บทที่ 29 เวินหลานถวายตัว
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อสักครู่ ดวงตากลมโตงดงามคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ตลอด
เธอตกใจจนไม่กล้าแม้หายใจแรง
“ให้ตาย เป็นคนยังไงกันแน่ ทำไมถึงได้มีคนแบบนี้อยู่ ฆ่าคนไม่กะพริบตาเลย” เวินหลานตบหน้าอกของตัวเอง หายใจถี่รัว
แต่ ในเวลานี้เอง มือหนาที่มีพละกำลังมากจับเธอเอาไว้ เธอหันกลับไปมอง เป็นฟางเหยียน
ฟางเหยียนไม่ให้โอกาสเธอได้พูดอะไรสักคำ พลันลากเธอขึ้นไปบนรถหงฉีถึงได้ปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ
เทียนขุยเห็นฟางเหยียนแบกผู้หญิงขึ้นมาบนรถ จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “จอมพลโผ้จวิน ท่านนี้คือ?”
“พูดมา? เธออยากตายหรืออยากมีชีวิตอยู่?” ฟางเหยียนกล่าวถามอย่างเย็นชา
เมื่อเทียนขุยได้ยินฟางเหยียนพูดอย่างนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
เวินหลานจับจ้องฟางเหยียนและเทียนขุยด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็ว ความตายที่เขาว่าไม่ได้เอาไว้หลอกเด็กแน่ เพราะเมื่อสักครู่พวกเขาเพิ่งฆ่าคนไป
เธอกลืนน้ำลายอึก “ฉันก็ต้องอยากมีชีวิตอยู่สิ ใครอยากจะตายบ้างล่ะ”
“ที่สะกดรอยตามผม ต้องการอะไร? ว่ามา” ฟางเหยียนยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เวินหลานลอบกลืนน้ำลาย “อันที่จริงฉันไม่ได้มีจุดประสงค์อะไร ก็แค่จะมาขอร้องคุณอย่าถือสาฉันเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว ฉันอยากขอโทษคุณจริงๆ ฉันต้องการสัญญาฉบับนี้มาก หากไม่มีสัญญาฉบับนี้ ฉันอาจจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
“เพียงเพราะเรื่องนี้งั้นเหรอ?” สายตาของฟางเหยียนค่อยอ่อนโยนลงมาบ้าง บรรยากาศก็ดีขึ้นมาหน่อย
“ใช่สิ เพราะเรื่องนี้”
“เมื่อกี้นี้คุณเห็นทุกอย่างใช่ไหม?”
“เอ่อ ฉัน...ฉันไม่เห็นอะไรเลย ไม่เห็นอะไรเลย” เวินหลานมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ไม่น้อย เธอรู้อยู่แล้วว่าฟางเหยียนหมายความว่ายังไง หากบอกว่าเธอเห็น ก็เท่ากับว่าต้องถูกฆ่าปิดปาก
“ดี! ฉันเองก็หวังว่าเธอจะไม่เห็นอะไรเลย” จบคำฟางเหยียน เทียนขุยจอดรถกะทันหัน
“ไสหัวไปได้แล้ว!” ฟางเหยียนเอ่ยอย่างเย็นชา
“เอ่อ!” เวินหลานเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ “คุณยังไม่ได้ตองตกลงฉันเรื่องสัญญาเลย”
“ฉันไม่อยากพูดซ้ำสอง” คนที่เย็นชาอย่างฟางเหยียน นอกจากเย่ชิงหยู่แล้ว ไม่มีทางที่เขาจะใจกว้างกับใครเป็นคนที่สอง
“ไม่ใช่ หากคุณไม่ตอบตกลงฉัน ฉันก็จะไปไหนทั้งนั้น! ยังไงซะหนทางของฉันในตอนนี้ก็มีแต่ตาย หากเทียบกับถูกพวกเขาเฆี่ยนแล้ว สู้ให้ฉันตายในเงื้อมมือของคุณเสียยังจะดีซะกว่า” เวินหลานกอดอก ทำทีท่าราวกับยอมรับชะตากรรม
ฟางเหยียนถลึงตาใส่เวินหลานอย่างไร้ความอดทน แต่เวินหลานกลับคว้าแขนของฟางเหยียนเอาไว้ “ถ้าอย่างนั้น เอางี้ดีไหม! ให้ฉันเป็นเมียน้อยของคุณ ไม่ต้องให้เงินฉัน ฉันต้องการแค่ให้คุณตอบรับ เรื่องสัญญา”
เธอเอ่ย พลางวางมือของฟางเหยียนลงบนท่อนขาขาว
เวินหลานรู้ดีว่าความงามจองเธอไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถปฏิเสธได้ พวกผู้ชายที่อายุสี่ห้าสิบปีเมื่อเห็นเธอยังไม่สามารถหักห้ามใจได้ ไหนนี่จะเป็นหนุ่มน้อยวัยนี่สิบต้นๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพละพลัง และฮอร์โมนที่พลุ่งพล่าน
เสน่ห์ของเธอ เป็นอาวุธชั้นดีที่เอาไว้สังหารชายหนุ่มที่ดี
เธอครางออกมาเสียงแผ่ว คิดที่จะใช้ทั้งหมดของเธอเพื่อสยบชายคนนี้
ฟางเหยียนนิ่งไม่ไหวติง เวินหลานคิดว่าเธอทำสำเร็จแล้ว จึงใจกล้าเอื้อมแขนไปลูปไล้เรือนร่างของฟางเหยียน
ไม่นาน เธอก็ถูกฟางเหยียนโยนลงจากรถทันที
“เห้ย ทำอะไรของนาย? เข้าใจการอ่อนโยนต่อหญิงสาวผู้บอบบางบ้างไหม?” เวินหลานตะโกนเข้ามาในรถ
แต่รถของฟางเหยียนได้เคลื่อนออกจากที่ไปแล้ว เธอโกรธจนกระทืบเท้าอย่างแรง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องอับอายขายขี้หน้าถึงขนาดนี่ เธอยอมถวายตัว อยากจะเล่นสนุกบนรถ แต่กลัวถูกโยนลงมาซะได้
“หรือว่าฉันสู้ภรรยาของเขาไม่ได้หรือไง?” เธอตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธจัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ