เสิ่นจูนอี๋ไม่กล้าสบตาที่เยือกเย็นของเย่อู๋เทียน
เพียงแค่กล้าบ่นในใจ
ยางอายเหรอ?
ฉันอยู่ตรงหน้าของเย่อู๋เทียน ไม่เอาชีวิตแล้ว ฉันจะมียางอายไปทำไม?
ถ้ายางอายสามารถรักษาชีวิตได้ ก็เอามาติดไว้บนหัวเตียงของเย่อู๋เทียนก็ได้!
แต่เมื่อคิดถึงการสนทนาที่เย่อู๋เทียนเพิ่งจะคุยกับชายชรา เสิ่นจูนอี๋ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะตำหนิ
ตอนแรกคิดว่า เย่จื่อหลงสามารถที่จะชนแก้วกับผู้บัญชาปกครองชายแดนแห่งประเทศมหาอำนาจได้ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวใจของคนสั่นไหวแล้ว
ตอนนี้ล่ะ?
ชายชราที่ตบหน้าของผู้บัญชาปกครองชายแดนแห่งประเทศมหาอำนาจ ต่อหน้าฝ่ายบาทแห่งประเทศในปีนั้น อยู่ตรงหน้าของเย่อู๋เทียน กลายเป็นคนทำงานซะงั้น!
แม้ว่ามันจะเป็นแค่เรื่องล้อเล่น
แต่เมื่อไหร่กัน ที่เคยเห็นฝ่าบาทสูงส่งของประเทศหลงล้อเล่นกับผู้คน?
ตอนนี้ สี่คำสามารถอธิบายอารมณ์ของเสิ่นจูนอี๋ได้
ไม่มีเรี่ยวแรง
เย่อู๋เทียนน่ากลัวเกินไป ถ้าหากตัวเองต่อต้านเขาอีก มันจะไม่มีอะไรมากไปกว่าตายทางเดียว
สำหรับแผนการวันนี้ ต้องการที่จะรักษาชีวิตเอาไว้ ต้องดันทุรังกับเขาอย่างไม่จำกัด
ตัวเองเป็นลูกผู้หญิง กลัวอะไร?
ก็ร้องไห้โวยวาย!
ลองก่อนค่อยว่ากัน
คิดแบบนี้ เสิ่นจูนอี๋ก็ตาแดงอีกครั้ง
น้ำตาไหลรินลงมาทันที
น้ำเสียงน้อยใจเหมือนกับคนไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างถูกใส่ร้ายกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม
“เย่อู๋เทียน นายว่า พวกเราก็เป็นญาติกัน นายว่านายรังแกฉันขนาดนี้ ก็ทำลายศักดิ์เจ้ายมบาลชิงตี้ของนายไม่ใช่เหรอ!”
“อีกอย่าง นายไม่เห็นแก่ที่ฉันเป็นน้องเมีย ฉันก็ยังเป็นแม่เลี้ยงของนายน่ะ”
“นายจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้”
“แบบนี้ ความผิดที่ฉันก่อไว้ ไม่มีอะไรมากกว่ารู้เห็นเป็นใจปกป้องคนเลว คนกระทำความผิดจริงๆคือเย่จินหงและเสิ่นเฟยยู่ นายไปเคียดแค้นกับพวกเขาสิ นายเคียดแค้นฉันทำไม?”
“ต่อให้ถอยไปหนึ่งหมื่นก้าว แม้ว่าปกติฉันจะไม่ชอบหน้าลูกชายของนาย เรื่องที่ลูกชายของนายไปเรียนหนังสือฉันก็เป็นคนช่วยวิ่งเรื่องให้ ไม่อย่างนั้น……เขาจะเรียนโรงเรียนเดียวกันกับซวงซวงได้อย่างไร”
เย่อู๋เทียนยังคงมองดูเสิ่นจูนอี๋อย่างเยือกเย็น
ผู้หญิงคนนี้ หน้าด้านไร้ยางอายอย่างสุดขีดจริงๆ!
แต่ในเวลานี้ ชายชราที่เพิ่งจะออกไปก็ย้อนกลับมา
เห็นเสิ่นจูนอี๋หลั่งน้ำตาต่อหน้าเย่อู๋เทียน
ชายชราก็นิ่งอึ้ง
แต่เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเข้าใจผิดกัน
คิดในใจ
ทั้งสองก็แยกจากกันมาเจ็ดปี ผู้หญิงตรงหน้านี้ในฐานะภรรยาของเย่อู๋เทียน ลำบากหน่อย ก็เป็นเรื่องปกติ
เสิ่นจูนอี๋มองไปที่ชายชราอีกครั้ง และรีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า
เบือนหน้าหนีไป
ฝืนสงบอารมณ์ของตัวเอง
ในเวลาเดียวกัน ก็หวาดกลัวอย่างสุดขีด
กลัวว่าเย่อู๋เทียนจะบอกตัวตนของเธอกับชายชรา
ถ้าเป็นเช่นนั้น…….
ต่อหน้าชายชราโกหกว่าตัวเองเป็นคนรักของเย่อู๋เทียน ขายหน้าเป็นอย่างมาก
เสิ่นจูนอี๋ต้องการหลบหนี แต่ก็ยังต้องการฟังดูว่า ทำไมชายชราถึงได้ย้อนกลับมา
เย่อู๋เทียนก็สงสัยว่าทำไมชายชราถึงยังไม่กลับไป
ชายชรากระแอมเบาๆ และพูดกับเย่อู๋เทียน
“ตำรายาใบสั่งยาปรับสมดุลร่างกาย นายยังไม่ได้ให้ฉัน”
น้ำเสียงของเย่อู๋เทียนราบเรียบ
“เดี๋ยวจะส่งไปที่โทรศัพท์ส่วนตัวของคุณ”
เสิ่นจูนอี๋ที่อยู่ข้างๆได้ยิน หัวใจก็สั่นสะท้าน
เย่อู๋เทียน ไม่นึกเลยว่าจะมีหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวของฝ่าบาทผู้สูงส่งด้วยเหรอ?
ทั้งสองคนสามารถติดต่อกันอย่างลับๆได้?
แต่คำพูดต่อมาของเย่อู๋เทียน ก็ทำให้เสิ่นจูนอี๋ตกใจอีกครั้ง
“ช่างเถอะ ส่งไปที่โทรศัพท์ลูกสาวของคุณดีกว่า เด็กนั้นติดตามฉันมาหลายปี ก็ไม่เคยพูดว่าคุณดีเลยสักประโยคเดียว ฉวยโอกาสนี้ให้เธอกลับไปเยี่ยมคุณ”
ใบหน้าของชายชราไม่พอใจ
“เธอพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับฉัน?”
เย่อู๋เทียนพูดขึ้นอย่างราบเรียบ
“ก็ไม่มีอะไร ตั้งแต่เด็กจนโต เจอกับคุณแค่ไม่กี่ครั้ง บ่นว่าคุณงานยุ่งเกินไป และทุกครั้งที่เจอกัน พวกคุณก็ไม่ได้สนิทกันเหมือนพ่อลูกทั่วไป คุณก็เหมือนกัน เจอกันทีไร ก็ชี้หน้ากล่าวหาเป็นข้อๆ นี่ไม่ได้เรื่องนั่นไม่โอเค คนอื่นเขาจะเห็นว่าคุณดีได้เหรอ”
ใบหน้าของชายชรากระตุก
ก็รู้สึกได้ว่า ถึงแม้ว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ พูดออกมาก็คงไม่สวยงาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...