จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 642

ตายแล้ว!

หญิงหน้ากากพยัคฆ์ตายแล้ว!

ทุกคนของตระกูลฟางล้วนรู้สึกไม่คาดคิด แต่ศพนั้นโยนไปอีกฝั่งอย่างเหยียดยาว ราวกับกำลังพูดอย่างไร้เสียง

มันดูปลอมเกินไปหรือเปล่าเนี่ย!

หรือฟางเหยียนเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานจริงๆ?

ตอนที่ทุกคนๆของตระกูลฟางมองไปที่ฟางเหยียน ในแววตา ก็อดไม่ได้ที่จะประกายความช็อกและหวาดกลัวออกมา แทบจะในเวลาเดียวกัน ที่ในหัวของทุกคนผุดคำพูดหนึ่งที่ฟางเหยียนคือพูดไว้ ‘การทำลายตระกูลฟางเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก’

ตอนนั้นทุกคนคิดว่าคำพูดนี้ของฟางเหยียนเป็นความคึกคะนองของวัยรุ่น คุยโวไม่กระดากปาก แต่ในขณะนี้ ไม่มีใครกล้าพูดว่าคำพูดนี้ของฟางเหยียนเป็นความคึกคะนองของวัยรุ่นอีก เขาพูดจริงมาโดยตลอด เพียงแต่คนพวกนี้มีตาแต่หามีแววไม่ก็เท่านั้น

แว็บเดียว ทุกคนก็เข้าใจฟางจินหยวนขึ้นมา ว่าทำไมไม่ว่าจะยังไงก็ต้องให้ฟางเหยียนกลับมาที่ตระกูลฟางให้ได้ ต่อให้ตำแหน่งของผู้นำตระกูลของตระกูลฟางเขาก็ยอมสลัดทิ้ง ที่แท้เขาก็กำลังประจบประแจงฟางเหยียนอยู่ เชื่อมต่อไปยังที่ฟางจินหยวนพูดไว้เมื่อก่อนว่า ตระกูลฟางมีฟางเหยียน จึงจะมีชื่อเสียงเรืองนาม ชั่วกาลตลอดไป

ทุกคนเข้าใจแล้ว

ตัวตนของฟางเหยียนและความสามารถ เป็นสิ่งที่ตระกูลฟางต้องคว้าไว้

แทนที่จะพูดว่าตระกูลฟางทำให้ฟางเหยียนสำเร็จ สู้พูดว่าฟางเหยียนยกระดับตระกูลฟางจะดีกว่า

นาทีนี้ฟางไห่อิงน้ำตาเอ่อล้นเต็มดวงตาอย่างตื้นตัน ฟางเหยียนเป็นผู้ใหญ่แล้ว เติบใหญ่จนทุกคนภาคภูมิใจ พ่อแม่ที่อยู่บนสวรรค์ของเขาน่าจะปลาบปลื้มใจแล้ว

หญิงหน้ากากพยัคฆ์ตายแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจบเรื่อง เพราะยังมีอีกสี่คน!

เมื่อฟางเหยียนโยนหญิงสาวเหมือนโยนขยะ สี่คนที่เหลือก็หวาดผวาโดยสิ้นเชิง พูดอย่างไม่เกินจริงคือ ทั้งหมดได้กลัวจนฉี่ราดแล้ว หนังเปลี่ยนไปเป็นคนละม้วนแล้ว ทุกคนของตระกูลฟางที่เดิมทีรอการถูกฆ่า จู่ๆมีชีวิตกลับมาได้แล้วไม่ว่า ยังเหมือนกับดูการแสดงก็มิปราณ มองดูห้าคนนั้นตายไป

นาทีนี้ ทุกคนของตระกูลฟางตื่นเต้นอย่างทาสเป็นไทขับร้องลำนำ ความรู้สึกนี้มีเพียงคนที่ผ่านความตายมาแล้วจึงจะตระหนักได้ คำพูดไม่สามารถอธิบายจิตใจของพวกเขาในตอนนี้ได้

เมื่อนัยน์ตาอันนิ่งสงบของฟางเหยียนมองมา หม่างเทียนคุกเข่าลงกับพื้น ศีรษะเหมือนกับลูกเจี๊ยบจิกข้าว ตรงๆไม่อ้อมค้อม อ้อนวอนรวดเดียวว่า “ลูก ลูกพี่ นาย นายท่าน ปล่อย ปล่อยพวกเราเหมือนผายลมได้มั้ยครับ?ผมมีแม่ที่อายุแปดสิบปี มีภรรยาเป็นโรคที่อายุสี่สิบกว่าปี และลูกชายที่ร่างกายอ่อนแอโรคภัยไข้เจ็บรุมเล้า ผมตายไม่ได้ ได้โปรด ปล่อยพวกเราไปได้มั้ยครับ ทุกๆอย่างล้วนเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ก่อมันขึ้นมา จริงๆครับ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราเลย”

ฟางเหยียนไม่แม้แต่จะชายตามองพวกเขา หัวไปมองขวังซือที่‘เชื่อฟัง’ ดูแคลนออกมาว่า “แกทำให้ฉันผิดหวังมาก ฉันว่าแกไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อไปอีกแล้วล่ะ!”

หม่างเทียนดีใจขึ้นมาทันใด เขาคิดว่า‘ความจริงใจ’ของตัวเองทำให้ฟางเหยียนซาบซึ้ง แล้วเอาชีวิตกลับคืนมาได้!เมื่อมีการเบิกฤกษ์ของเขา สามคนที่เหลือก็ต่างพากันเลียนแบบ คำนับไปไม่กี่ครั้ง เลือดบนหน้าผากไหลออกมาอย่างไม่หยุด เทียบกับความเจ็บปวดแค่นี้ แล้วมีชีวิตต่อไปได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ศักดิ์ศรีเมื่ออยู่ต่อหน้าความตาย ไม่มีค่าอะไรทั้งนั้น!

ฟางเหยียนหักคอของเทพธิดาอย่างง่ายดาย แบบนี้ใครจะต้านทานได้!

แต่เดิมทุกคนของตระกูลฟางที่ตื่นเต้น ราวกับถูกคนสาดน้ำเย็นใส่หัว ฟางเหยียนกำลังจะคิดบัญชีเหรอเนี่ย? ถ้าไม่ใช่เพราะขวังซือ พวกเขาตระกูลฟางจะอยู่มาได้นานขนาดนี้มั้ย?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ