บทที่ 1 ของขวัญชิ้นใหญ่
“นายน้อย นายท่านให้พวกเรามาเชิญนายน้อยกลับบ้านเพื่อสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล”
ชายในชุดสูทรองเท้าหนังพูดกับชายหนุ่มอายุราวยี่สิบกว่าๆ ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเคารพ ด้านหลังของชายในชุดสูทติดตามด้วยชายฉกรรจ์ชุดดำราวยี่สิบกว่าคน พอเห็นก็รู้ว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน
ชายหนุ่มสวมใส่ชุดทหารเก่า ๆ บนใบหน้าของเขามีแววบุคลิกที่ไม่สอดคล้องกับอายุของเขา เขามองชายในชุดสูทเพียงแวบเดียว แล้วหัวเราะอย่างเย็นชาพลางกล่าว: “หลังจากที่พ่อแม่ของฉันได้ถูกพวกเขาบีบคั้นจนตาย ฉันก็ไม่ใช่คนของตระกูลฟางอีกต่อไป”
“ตาเฒ่านั่นคิดว่าฉันเป็นหมาตัวหนึ่งหรือไง? ที่เรียกก็มา โบกมือก็ไป?”
ชายในชุดสูทร้อนใจ พูดอย่างเร่งรีบ: “นายน้อย นายท่านได้เสียใจกับการกระทำในครั้งนั้นเป็นอย่างมาก หวังว่านายน้อยอย่าได้...”
“พอแล้ว ตั้งแต่วินาทีแรกที่ฉันเดินออกมาจากบ้านตระกูลฟาง ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะกลับไปอีกเลย” ฟางเหยียนขัดจังหวะชายในชุดสูทในทันที
“กลับไปบอกฟางจินหยวน ถ้าหากยังมารบกวนฉันอีก ฉันจะทำลายตระกูลฟางซะ”
พูดจบฟางเหยียนก็ได้เดินจากไปอย่างไม่ไว้หน้า
รอจนกระทัั่งฟางเหยียนจากไปจนไม่เหลือแม้เหงา ชายในชุดสูทถึงได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เวลานี้ เสื้อผ้าของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ สามารถปฏิเสธตำแหน่งผู้นำตระกูลบ้านตระกูลฟาง ตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งแห่งเจียงตูได้ ก็คงมีแค่ฟางเหยียนเพียงคนเดียว
รถหงฉีสีดำคันหนึ่งจอดรอฟางเหยียนอยู่ที่ด้านหน้าของสนามบินได้สักพักใหญ่แล้ว
หลังจากที่เห็นฟางเหยียน ชายหนุ่มร่างกายแข็งแรงกำยำคนหนึ่งยืดหลังตรง แสดงท่าวันทยหัตถ์ กล่าวด้วยความตื่นเต้น: “กระผมพลโทเทียนขุยสังกัดสำนักเจ็ดพิฆาตชายแดนภาคใต้ขอแสดงความเคารพต่อจอมพลโผ้จวิน!”
ฟางเหยียน ตำนานของกองทัพ อาวุธสำคัญของประเทศ! อายุยี่สิบเข้าร่วมกองกำลังทหารชายแดนภาคเหนือ ในห้าปีที่ผ่านมาความดีความชอบล้นเหลือ จัดตั้งสำนักเจ็ดพิฆาตแพร่กระจายไปทั่วเขตชายแดนของประเทศ สำนักเจ็ดพิฆาตไม่ได้เป็นเพียงแค่ฝันร้ายของกองทัพต่างชาติ ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นกำแพงเหล็กอันแข็งแกร่งของประเทศหวา!
ตำนานเช่นนี้ ต่อให้เป็นพลโทชายแดนภาคใต้อย่างเทียนขุยก็ทำได้เพียงแค่เลื่อมใส ศรัทธา
ฟางเหยียนเพียงพยักหน้าเป็นสัญลักษณ์ จากนั้นจึงขึ้นรถไป
“เทียนขุย ไม่เจอกันนาน เลื่อนขั้นเป็นนายพลแล้วเหรอนี่”
“โผ้จวิน ไม่ว่ากระผมจะเลื่อนขั้นไปตำแหน่งไหน ชีวิตของผมก็เป็นของท่าน ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะท่าน กระผมคงตายไปนานแล้ว”
ฟางเหยียนยิ้มเบา ๆ ไม่ได้พูดอะไรอีก
ผ่านไปสักพัก เทียนขุยเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ กล่าวว่า: “โผ้จวิน เรื่องที่ท่านให้กระผมตรวจสอบ กระผมตรวจสอบเจอแล้ว เป็นฝีมือของตระกูลเซียว ตอนนี้ธุรกิจของตระกูลเย่กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ล้วนถูกตระกูลเซียวกว้านซื้อในราคาต่ำ”
ใบหน้าที่เดิมทีเคร่งขรึมของฟางเหยียนเคร่งเครียดขึ้น กัดฟันพลางกล่าวว่า “ตระกูลเซียว!”
ครึ่งปีก่อน ตระกูลเย่ตระกูลใหญ่หนึ่งในสามแห่งเมืองจินโจวได้ตกต่ำลง เย่เทียนพ่อบุญธรรมของฟางเหยียนถูกคนวางแผนเล่นงาน ทำให้ต้องฆ่าตัวตาย
เย่เทียนเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของพ่อของฟางเหยียน ตอนอายุแปดขวบพ่อแม่ของฟางเหยียนถูกบีบคั้นจนตาย จากนั้นฟางเหยียนจึงได้ติดตามเขา
พระคุณที่เย่เทียนมีต่อฟางเหยียนหนักเท่าภูเขา เย่เทียนรักและเอ็นดูเขาราวกับลูกแท้ ๆ ทั้งยังยกเย่ชิงหยู่ลูกสาวของตัวเองให้แต่งงานกับเขา! พูดได้ว่า บนโลกใบนี้นอกจากพ่อแม่ของเขาแล้ว เย่เทียนเป็นคนที่ดีกับเขามากที่สุด
เขาคาดไม่ถึงว่า เขาจะได้รับข่าวการตายของเย่เทียนในตอนที่เย่เทียนตายไปได้ครึ่งปีแล้ว
เป็นถึงพลตรี ฉายาโผ้จวิน ปกป้องประเทศชาติบ้านเมือง แต่ว่า เขากลับไม่รู้แม้แต่ว่าคนที่เขารักได้ตายไปแล้ว
ความรู้สึกนี้ มีใครบ้างที่จะเข้าใจ?
เขากลับมาในครั้งนี้ จะต้องให้ตระกูลเซียวชดใช้อย่างแน่นอน
ตระกูลเซียวเป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งแห่งเมืองจินโจว ในสองปีมานี้ตระกูลเย่ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ตระกูลเซียวรู้สึกไม่พอใจ เพื่อที่จะประครองตำแหน่งตระกูลอันดับหนึ่งให้คงที่ ตระกูลเซียวได้คิดหาทุกวิถีทางเพื่อกำจัดตระกูลเย่
“โผ้จวิน ให้กระผมไปกำจัดตระกูลเซียวเถอะ”
“ไม่ต้อง เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจะเป็นคนจัดการเอง”
เทียนขุยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “โผ้จวิน ฐานะของท่านในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเลย”
บนใบหน้าของฟางเหยียนพลันปรากฏรอยยิ้มอันเย็นชา จากนั้นสีหน้าของเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด: “นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน”
“ไปส่งฉันที่บ้านใหญ่ตระกูลเย่ ฉันอยากกลับบ้านไปดูสักหน่อย”
“ครับ!” เทียนขุยตอบรับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ