ภายใต้สายตาที่มองกันมาของผู้คน ปู่หูที่ยิ่งใหญ่ไม่เป็นสองรองใครในเมืองเจียงไห่ กำลังถูกเผยจื่อตงหิ้วตัวราวกับสุนัข เดิมทีก็เป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าตกใจอยู่แล้ว
ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็พากันคาดเดาว่า เผยจื่อตงผู้นี้ ตกลงเป็นใครกันแน่!
เวลานี้ได้ยินเสียงของปู่หูพูดขึ้นขณะที่กำลังร้องไห้ เผยจื่อตงผู้นี้ เป็นเพียงแค่ทหารนายหนึ่งภายใต้เย่อู๋เทียนเท่านั้น
ทันใดนั้น ก็เงียบกริบกันไปหมด!
ทุกคนกำลังคาดเดาอยู่ว่า เย่อู๋เทียน ตกลงมีประวัติความเป็นมาอะไรกันแน่!
เสิ่นจูนอี๋ได้ยินที่ปู่หูพูดแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตกใจ หัวสมองว่างเปล่าไปหมด
เผยจื่อตง!
หรือว่าจะเป็นเพียงแค่ทหารนายหนึ่งภายใต้เย่อู๋เทียนเท่านั้นจริง ๆ ด้วย?
เรื่องราวดังกล่าวนี้ คงจะต้องมีอะไรที่เข้าใจผิดกันบ้างเป็นแน่? !
เย่อู๋เทียนมันเป็นใครกัน เผยจื่อตงผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอนาคตสดใสอย่างนี้ ทำไมถึงได้กลายเป็นลูกน้องของไอ้คนหน้าโง่อย่างนั้นด้วย?
เสิ่นจูนอี๋จึงมองสังเกตเผยจื่อตงอย่างละเอียดอีกรอบหนึ่ง
แม้ว่าเผยจื่อตงจะสวมใส่ชุดทหาร แต่บนบ่าไม่มีประดับดาวยศทหาร
เสิ่นจูนอี๋อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ข่าวลือดังกล่าวนั้นเป็นเท็จ เผยจื่อตงผู้นี้ คงจะไม่ใช่หนึ่งในหนึ่งร้อยยอดจอมพลทหารอะไรนั้นเป็นแน่
ประเทศหลงที่กว้างใหญ่ไพศาล หรือว่าจะไม่มีคนอื่นแล้วอย่างนั้นเหรอ?
จึงปล่อยให้เด็กหนุ่มที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมผู้นี้ขึ้นชั้นเป็นหนึ่งในหนึ่งร้อยยอดจอมพลทหาร!
เมื่อพิจารณาถึงจุดนี้แล้ว เสิ่นจูนอี๋จึงแอบส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา และพูดกับเผยจื่อตงด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า:
“เผยจื่อตง คุณต้องรับทราบไว้นะว่า ฉันคำนึงถึงมิตรภาพระหว่างพวกคุณตระกูลเผยกับพวกเราตระกูลเสิ่นในอดีต เวลานี้ฉันจึงพูดคุยกับคุณดี ๆ ไม่อย่างนั้นแล้ว คุณคิดว่าคุณเป็นใครกัน? ”
“รีบปล่อยตัวเขาลงเดี๋ยวนี้ ฉันก็จะไม่ถือสาหาความอะไรอีก! มิเช่นนั้น ต่อให้ตระกูลเผยของพวกนายจะมีรากฐานที่มั่นคงในเมืองเจียงไห่ก็ตาม ก็คงจะไม่สามารถปกป้องไอ้เด็กหนุ่มที่หลอกลวงผู้คนไปทั่วได้แน่นอน! ”
เผยจื่อตงแสดงสายตาที่เย็นชาขึ้น
ในขณะนั้นเอง ชายวัยกลางคนคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบกองกำลังพิเศษแห่งเมืองเจียงไห่ ก็ได้เดินออกมาจากโถงลิฟต์ชั้นหนึ่งของโรงพยาบาล
ด้านหลังของเขายังมีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามมาด้วย ซึ่งทั้งหมดนั้น ล้วนติดอาวุธครบครัน และในมือก็ยังถืออุปกรณ์ป้องกันการระเบิดด้วย
โดยคนที่ถูกพวกเขาจับกุมตัวนั้น ก็คือพวกลูกน้องของปู่หู ที่ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวขึ้นบนชั้นยี่สิบแปด ซึ่งในเวลานี้เชื่อฟังอย่างกับนักโทษ
ถึงขนาดที่มีคนร้องไห้เสียงดัง สำนึกในบุญคุณอย่างที่สุด
เปรียบดั่งการที่ถูกกองกำลังพิเศษที่อยู่ด้านหลังนี้จับกุมตัว ถือเป็นเรื่องที่โชคดีมากในชีวิต
เพราะว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพวกกองกำลังพิเศษ พวกผู้ชายในชุดทหาร ที่บนบ่าประดับดาวยศจอมพลบนชั้นยี่สิบแปดนั้น ช่างน่าเกรงกลัวมากกว่าอย่างยิ่ง
สำหรับพวกลูกน้องเหล่านี้ เพียงแค่ยืนอยู่ต่อหน้าของพวกผู้ชายที่บนบ่าประดับดาวยศจอมพลเหล่านั้นแล้ว ก็แทบจะเป็นตายลงทั้งเป็นเลยทีเดียว
เมื่อเสิ่นจูนอี๋เห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ก็เกิดความตกใจขึ้นอย่างที่สุด
ส่วนคนอื่นในที่แห่งนี้เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างก็พากันปรบมือชื่นชม
หลายปีมานี้ ปู่หูเป็นอันธพาลก่อความวุ่นวายในเมืองเจียงไห่อย่างมาก!
วันนี้ รวมถึงตัวเขา และพวกลูกน้องของเขาที่กำเริบเสิบสานไปทั้วนั้น ในที่สุดก็ถูกจับกุมตัวทั้งหมดแล้ว!
ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำของกองกำลังพิเศษนั้น ได้เดินเข้ามาหาเผยจื่อตง
เมื่อมาถึงเบื้องหน้า ก็แสดงความเคารพ
และพูดขึ้นด้วยเสียงดังทรงพลังว่า
“รายงานจอมพลเผย ลูกน้องของหูจื้อซานจำนวนสามสิบสี่คน ได้ถูกจับกุมตัวทั้งหมดแล้ว! ”
เผยจื่อตงยกมือขึ้นเล็กน้อย
“นำตัวพวกเขาไปคุมขังซะ อีกเรื่องหนึ่ง จัดกองกำลังรักษาความปลอดภัยเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบของโรงพยาบาลด้วย คืนนี้ ฉันไม่อยากเห็นว่ามีผู้ใดมารบกวนสถานที่แห่งนี้อีก! ”
ชายวัยกลางคนสีหน้าท่าทางเย็นชา
“รับทราบ จอมพลเผย! ”
เมื่อพูดจบ ชายวัยกลางคนก็รับตัวหูจื้อซานมาจากมือของเผยจื่อตง แล้วก็เดินจากไป
เผยจื่อตงไม่แม้แต่จะมองไปที่เสิ่นจูนอี๋ แล้วก็เดินตรงไปยังที่หน้าประตูของห้องโถงโรงพยาบาล
และยืนอยู่ที่ด้านข้างประตู
ในท่วงท่าตัวตรงเช่นเคย
ส่วนเสิ่นจูนอี๋เมื่อมองเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว เป็นเวลานานกว่าที่จะสงบสติอารมณ์ลงได้
ซึ่งมันเปรียบได้ดั่งความฝัน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เธอถึงตั้งสติกลับคืนมาได้ แล้วก็รีบเดินไปยังโถงลิฟต์ เพื่อขึ้นไปยังชั้นยี่สิบแปดของโรงพยาบาล
เธอก็ยังคงไม่เชื่อว่า เรื่องราวทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ จะเกี่ยวข้องกับไอ้หน้าโง่เย่อู๋เทียน
แต่เมื่อมาถึงโถงลิฟต์ชั้นยี่สิบแปดแล้ว
เสิ่นจูนอี๋แทบอยากจะตายลงเลยก็ว่าได้
ภายในบริเวณโถงลิฟต์ชั้นยี่สิบแปด มีเฉาจ้านหยางเป็นผู้นำยืนคุมอยู่
โดยมีชายในชุดทหาร ที่บนบ่าประดับดาวยศทหารจำนวนสิบกว่าคน กำลังยืนตัวตรงอยู่ภายในบริเวณโถงลิฟต์อย่างพร้อมเพรียง
ขณะที่เสิ่นจูนอี๋ก้าวเดินออกมาจากลิฟต์ ก็ถูกจับจ้องด้วยสายตาของเฉาจ้านหยางและคนอื่น ๆ
สายตาทุกคู่ที่องอาจดุดันต่างก็จดจ้องมองมาที่ร่างของเสิ่นจูนอี๋
เสิ่นจูนอี๋รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรงลง แทบจะยืนทรงตัวอยู่ไม่ได้ และเกือบล้มลงไปที่พื้น
เหมือนว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกคนเหล่านี้ เสิ่นจูนอี๋แทบจะไม่ต่างอะไรกับมดแมลงเลย
เสิ่นจูนอี๋จิตใจสั่นไหว และพยายามที่จะสงบสติอารมณ์ของตนเองลงเล็กน้อย ถึงมองไปที่เฉาจ้านหยาง
เสิ่นจูนอี๋ไม่ทราบว่าเฉาจ้านหยางก็คือลูกชายของเฉาปั้นเสียน และยิ่งไม่ทราบด้วยว่า เฉาจ้านหยางคือลูกศิษย์ที่เย่อู๋เทียนถ่ายทอดวิชาให้ด้วยตนเอง
แต่เสิ่นจูนอี๋ทราบว่า ผู้ชายคนนี้ คือผู้นำของหนึ่งร้อยยอดจอมพลทหารแห่งประเทศหลง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...