หลินซินเหยียนรอจนเด็กหนุ่มลุกออกจากตัวนาง นางถึงได้ยืนขึ้นพลางปัดฝุ่นตามตัวออก แล้วมองขึ้นไปทางหน้าต่างที่มีเหล่าบุรุษเหล่านั้นยืนอยู่ พลันก็สบเข้ากับดวงตาดอกท้อของชายหนุ่มในชุดปักลายหรูหรา ทันใดนั้น
ชายหนุ่มผู้นั้นก็เบนสายตาหันมามองหลินซินเหยียนที่ยืนอยู่ข้างเด็กหนุ่มรูปงามผู้นั้น
"องค์ชาย”
เด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างชายหนุ่มในชุดหรูหราบนหน้าต่างเมื่อเห็นว่าหญิงสาวด้านล่างสามหาวกล้าใช้สายตาเช่นนั้นมององค์ชายแห่งตระกูลของตนเองก็เอ่ยขึ้น
พลางในใจก็พลันปะทุความโกรธมากยิ่งขึ้น สถานะของท่านอ๋องนั้นสูงส่งหาใดเปรียบ แล้วใยนางถึงกล้ามองอย่างไร้มารยาทเช่นนั้น?
เย่ตงฟางยื่นมือออกไปเพื่อที่จะห้ามหลิงจิ่ง มุมปากของเขายกขึ้นด้วยความสนใจ
"วันนี้ที่เราหลอกให้คนโง่นั่นออกมาที่นี่ เพื่อที่จะทดสอบว่าแท้จริงแล้วเขาโง่จริงหรือแกล้งโง่กันแน่? หลายปีมานี้ข้ามิอาจวางใจได้ แต่เมื่อดูสถานการณ์เมื่อครู่นี้ก็แน่ใจแล้วว่าเขาก็แค่คนโง่คนหนึ่งเท่านั้น"
คนโง่พวกนี้ไม่ส่งผลอะไรกับเขาแม้แต่น้อย แต่ถ้าหลายปีที่ผ่านมานี้เขาเกิดแกล้งโง่ขึ้นมาจริง แผนการในใจของเขาคงก่อให้เกิดความพินาศอย่างมากเป็นแน่
ดวงตาดอกท้อค่อยๆ หรี่เล็กลงมุมปากของเย่ตงฟางยิ่งยกยิ้มมากขึ้นไปอีก
"ไปกันเถอะ” เย่ตงฟางพลางมองไปทางเด็กหนุ่มแล้วหุบพัดลงจากนั้นจึงหันหลังกลับหายไปทางหน้าต่าง
"พี่สาวท่านไม่รังเกียจข้าหรือ?" เด็กหนุ่มที่ลุกขึ้นมาจากตัวหลินซินเหยียนได้เอ่ยขึ้น เขาว่าพลางกัดริมฝีปากแววตาใสซื่อราวกับไม่เคยแปดเปื้อนมองหลินซินเหยียนด้วยแววตาน่าสงสาร
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว "ทำไมข้าถึงต้องรังเกียจเจ้าด้วย?" ได้ยินเช่นนี้เด็กหนุ่มพลันก้มหน้าลงต่ำ เสียงทุ่มต่ำออกมาจากจิตใจที่ว้าวุ่นของเขา
"เพราะว่าข้าเป็นเพียงแค่คนโง่ ขนาดเหล่าสาวใช้ของข้ายังล้วนรังเกียจข้า"
หลินซินเหยียนมองร่างบางของเด็กหนุ่มแวบหนึ่งจากนั้นนางก็พูดขึ้นอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า
“นั่นมันพวกนาง แต่สำหรับข้าแล้ว มนุษย์ทุกคนล้วนไม่แตกต่าง”
แววตาของเด็กหนุ่มปรากฏหยาดน้ำสีใสคลอขึ้นมาอีกครั้ง สายตาของเขามองทะลุหยาดน้ำเหล่านั้นไปยังดวงหน้างดงามแต่ปรากฏความเย็นชาของหลินซินเหยียน "พี่สาวจิตใจของท่านช่างงดงามเสียจริง"
จิตใจงดงามอย่างนั้นหรือ? นี่เป็นครั้งแรกที่หลินซินเหยียนได้ยินคำพูดเช่นนี้ แต่ก็นั่นแหละ
นางในโลกก่อน จะเรียกว่าเป็นคนไร้ความรู้สึกก็ได้ไม่ผิดนักนางไม่ใช่คนจิตใจดีอะไรเลยวันๆนางร่ำเรียนทำงานไม่พูดไม่คุยกับใครแม้แต่ไม่สนใจไม่สนิทสนมใดๆกับใครเลยก็ว่าได้
วันนี้เจ้าเด็กนั่นไม่เพียงแม้แต่เหมือนน้องชายของนางในโลกก่อน กลับยังมาพูดจาไร้สาระเช่นนี้อีก
ริมฝีปากเล็กๆของหลินซินเหยียน เอ่ยวาจาเย็นเยียบออกมาว่า "ดูท่าทางแล้วเจ้าคงอายุมากกว่าข้า เพราะฉะนั้นต่อไปนี้อย่าเรียกข้าว่าพี่สาวอีก"
"แต่ว่า..."
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น"
สายตาของหลินซินเหยียนจ้องมองเขาด้วยความไม่เกรงกลัว พูดขึ้นอย่างหยาบกระด้าง
เด็กหนุ่มสะดุ้งราวกับตกใจกลัวเสียเต็มประดา แววตาปรากฏร่องรอยของความน่าสงสาร ลอบมองใบหน้าของหลินซินเหยียนที่มีสีหน้าไม่ค่อยดีนักอย่างระมัดระวัง
อย่างไรก็ตามแต่ ใบหน้าน่าสงสารของเด็กหนุ่มนั่นทำให้ใจของหลินซินเหยียนอ่อนยวบลงอย่างห้ามไม่ได้ นางจึงพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า
"ขออภัยด้วย ข้าไม่ควรที่จะตะคอกใส่เจ้าเสียงดังเช่นนี้ แต่ว่าเราเพิ่งบังเอิญพบกัน ข้าดวงไม่ดีเองที่กลายเป็นแพะรับบาปของเจ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางหมอ