คนที่พูดคือเห้ออีกาง เขาท่าทางคางคกขึ้นวอ กำลังมองลงมาจากปากของคุกใต้ดิน ใบหน้ายังเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม เดิมทีแค่ยิ้มเท่านั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนนี้มันคิดอะไรอยู่ จู่ๆก็“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ!”หัวเราะขึ้นมา หลังจากหัวเราะบ้าคลั่งไปสักพัก เขาพูดกับฟางเหยียนว่า “ดูว่าแกจะตายมั้ย ดูว่าแกจะยังโอหังอีกมั้ย ฉันบอกตั้งนานแล้ว ว่าแกจะต้องตายอย่างน่าอนาถ ตอนนี้ เชื่อหรือยัง?”
“ถุย!” พูดพลาง เห้ออีกางถ่มน้ำลายใส่ฟางเหยียน จากนั้นก็หัวเราะบ้าคลั่งฮ่าๆๆ
ฟางเหยียนขี้เกียจจะสนใจไอ้สวะนี่ ไอ้สวะนี่ไม่คุ้มค่าที่จะให้เขามาสนใจ ถ้าจะฆ่าไอ้สวะตัวนี้ ก็แค่ขยับมือนิดหน่อยก็ได้แล้ว เขาเงยหน้ามองไปรอบๆ หาโอกาสที่จะฝ่าฟันอยู่ เมื่อเงยหน้าก็ได้เห็นอู๋หมิงที่ยืนอยู่ที่ปากคุกใต้ดินพอดี
อู๋หมิงกำลังยืนอยู่ตรงกลางของเหล็กแผ่นแข็งสองเส้นพอดี เหมือนกับยืนอยู่บนหัวของตน เขาจงใจแสดงท่าทีสูงส่ง อยู่เหนือแกตลอดกาลออกมา
ในตอนที่ฟางเหยียนเตรียมจะพูดออกมา กำแพงทั้งสี่ข้างของคุกใต้ดินจู่ๆมีเสียงแคร้งดังขึ้น จากนั้นมีคนสี่คนออกโผล่จากทั้งสี่ด้าน สี่คนนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้หิน เก้าอี้หินนั้นเหมือนขยับได้เอง หลังจากที่ประตูหินของกำแพงเปิดออกแล้ว พวกเขาขยับออกมาเอง ทั้งสี่คนล้วนผมหงอก เครายาว ใส่เสื้อคลุมยาวเลยหัวเข่าสีขาว ดูท่าทางของพวกเขาแล้วให้อารมณ์ของนักพรต ถ้าตนเดาไม่ผิดล่ะก็ พวกเขาน่าจะเป็นผู้เฒ่าที่อายุมากกว่าร้อยปี แต่สิ่งที่แปลกคือ หลังจากที่พวกผู้เฒ่าเดินออกมาแล้ว ไม่ได้ลืมตา เพียงแต่หน้าตาเศร้าหมองซีดขาว
ฟางเหยียนไม่รู้ว่าพวกเขาหลับลึกไปนานเท่าไหร่แล้ว ยังไงท่าทางที่แปลกประหลาดนี้เมื่อดูแล้วทำให้คนรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่
ในโลกของคนธรรมดา ฉากนี้จะปรากฏขึ้นมาแค่ในทีวีเท่านั้น
อู๋หมิงพูดกับฟางเหยียนที่อยู่ข้างล่างอย่างเย็นชาว่า “แกบอกว่าจะมาล้างบางสำนักไร้หน้าของเรา งั้นแกเคยได้ยินจอมคาถาทั้งสี่ของสำนักไร้หน้ามั้ย?บางทีแกอาจจะเคยได้ยินผู้อาวุโสทั้งแปดของสำนักไร้หน้า แต่ต้องไม่เคยได้ยินจอมคาถาทั้งสี่สินะ?”
“ท่านทั้งสี่คนนี้เป็นจอมคาถาทั้งสี่ของสำนักไร้หน้าของฉัน การบำเพ็ญของพวกเขาหลังจากที่รวมพลังกันทั้งสี่คนแล้วเป็นระดับปรมาจารย์ สามารถฆ่าแกเป็นผิวผงได้ ในชั่วพริบตา ต่อให้แกจะเก่งกาจ มีพลังที่แข็งแกร่ง ก็ต้องตาอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้แกต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ทำได้เพียงยืนอยู่ในกรงยอมรับความเป็นไป!”
จอมคาถาทั้งสี่ของสำนักไร้หน้าเป็นบุคคลสำคัญที่อารักขาสำนักไร้หน้า หน้าที่ของพวกเขา ก็เหมือนกับเป็นแนวป้องกันอันแข็งแกร่งของสำนักไร้หน้า เพียงแค่มีพวกเขาอยู่ ยอดฝีมือของโลกภายนอกก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสานแล้ว แต่ประโยชน์ของท่านทั้งสี่นี้ก็เหมือนกับขวังซือสัตว์ผู้พิทักษ์ของตระกูลฟาง มีแต่ตอนที่สำนักไร้หน้าได้รับภัยอันตรายจริงๆจึงจะปรากฏตัวขึ้นมา
ฟางเหยียนไม่ได้มองผู้เฒ่าทั้งหลายที่อยู่รอบๆ เพียงแต่เงินหน้ามองอู๋หมิงที่อยู่ด้านบน เมื่อเงยหน้า เห็นแค่เท้าของอู๋หมิง แต่นี่ไม่สำคัญ ฟางเหยียนจะไม่มีทางโมโหแค่เพราะใครยืนอยู่ที่ด้านบนของเขา
เพราะคนพวกนี้ในสายตาของเขาไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเป็นศพอยู่ดี ใครจะไปสนใจ เรื่องที่คนตายทำก่อนที่จะใกล้ตายกันเล่า
เขาพูดกับอู๋หมิงอย่างเลือดเย็นว่า “แกคิดว่ากรงใต้ดินนี้ขังฉันได้?”
อู๋หมิงดูแคลนออกมา แล้วกล่าวว่า “แกจะลองดูก็ได้นะ คนที่เคยขังไว้ในกรงใต้ดินของสำนักไร้หน้าของฉันล้วนเป็นยอดฝีมือชั้นนำทั้งนั้น!พวกมันก็เคยพูดคำเดียวกับที่แกพูดนั่นแหละ แต่ ไม่เคยมีใครที่ออกมาจากกรงใต้ดินนี้ได้เลยแม้แต่คนเดียว”
ฟางเหยียนกำหมัดแน่น รวมชี่ในร่างกายไว้ในมือ เขาต่อยไปที่กรงใต้ดินอย่างรุนแรง ได้ยินเสียงปังดังขึ้น พลังถูกสะท้อนกลับมา กรงใต้ดินนี้มีผลในการสะท้อนกลับของชี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ