อยก็ต้องรอหลังจากจบการสะกดจิตแล้ว
ไม่คิดว่าตอนนี้เขาจะเอายามาให้ การสะกดจิตได้ผลแล้วเหรอ?
หรือว่า......
เย้นหว่านหมุนขวดยาในมือเล่น จ้องป่ายฉีแล้วถามเขาว่า: "นายไม่ได้วางยาใช่ไหม?"
ป่ายฉีมองค้อนเย้นหว่านอย่างแรง
"ถ้าจะวางยา เขาคงตายตั้งแต่อยู่ที่บ้านตระกูลหยูแล้ว"
ในคำพูดนั้น ยังมีความรู้สึกเสียดายที่แสดงออกมาได้อย่างชัดเจน
เขาควรวางยาตอนที่อยู่ที่บ้านตระกูลหยูจริงๆ ฆ่าโห้หลีเฉินตัวปัญหาที่น่ารำคาญนี้ให้ตายๆไปเลย
เย้นหว่านเห็นสีหน้าเขาบึ้งตึง ก็รู้สึกหวั่นใจมาก
เธอพูดอย่างจริงใจว่า: "ฉันคิดว่าตอนนี้ผลกระทบจากการสะกดจิตของนายหนักมากเลย อาจเป็นเพราะนายโสดนานเกินไป ถึงได้โดนพลังแห่งความโสดแว้งกัดได้ นายควรจะหาแฟนสักคนได้แล้วนะ"
ป่ายฉีกัดฟันกรอด "ไปตายซะ!"
เขาลุกขึ้นเดินออกไปอย่างโมโห
ในที่สุดเขาก็เห็นว่า ไม่เพียงแต่โห้หลีเฉินที่น่ารำคาญ ขนาดเย้นหว่านก็เริ่มไม่น่ารักแล้ว
โห้หลีเฉินนั่งอยู่บนรถเข็น มองดูแผ่นหลังของป่ายฉี แล้วพูดขึ้นช้าๆว่า: "เป็นแบบนี้ต่อไป แม้จะคลายการสะกดจิตเขาแล้ว ปมในใจก็ไม่คลายลงไปหรอก"
"ดังนั้น เขาต้องหาใครสักคนมาดูแลจิตใจที่บอบช้ำไง"
เย้นหว่านยิ่งคิดก็ยิ่งว่าวิธีนี้ดี "เดี๋ยวพวกเรากลับไปแล้ว ก็ช่วยป่ายฉีหาแฟนสักคนเถอะ"
โห้หลีเฉินยิ้มอ่อน "ได้สิ"
ป่ายฉีได้ยินพวกเขาพูดคุยกันรางๆ จากนั้นก็เดินเร็วกว่าเดิม
เขาไม่น่าใจอ่อนกับโห้หลีเฉินเลย น่าจะปล่อยเขานั่งรถเข็นพิการไปตลอดชีวิตเลย!
ยังจะหาแฟนให้เขาอีกงั้นเหรอ?
แฟนเอามาทำอะไรได้? นอกจากออดอ้อนจนน่ารำคาญ เหอะ โห้หลีเฉินอยากจะแก้แค้นเขาชัดๆ
......
ระดับการสะกดจิตของเย้นหว่านเริ่มคลายออกเองอัตโนมัติแล้ว ตอนวันที่ห้าก็คลายออกทั้งหมด ไม่ต้องรับผลกระทบจากความคิดอีก
ในตอนที่ลืมตาจากการสะกดจิตครั้งสุดท้าย เธอเหมือนได้ปลดปล่อย เหมือนว่าได้ปลดปล่อยพลังงานที่ห้อมล้อมอยู่รอบตัว แล้วได้กลับมาเป็นตัวเองใหม่อีกครั้ง
ความรู้สึกนี้ มันช่างวิเศษจริงๆ
เย้นหว่านออกมาจากห้องสะกดจิต เธอเหมือนกับนกน้อยที่รีบกระโจนเข้าอ้อมกอดของโห้หลีเฉินอย่างรวดเร็ว
"คุณโห้ ฉันเป็นอิสระแล้วล่ะ"
โห้หลีเฉินก็กอดเธอเอาไว้ จากนั้นก็จุ๊บลงไปที่หน้าผากเธอเบาๆ
"ให้รางวัล"
แม้จะเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว แต่มีคนดูอยู่เยอะขนาดนี้ เย้นหว่านก็อดไม่ได้หน้าแดงเหมือนกัน
เธอมองค้อนเขาด้วยความเขินอาย
ยังไม่ทันได้พูดอะไร ตอนนี้เอง ด้านหลังเธอก็มีเสียงพูดประชดประชันดังขึ้น
"สำออย"
ป่ายฉีเชิดหน้าขึ้นมา มองพวกเขาด้วยแววตาที่เกลียดชัง จากนั้นก็เดินผ่านเย้นหว่านแล้วเดินออกไปด้านนอกทันที
ท่าทีเย็นชาไม่ไว้หน้าใครแบบนั้น เหมือนตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไม่คุยกับพวกเขา
เย้นหว่านเห็นท่าทีเขาแบบนั้น ก็ไม่ได้โกรธอะไร แต่กลับพอใจมากกว่า
"สถานการณ์ของป่ายฉีดีขึ้นมา อีกไม่กี่วัน การสะกดจิตของเขาจะคลายไปจนหมดเอง"
ช่วงหลายวันก่อน แม้ป่ายฉีจะพยายามอดทนไว้มากแค่ไหน แต่ก็มักจะแสดงความรู้สึกหึงออกมา ตอนนี้แม้เขาจะเห็นเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินอยู่ด้วยกัน ก็ไม่ได้รู้สึกหึงมากขนาดนั้นแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน