เสวียนเจิ้น “……”
อดทนต่ออารมณ์ที่พลุ่งพล่าน บังคับตนเองให้สงบ แต่ยังไม่หายโกรธ!
เคยเห็นคนเสแสร้ง แต่ยังไม่เคยเห็นคนที่เสแสร้งมากเท่าหางเหยียนมาก่อน จนทำให้เขารู้สึกว่าการประณามดีกว่าการทำร้ายร่างกาย!
ไอ้หมอนี่ช่างเสแสร้งเก่งจริง ๆ!
จัดการคนสิบแปดคน บอกว่าใช้พลังไปไม่ถึงสามส่วน?
เสแสร้งเก่งจนไม่มีใครเกินเขาเลย!
ไม่ถูก!
ทันใดนั้นเสวียนเจิ้นก็ได้สติ ความแข็งแกร่งของคนสิบแปดคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นนินจาระดับปรมาจารย์ หรือแม้แต่นินจาระดับยอดดาวเหนือ พวกเขาก็สามารถต่อสู้ได้ และถึงแม้จะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่ไม่ถึงกับพ่ายแพ้ด้วยกระบวนท่าเดียว?
ครุ่นคิดอย่างละเอียด!
ฟางเหยียนเจตนาซ่อนพลังของตนเอง และแกล้งทำเป็นคนอ่อนแอ เพื่อหลอกลวงให้ศัตรูตายใจ?
เขาเสแสร้งแกล้งทำ!
ดูเหมือนจะไม่ให้โอกาสเสวียนเจิ้นได้ครุ่นคิด เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่ว และกองทัพเหล่านี้เห็นความตายเหมือนดั่งคืนสู่มาตุภูมิ ถ้าไม่สามารถเอาชนะศัตรูก็จะไม่กลับบ้านเกิด ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับนินจามากมาย และทหารเหล่านี้ไม่มีกำลังภายใน แต่กลับไม่กลัวเหล่านินจา พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว และเห็นความตายเหมือนดั่งคืนสู่มาตุภูมิ อะไรที่หนุนความเชื่อของพวกเขา ที่สามารถทำให้พวกเขาไม่กลัวความตายแม้แต่น้อย?
ดูเหมือนว่าเสวียนเจิ้นที่อยู่บนศาลาจะรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ แต่เขาไม่เข้าใจว่าเกิดความผิดปกติที่จุดไหน!
พลังของฟางเหยียนนั้นเกินความคาดหมายของเขา แต่ทหารธรรมดาเหล่านี้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นกองกำลังที่ถูกละเลย!
หลังจากตกตะลึงอยู่สักครู่ เสวียนเจิ้นมองสิบแปดคนที่นอนอยู่บนพื้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “องค์กรสัตว์เพลิงซึ่งดำรงอยู่นานกว่าสองพันปี วันนี้ถูกพวกคุณสิบแปดคนทำให้อับอายขายหน้า คนตั้งสิบแปดคนแต่ไม่สามารถฆ่าระดับปรมาจารย์แค่คนเดียวได้ ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก แล้วผมจะมีพวกคนไว้ทำไม!”
คนสิบแปดคนรู้สึกทุกข์อย่างแสนสาหัส ต่างมองหน้ากัน และสุดท้ายพวกเขาอดทนต่อความเจ็บปวดแล้วลุกขึ้นมา ทุกคนต่างเก็บความขมขื่นไว้ในใจ และคลื่นกำลังภายในที่ปะทุขึ้นจากคนสิบแปดคนนี้ ดูเหมือนจะทำให้สนามฝึกกลายเป็นขี้เถ้า ซึ่งเป็นพลังที่แข็งแกร่งจนควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือคลื่นกำลังภายในที่ฟางเหยียนระเบิดออกมานั้นจะรุนแรงมากขนาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงสนามฝึก เกรงว่าถ้าโจมตีสุดกำลังแล้ว ท้องฟ้าทั้งหมดจะถูกทำลาย!
มีเพียงสิบแปดคนเท่านั้นที่เข้าใจความทุกข์ยากของพวกเขาอย่างชัดเจน เมื่อสักครู่ฟางเหยียนใช้พลังสามส่วน ก็ทำให้พวกเขาไม่รับบาดเจ็บสาหัส หากเพิ่มอีกสองส่วน แล้วพวกเขาจะยังมีโอกาสรอดไหม?
ไม่มีใครรู้อย่างชัดเจน ตอนนี้พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าถูกก้อนหินใหญ่ทับ ซึ่งทำให้พวกเขาหายใจลำบาก!
สาขาดิน มีเพียงสิบแปดคนเท่านั้น เป็นสาขาที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากสาขาฟ้า ไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่ง สิบแปดคนนี้เป็นคนที่มีอํานาจบารมีสูง ได้รับการสนับสนุนจากคนมากมาย กล่าวได้ว่าพวกเขาเป็นคนที่เก่งเหนือคนอื่น ความแข็งแรงและสถานะเป็นอันดับสองรองจากสาขาฟ้า สามารถกล่าวได้ว่ามีสถานะอยู่ใต้สาขาฟ้าเท่านั้น และอยู่เหนือคนองค์กรสัตว์เพลิงทั้งหมด!
แต่คาดไม่ถึงว่าการโจมตีที่รุนแรง จะทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนถูกบดขยี้อยู่บนพื้น นี่เป็นการนำศักดิ์ศรีและหน้าตาของพวกเขาไปบดขยี้บนพื้น และถูกสั่งสอนอย่างรุนแรง แล้วจะไม่ให้พวกเขาโกรธได้อย่างไร!
หลินเหย้าเทียน ถังจู่สาขาดินเงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าพวกเราทุกคนประเมินความสามารถที่แท้จริงของฟางเหยียนต่ำเกินไป ถ้าเป็นเช่นนั้นต่อไป เกรงว่าพวกเราทั้งหมดจะพ่ายแพ้ ดังนั้นรีบพัฒนาความแข็งแกร่งของพวกเราโดยเร็ว เพื่อปกป้องความปลอดภัยขององค์กรสัตว์เพลิง และการปกป้องความปลอดภัยของตนเองเช่นกัน”
หลังจากนั้น หลินเหย้าเทียนกินยาเม็ดสีแดง พลังของเขาทะยานสูงขึ้น และทะลวงถึงนินจาระดับปรมาจารย์ทันที คนที่เหลืออีกสิบเจ็ดคนไม่ต้องการล้าหลัง แต่ละคนก็กินยาเพื่อปรับปรุงระดับของตนเอง แล้วพลังของพวกเขาก็ทะยานขึ้นอีกครั้ง!
พรึ่บ!
มันน่าสะพรึงกลัวมาก!
นินจาระดับปรมาจารย์สิบเอ็ดคน และนินจากึ่งปรมาจารย์เจ็ดคน!
พลังนี้มันสามารถทำลายฟ้าดินได้ ซึ่งถือเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน!
รอยยิ้มที่หายไปได้ปรากฏบนใบหน้าของเสวียนเจิ้นอีกครั้ง นี่ถึงจะเป็นหลินเหย้าเทียนที่เขารู้จัก และนี่คือสาขาดินที่เขารู้จักดี!
คนสิบแปดคนปล่อยกำลังภายใน และพลังที่แข็งแกร่งกวาดไปทั่ว ทำให้คนของทั้งสองฝ่ายตกตะลึงทันที
เทียนขุยกล่าวพึมพำอย่างงุนงง “โอ้ นินจาระดับปรมาจารย์สิบเอ็ดคน และนินจากึ่งปรมาจารย์เจ็ดคน!”
สีหน้าของเทียนกางเต็มไปด้วยความขมขื่น “ตอนนี้ผมเข้าใจคำพูดที่พี่ใหญ่มักพูดเสมอว่าเป็นคนต้องถ่อมตน สิ่งที่พวกเราเห็นนั้นเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรสัตว์เพลิงเท่านั้น ความแข็งแกร่งองค์กรสัตว์เพลิงนั้นน่ากลัวมาก พวกเราไร้ประโยชน์จริง ๆ มันเป็นเพียงตัวถ่วงความเจริญของพี่ใหญ่เท่านั้น”
เทียนฝู่เงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่จะสามารถต้านได้หรือไม่........ ”
สีหน้าของชิงตี้เปลี่ยนไปอย่างมาก มองพลังที่ทะยานอยู่ด้านข้างด้วยความมึนงง ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอไม่รู้ความน่าสะพรึงกลัวที่แท้จริงขององค์กรสัตว์เพลิง แต่ตอนนี้เธอดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว
เหตุใดองค์กรสัตว์เพลิงถึงสามารถดำรงอยู่ได้นานกว่าสองพันปี และถึงแม้ว่าเสวียนเย่จะถูกกดขี่อย่างไรแต่ยังต้องการอยู่ในองค์กรสัตว์เพลิง ทั้งหมดนี้มาจากความแข็งแกร่งที่แท้จริงขององค์กรสัตว์เพลิง ซึ่งทำให้ทุกคนตกตะลึง เพราะมันแข็งแกร่งทรงพลังจนไร้เหตุผล และถ้าได้ครอบครององค์กรสัตว์เพลิง ก็จะสามารถควบคุมประเทศหวาได้แน่นอน
เทียนเต๋อลงมือโจมตีจนศัตรูคนหนึ่งกระเด็นออกไป และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “รีบกำจัดคนเหล่านี้ เพื่อจะได้ช่วยพี่ใหญ่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ