สมกับคำว่า เฝ้าเธอมาหลายพันคืนโดยไม่เรียกร้องบุญคุณใดทดแทน!
ผิงปู๋จิ้วที่ยืนข้างกายเย่อู๋เทียน
ไม่ได้เห็นเย่อู๋เทียนอหังการ์อย่างนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ?
พริบตาเดียว ผิงปู๋จิ้วผิดสังเกต เพราะเขาเห็นแววตาเย่อู๋เทียนที่มองเฉียนเป่ยเฉินประหนึ่งเห็นอัญมณีเม็ดงาม!
“เด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะในการฝึกยุทธ์?”
เย่อู๋เทียนหัวเราะเบาๆ
“อัจฉริยะในการฝึกยุทธ์? ไม่เพียงแค่นั้นดอก!”
ผิงปู๋จิ้วได้ยินคำนี้
ยิ่งสงสัยมากขึ้น
ในเวลานี้เอง เฉียนเป่ยเฉินที่ทนมายี่สิบกว่าปีถึงลุกขึ้นยืนเดินเหินได้ หรือกระทั่งวิ่งได้ กลับมายืนตรงหน้าทุกคน
เขามายืนหน้าสองสามีภรรยาเฉียนจิ้งคุนก่อน
พลางคุกเข่าลง
“พ่อครับ!”
“แม่ครับ!”
“เฉินเอ๋อร์อกตัญญู ยี่สิบสองปีมานี้ไม่เคยทำให้พ่อกับแม่สุขสบายเลยสักวัน!”
สองสามีภรรยาเฉียนจิ้งคุนตื่นเต้นถึงขั้นสุด
เหมือนกับฝันไป
ทั้งสองคนคิดเหมือนกัน
นี่คือ...
ลูกชายเรา?
หูเสี่ยวเอ๋อยื่นมือสั่นเทาไปจับใบหน้าเฉียนเป่ยเฉิน
“เฉินเอ๋อร์?”
เฉียนเป่ยเฉินเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ
“แม่ครับ”
หูเสี่ยวเอ๋อกอดหัวเฉียนเป่ยเฉินไว้ทันที
“ลูกแม่!”
“แม่รอวันนี้มายี่สิบสองปีแล้ว!”
“ในที่สุดลูก...ก็ยืนได้แล้ว!”
หูเสี่ยวเอ๋อกอดหัวเฉียนเป่ยเฉินพลางร้องไห้โฮ
เฉียนจิ้งคุนมองลูกเมียตนด้วยเนื้อตัวสั่นเทา น้ำตาไหลรากออกจากตาราวกับเขื่อน
คนที่เห็นภาพนี้ล้วนซาบซึ้งใจ!
อิ่นโม่โฉวเห็นภาพนี้ ยังไม่วายน้ำตาไหล
ต่อให้ผิงปู๋จิ้วขึ้นชื่อเรื่องเจอเรื่องคอขาดบาดตายแต่ไม่ช่วย จิตใจหยาบกระด้างดุจหินผา ตอนนี้ก็น้ำตาคลอเหมือนมีฝุ่นเข้าตาเหมือนกัน
ถึงเย่อู๋เทียนจะไม่ได้ร้องไห้ แต่ในใจก็อดสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้
มองเห็นหูเสี่ยวเอ๋อ เฉียนเป่ยเฉินสองแม่ลูก
เย่อู๋เทียน
นึกถึงแม่ของเขา
เรื่องที่ทำให้คนรู้สึกเสียดายที่สุดในโลกนี้ก็คือ
ลูกอยากกตัญญู
แต่บุพการีไม่อยู่แล้ว!
ในที่สุดหูเสี่ยวเอ๋อก็สะกดกลั้นอารมณ์พลุ่งพล่านของตนไว้ได้ เธอพยุงเฉียนเป่ยเฉินขึ้นมาอย่างสั่นเทา ชี้ไปที่เย่อู๋เทียนพลางบอกเขา
“เฉินเอ๋อร์ คนที่ลูกควรจะขอบคุณมากที่สุดคือ คุณเย่!”
“เขาช่วยลูกไว้!”
“ถึงพ่อกับแม่จะเป็นพ่อแม่แท้ๆของลูก แต่คุณเย่เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดชีวิตใหม่ของลูกอีกครั้ง!”
“ไม่มีเขา ก็ไม่มีลูกในวันนี้!”
เฉียนเป่ยเฉินหันไปทางเย่อู๋เทียน
พลางโขกศีรษะคำนับ
“เฉียนเป่ยเฉิน ขอบคุณบุญคุณที่มอบชีวิตใหม่ให้ของคุณเย่!”
เย่อู๋เทียนยิ้มมองเฉียนเป่ยเฉิน
“ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้”
ถึงจะพูดอย่างนั้น เฉียนเป่ยเฉินยังคงโขกศีรษะต่อไป
ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย
ความซาบซึ้งในบุญคุณมากล้น หากมิอาจพูดออกมาเป็นคำพูดได้
ในตอนที่เฉียนเป่ยเฉินโขกศีรษะให้เย่อู๋เทียนครบสามครั้ง เย่อู๋เทียนยื่นมือพยุงเขาขึ้นมา
พลางถามหนึ่งคำ
“เป่ยเฉิน เธอยอมคารวะผมเป็นอาจารย์ไหม?”
เฉียนเป่ยเฉินอึ้ง
สองสามีภรรยาเฉียนจิ้งคุนก็อึ้งด้วย
ก่อนหน้านี้ตอนเย่อู๋เทียนรักษาให้เฉียนเป่ยเฉินอยู่ ก็เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา
สองสามีภรรยาเฉียนจิ้งคุนยังคิดว่าเย่อู๋เทียนล้อเล่น
ไม่คิดเลยว่า!
เย่อู๋เทียนคิดจะรับเฉียนเป่ยเฉินเป็นศิษย์จริงๆ?
นี่มันเป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ของตระกูลเฉียนเลยนะ!
ผิงปู๋จิ้วและอิ่นโม่โฉวยืนบื้ออยู่กับที่เหมือนกัน
คนแรกตกตะลึงถึงขั้นสุด
ท่านเจ้าหอแห่งหอจักรพรรดิเซียน เย่อู๋เทียนเคยพูดกับปากตนเองเมื่อไหร่ว่าจะรับใครสักคนเป็นศิษย์?
ต่อให้เป็นเฉาจ้านหยาง โล่หวาง
ก็แค่ศิษย์ในนามของเย่อู๋เทียน และไม่เคยได้ทำพิธีกราบไหว้เย่อู๋เทียนเป็นอาจารย์จริงจังเลยด้วยซ้ำ
พอดูท่าทางจริงจังของเย่อู๋เทียนในวันนี้
นี่คือคิดจะรับเฉียนเป่ยเฉินเป็นศิษย์ถ่ายทอดวิชาจริงๆ?
นี่...
นี่มันช่างเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
อิ่นโม่โฉวเองก็ตกตะลึงถึงขั้นสุด ในเวลาเดียวกันก็กำลังครุ่นคิดโดยไม่รู้ตัว
ตามลำดับขั้น
เย่อู๋เทียนมีบุญคุณที่ถ่ายทอดวิชาแก่ทั่วทั้งตระกูลอิ่น
ดังนั้น...
เย่อู๋เทียนสมควรอยู่ระดับเดียวกับผิงปู๋จิ้ว หรืออาจจะสูงกว่าผิงปู๋จิ้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...