จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 6

บทที่ 6 ฉันบอกแล้วว่า คนตระกูลเย่ไม่เหมาะ

“เย่ชิงหยู่ เธอต้องทำลายบ้านพวกเราแตกก่อนถึงจะดีใจใช่ไหม เธอรู้รึเปล่าถ้าพวกเราไม่ร่วมมือกับลู่ซื่อกรุ๊ป เดือนหน้าบริษัทจะล้มละลาย” ลุงของจางซื่อตงจางซื่อข่ายได้บอกไว้

ภรรยาของจางซื่อตงเหมียวจินฮัวพูดขึ้นมาว่า “ฉันจะพูดยังไงดีละ ก็ผู้หญิงคนนี้เป็นกาลกิณี พาตระกูลเย่ตกต่ำ ตอนนี้ยังจะมาทำให้ตระกูลจางของพวกเราตกต่ำลงไปด้วย เราไม่ควรจะเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้ตั้งแต่ตอนแรก ตอนนี้เชื่อฉันรึยังล่ะ”

“ก็ใช่นะสิ ตอนนี้ดีแล้ว แต่ละคน เห็นใจเธอด้วยนะ”

“พี่สะใภ้พูดไม่มีผิด เป็นตัวกาลกิณีจริงๆ”

จางไห่เฟิงพูดด้วยความโมโหว่า “คุณปู่ ผมว่าเย่ชิงหยู่หล่อนตั้งใจนะ บ้านหล่อนไม่เหลืออะไรแล้ว เลยไม่อยากเห็นบ้านพวกเราได้ดี แล้วยังมีฟางเหยียนอีก ดูพวกเขาสิ เวลาอื่นไม่มา ดันมาเอาตอนนี้ สองคนนี้เหมาะสมกันจริงๆ ”

“คุณปู่ ถ้าเย่ชิงหยู่ไม่ยอมตกลงแต่งงานกับพี่ลู่ เราก็ไล่หล่อนออกจากบ้านเลยไปซิ ไม่มีตระกูลจาง จะดูซิว่าหล่อนจะใช้ชีวิตยังไง”

จางไห่เฟิงเป็นลูกชายของจางซื่อตง เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเย่ชิงหยู่ เขาไม่ได้เรียนหนังสือ ขึ้นชื่อในเรื่องของผู้หญิง เขาไม่ชอบเย่ชิงหยู่เอามากๆ เพราะเย่ชิงหยู่อยู่ที่กับตระกูลจางขยันทำงานมากๆ จึงทำให้เขาถูกจางฉี่เหาตำหนิอยู่บ่อยๆ ซ้ำยังให้เขาไปเรียนรู้งานกับเย่ชิงหยู่ ลึกๆในใจเขารู้อยู่ว่า ถ้าไม่ไล่เย่ชิงหยู่ออกจากบ้าน เขาจะไม่มีทางได้เป็นคนสำคัญของคุณปู่ เมื่อได้ฟังคำพูดของทุกคนแล้ว สีหน้าของจางฉี่เหาก็เริ่มจริงจังขึ้น

“คุณปู่ ก่อนหน้านี้บ้านของพวกเราไม่ใช่ว่ามีปัญหาการเงินหรอกหรอ ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นฝีมือหล่อน แต่เห็นฟางเหยียนตอนนี้แล้ว ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นฝีมือของเขาสองคนหรือเปล่า” จางไห่เฟิงยังคงพูดใส่ความเย่ชิงหยู่และฟางเหยียน

“จางไห่เฟิง นายอย่ามาพูดใส่ความกันแบบนี้นะ เพื่อบ้านหลังนี้ ก็ฉันทุ่มเททุกอย่าง แต่กลับเป็นนาย นายทำอะไรบ้างล่ะ นอกจากจะด่าฉันหลับหลังแล้ว เธอยังทำอะไรอีก”

เย่ชิงหยู่ทนไม่ไหวจึงตะคอกใส่จางไห่เฟิง

จะพูดยังไงก็เป็นคุณหนูของครอบครัวที่ร่ำรวย เป็นใครใครก็ต้องโกรธ

“โย่ แล้วยังไงล่ะ พูดแทงใจดำเธอรึไง ฉันว่าเธอตั้งใจจะทำลายบ้านฉัน เธอทำลายตัวเองแล้วก็พอแล้ว ยังจะมาทำลายบ้านตระกูลจางอีกหรอ เธอคิดจริงๆหรือว่านี้บ้านของเธอ”

เย่ชิงหยู่โกรธจนกัดฟัน มือกำหมัดแน่นขึ้น

ครึ่งปีมานี้ เธอรู้ว่าไม่ควรก้มหัวให้ใครบ้าง

ถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านคุณตา แต่ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตผ่านไปด้วยดี เธอทำงานอยู่ที่โรงงาน เป็นพนักงานทั่วไปคนหนึ่ง

เธออดกลั้นต่อความยากลำบากเกินที่จะคิดได้ ได้ทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ในอดีต หลังจากที่ผ่านเรื่องราวเหล่านี้มา กลับถึงบ้านยังต้องมาเจอกับคนในบ้านที่พยายามจะใส่ร้ายอีก

ถึงตอนนี้เธอกลายเป็นคนรอบคอบ ทำทุกเรื่องให้ผ่านไปได้ด้วยดี

ในที่สุด เธอก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ แต่กลับถูกคนเหล่านี้ใส่ร้ายป้ายสีหนักกว่าเก่า ทำเหมือนเธอเป็นสิ่งของเพื่อหาผลประโยชน์ เอาเธอไปแต่งงานกับคนที่สามารถให้ผลประโยชน์กับครอบครัวได้

ก่อนหน้าที่จะโดนทิ้งฟางเหยียนยังไม่กลับมา ตอนนี้ ฟางเหยียนกลับมาแล้ว เขายังคงเป็นแบบนี้เช่นเดิม

เธอรู้สึกท้อแท้ หวาดกลัวมาก

ในตอนนั้นเอง ก็มีมือคู่หนึ่งมากุมมือเก็บอารมณ์โกรธของหล่อนไว้

นั้นคือฟางเหยียน การเปลี่ยนแปลงทุกก้าวชีวิตของเย่ชิงหยู่ ทั้งหมดอยู่ในสายตาของฟางเหยียน

เขาก็เห็นชัดเจนแล้วว่า หลังจากตระกูลเย่ตกต่ำลงเย่ชิงหยู่ก็ได้ใช้ชีวิตบนความจริง

หล่อนไม่ใช่คุณหนูที่ใช้อารมณ์แบบเมื่อก่อนอีกต่อไป และไม่ใช่เจ้าหญิงที่สูงส่งคนนั้น

เมื่อได้พบกับเย่ชิงหยู่ ทำให้ฟางเหยียนรู้สึกว่าในใจของเขาได้ผูกหนามไว้หลายพันต้น

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลังจากที่ฟางเหยียนได้กุมมือหล่อน ความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้เหล่านั้นก็ได้เลือนหายไป

“พอได้แล้ว” เสียงที่มีพลังได้แทรกขึ้นมา

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นได้เงียบลง ที่บ้านหลังนี้ ไม่มีใครที่ไม่กลัวจางฉี่เหา หลายปีที่ผ่านมา จางฉี่เหาเคยอยู่ในเมือง หลังจากปลดประจำการได้อยู่ในองค์กรที่มีระบบ ดังนั้นจึงมีความน่าเกรงขาม

“ชิงหยู่ นั่งลง”

เย่ชิงหยู่ได้ยินดังนั้นถึงจะหาที่นั่งนั่งลง ฟางเหยียนก็ได้ถือโอกาสนั่งลงตรงนั้นด้วย

แต่ตอนที่พึ่งจะนั่งลง คุณตาก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดว่า “ฟางเหยียน ฉันให้นายนั่งแล้วหรอ”

ได้ยินดังนั้น ฟางเหยียนก็ชะงักไปชั่วครู่ เย่ชิงหยู่รีบดึงชายเสื้อของฟางเหยียน เพื่อให้เขายืนขึ้น

ตอนในสนามรบชายแดนภาคเหนือ ไม่ได้นั่งก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เหมือนวันนี้แม้แต่นั่งก็ไม่ได้นั่ง ยังไงซะที่นี่ไม่ใช่ชายแดนภาคเหนือ และไม่ใช่สนามรบ แต่เป็นบ้าน ดังนั้นเขาจึงค่อยๆยืนขึ้น

หลังจากฟางเหยียนได้ยืนขึ้น จางฉี่เหากลับไม่ได้คุยกับเขาแม้แต่นาทีเดียว แต่หันไปว่าร้ายเย่ชิงหยู่ “ชิงหยู่ เธอกับไห่เฟิงใครอายุเยอะกว่ากัน”

เย่ชิงหยู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และตอบว่า “เขาอายุเยอะกว่า”

“ในเมื่อเธอรู้ว่าเขาอายุเยอะกว่า มันยากนักหรอที่จะเรียกชื่อเขา เขาเป็นพี่ชายของเธอนะ เธอควรจะเรียกชื่อเขาต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ มันควรจะเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรอ” จางฉี่เหารู้สึกโกรธมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ