โจวซีถามหยั่งเชิง
“ถ้าเช่นนั้น...นับจากวันนี้เป็นต้นไป เมื่ออยู่ต่อหน้าชิงตี้แล้ว บ่าวจะเรียกตนเองว่าน้อง?”
“ ? ”
เย่อู๋เทียนมองโจวซีด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
ไม่พูดอะไร
โจวซีหน้าแดงระเรื่อ และกระทืบเท้าเหมือนสาวน้อย
“ต่อไปเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านแล้ว บ่าวจะเรียกตนเองว่าน้อง! ถึงตีให้ตายก็จะไม่เปลี่ยนสรรพนาม!”
หลังจากกล่าวประโยคนี้ออกมา
ลูกศิษย์หญิงที่อยู่ข้างหลังโจวซี ต่างหันหน้าไปทางอื่น
พวกเธอแกล้งทำเป็นไม่เห็นด้านที่แรดของโจวซี
กลับกัน เย่อู๋เทียนเป็นฝ่ายที่ไม่สามารถทนเห็นโจวซีทำตัวแรดต่อหน้าตนเองได้ ดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“คุณรออยู่ที่อาศรมหวินซีก่อน เพราะผมไปเขาเอ๋อเหมยกับคุณคราวนี้ ผมต้องบอกภรรยาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ผมไม่ได้เจอเธอหลายวันแล้ว ผมคิดถึงเธอมาก”
คำพูดเหล่านี้ เป็นความในใจของเย่อู๋เทียน
เย่อู๋เทียนที่เหมือนมังกรดุดัน อยู่กับโจวซีเป็นเวลาหกวัน
ยิ่งไปกว่านั้น ต้องเผชิญกับเสียงกรีดร้องของโจวซีทุกวัน......
มันอึดอัดจริง ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เวลาหกวันนี้ นอกจากเผชิญหน้ากับโจวซีแล้ว ยังต้องเผชิญหน้ากับลูกศิษย์สาวสวยเหล่านี้ของเธอด้วย!
คิดถึงภรรยา
เป็นเรื่องปกติ
ทำให้โจวซียิ่งอยากรู้เรื่องของเสิ่นรั่วชิงมากยิ่งขึ้น แล้วศิษย์รักที่เย่อู๋เทียนกล่าวถึงก่อนหน้านั้นเป็นใครกันแน่?
ดังนั้น โจวซีจึงถามหยั่งเชิงเย่อู๋เทียน
“น้องลงภูเขาพร้อมกับท่านได้ไหม? น้องหมายความว่าท่านมีบุญคุณกับน้องขนาดนี้ น้องต้องไปเยี่ยมเยือนคุณนายแล้ว........”
เย่อู๋เทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และกล่าวว่า
“แต่คุณต้องรับปากเงื่อนไขของผมหนึ่งข้อ”
โจวซีดีใจทันที
“ท่านพูดออกมาเถอะ”
เย่อู๋เทียนกล่าวด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติ
“อย่าเรียกตนเองว่าน้องต่อหน้าผมอีก มันจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้”
โจวซีกลอกตาแล้วตอบด้วยรอยยิ้ม
“เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณนายแล้ว น้องจะไม่แสดงตัวว่าเป็นอนุภรรยาของท่าน น้องเข้าใจกฎระเบียบนี้ดี”
“……”
เย่อู๋เทียนพูดไม่ออกชั่วขณะอีกครั้ง
เย่อู๋เทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และออกคำสั่ง
“งั้นคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ”
โจวซีกัดริมฝีปากล่างแล้วถามว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...