ผู้หญิงที่พูดเยาะเย้ยถากถางเสิ่นรั่วชิงคนนี้ คือเกาเยว่หมิ่นจากตระกูลเกาแห่งเมืองเจียงหนาน เป็นคนรุ่นเดียวกันกับเกาเยว่หลู
ในฐานะที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเกาเยว่หลู เกาเยว่หมิ่นรู้จักเสิ่นรั่วชิงอย่างดีแน่นอน
ที่เมืองเจียงหนาน เกาเยว่หมิ่นได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสี่หญิงงาม อีกทั้งเมื่อถือกำเนิดขึ้นก็ได้รับการเลี้ยงดูเอาใจเป็นอย่างดีจากคนในตระกูลเกา
แม้ว่าปีนี้จะมีอายุเพียงแค่สิบแปดปี เพิ่งจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่สถานะมูลค่าของตัวเธอนั้น เพียงพอที่จะทำให้ผู้หญิงที่ร่ำรวยขั้นธรรมดาได้แต่แหงนมองเทียบเคียงอะไรไม่ได้เลย!
แต่มีอยู่จุดหนึ่ง เนื่องจากเกาเยว่หมิ่นอายุยังน้อย อีกทั้งในตอนเด็กได้รับการเลี้ยงดูและเติบโตขึ้นมากับพี่เลี้ยงในตระกูลเกา แม้ว่าจะไม่ขาดแคลนเงินทอง แต่ก็ขาดแคลนการอบรมสั่งสอนที่ดี
มีจิตใจที่ชอบเปรียบเทียบถึงขั้นรุนแรงมาก
ในภาพความทรงจำของเกาเยว่หมิ่นนั้น เสิ่นรั่วชิงคือลูกเลี้ยงของเกาเม่ยหลิงคนที่ “ทรยศ” ต่อตระกูลเกา ดังนั้นเธอจึงถือว่าเสิ่นรั่วชิงก็จัดอยู่ในระดับเดียวกันกับเด็กเถื่อน
เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจ ซึ่งก็ไม่เห็นว่ามีอะไรที่ไม่ถูกต้อง
แม้ว่าเกาเยว่หมิ่นกับเกาเยว่หลูจะมีหน้าตาที่ไม่เหมือนกัน แต่ตรงบริเวณระหว่างคิ้ว ก็ยังทำให้เสิ่นรั่วชิงเกิดความรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาได้
นอกจากนี้ เมื่อครู่เกาเยว่หมิ่นยังได้เอ่ยถึงเกาเม่ยหลิงด้วย......
ในสถานการณ์แบบนี้ เสิ่นรั่วชิงเองก็สามารถที่จะคาดเดาสถานะของอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
เสิ่นรั่วชิงถึงกับขมวดคิ้วขึ้น
เย่อู๋เทียนที่อยู่ด้านข้าง แน่นอนว่าก็สามารถคาดเดาได้ถึงสถานะของเกาเยว่หมิ่น แต่เป็นเพราะว่าหญิงสาวคนนี้มีอายุยังน้อย จึงไม่อยากที่จะใส่ใจอะไรกับหล่อนมาก เพียงแค่พูดขึ้นคำหนึ่งว่า: “หากกล้าพูดอะไรที่ไร้สาระอีก ฉันจะให้คนมาฉีกปากของเธอซะ”
เกาเยว่หมิ่นราวกับได้ยินคำพูดที่น่าขันอย่างมาก จึงพูดขึ้นอย่างกำเริบเสิบสานว่า: “นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ถึงกล้ามาถกเถียงกับฉันที่นี่! ”
ขณะที่พูด เกาเยว่หมิ่นก็หันหน้ามองไปที่เพื่อนชายด้านข้างของเธอ และพูดว่า: “อาชง ไปสั่งสอนไอ้ผู้ชายชาติชั่วคนนี้หน่อยสิ ฉันพูดคุยกับไอ้เด็กเถื่อนเสิ่นรั่วชิงอยู่ เขากล้าดีอย่างไรถึงได้มาพูดแทรก? เมื่อครู่ก็แค่พูดเกรงใจเป็นพิธีกับเขาเล็กน้อย เขายังจะคิดว่าตนเองเป็นคุณชายที่ร่ำรวยมาจากตระกูลไหนอีกเหรอ? ไอ้บ้านนอก! ”
ผู้ชายที่อยู่ด้านข้างของเกาเยว่หมิ่น มีอายุประมาณยี่สิบปี ใบหน้าขาวนวล รูปลักษณ์ราวกับว่าเป็นดาราหนุ่มหน้าใส แม้ว่าตระกูลจะร่ำรวย แต่ก็เป็นแค่คุณชายในตระกูลระดับสอง เมื่อเทียบกับเกาเยว่หมิ่นแล้ว ห่างไกลกันลิบลับ
โดยทั่วไปเมื่ออยู่ต่อหน้าของเกาเยว่หมิ่นแล้ว ก็จะรับฟังคำสั่งทุกอย่าง
เพียงแค่พูดคำเดียว
ชื่อของเขาไม่สำคัญ แต่สมญานามของเขานั้น โด่งดังอย่างมากในเมืองเจียงหนาน
นั่นก็คือสุนัขรับใช้ของเกาเยว่หมิ่น!
นอกจากจะมีรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาแล้ว ก็ยังมีวิชาบู๊ติดตัวอยู่บ้าง
ก่อนหน้านี้เคยได้อาศัยเส้นสายความสัมพันธ์ของตระกูลเกา แสดงบทพระรองในภาพยนตร์บู๊เรื่องหนึ่งมาแล้ว
มีแฟนคลับเป็นของตนเอง
ดังนั้นในด้านของนิสัยการปฏิบัติตัว ก็แทบจะไม่แตกต่างอะไรกับเกาเยว่หมิ่นเลย
แต่สิ่งที่แตกต่างกับเกาเยว่หมิ่นก็คือ เขาไม่ชอบที่จะพูดจากำเริบเสิบสาน ชอบที่จะแกล้งทำเป็นเฉยชา
ในสายตาของพวกหญิงสาวจำนวนมากที่รู้จักเขานั้น เขาก็จะเป็นในแบบเทพบุตรเฉยชา โดยปกติตอนที่ไปเที่ยวไนต์คลับ ก็เป็นแบบนี้เช่นกัน หากว่าสามารถลงมือจัดการได้ก็จะลงมือจัดการเลย
เวลานี้ อาชงได้เดินขึ้นมาด้านหน้า ร่างกายที่สูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร มักจะให้ความรู้สึกว่าเก่งกาจมีความสามารถอย่างมาก จากนั้นก็เหลือบมองไปที่เย่อู๋เทียน และพูดว่า: “ตบหน้าของตนเองซะ ฉันเกียจคร้านที่จะลงมือกับคนอย่างนายนี้”
เย่อู๋เทียนไม่แม้แต่จะไปสนใจอาชง ได้แต่มองไปที่ผิงเสี่ยวหลิงเท่านั้น
แม้ว่าผิงเสี่ยวหลิงจะเป็นแค่ลูกศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งผิงปู๋จิ้ว แต่ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียงแล้ว กลับได้รับการขนานนามว่าเป็นหมอเทวดา
ติดอยู่ที่ในเรื่องอายุของตนเอง ผิงเสี่ยวหลิงจึงไม่อยากที่จะลงมือกับอาชง เพียงแค่สะบัดข้อมือ ก็มีเข็มเงินเล่มหนึ่งปรากฏออกมาจากนิ้วของเขาโดยพลัน จากนั้นก็โยนพุ่งเข้าไปที่ช่วงท้องน้อยของอาชง
เข็มเงินไร้เสียง ได้มุดจมเข้าไปในจุดชีพจรตรงบริเวณกระเพาะปัสสาวะของอาชง
ทันใดนั้น อาชงก็รู้สึกว่าตัวสั่น ควบคุมตนเองไม่ได้ แล้วก็ปัสสสาวะรดกางเกง
อาชงตะลึงงันเลยทีเดียว
อาชงยืนอยู่กับที่ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวไปไหน
แต่ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไร ก็ยังอดทนไม่ไหว และรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า มีความอบอุ่นที่ไหลลงมายังขากางเกงของตน
กางเกงสูทเปียกปอนไปหมดแล้ว
สีหน้าท่าทางที่เย็นชาของอาชงนั้น ก็เปลี่ยนไปจนพูดอะไรไม่ออกเลย
ใบหน้าที่ขาวนวลราวกับหยก ก็เปลี่ยนไปเป็นสีแดงก่ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...