จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 766

ฟางเหยียนมีน้ำโหขึ้นอีกครั้งแล้ว!

ทั้งห้องรองรับเต็มไปด้วยกลิ่นของไฟโทสะอันแรงกล้า!

ขณะนี้ ทั้งห้องรองรับเงียบเป็นเป่าสาก ไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยอันใด

แม้แต่โจวปินคางที่เพิ่งเดินเข้ามา ก็สัมผัสได้ถึงสิ่งที่ผิดปกติไป จึงได้ยิ้มขมขื่นแล้วเอ่ยว่า: “จอมพล อย่าได้โกรธเลย ผมผิดเองที่ต้อนรับไม่ทั่วถึง ทำให้จอมพลต้องรอนาน ตอนนี้สำรับอาหารพื้นๆ ได้จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว เชิญจอมพลทางนี้ เชิญ”

ชิงตี้ครุ่นคิดชั่วครู่ จึงเอ่ยขึ้น: “ที่รัก หลังทานข้าวเสร็จ แล้วฉันค่อยบอกคุณละกันนะ”

เธอก็ไม่สามารถที่จะละลาบละล้วงต่อไป ถึงอย่างไรนิสัยของฟางเหยียนเธอเองก็ไม่กล้าทำอะไรสะเพร่าได้

บอกว่าเป็นอาหารพื้นๆ ทว่าความจริงแล้วเป็นการถ่อมตนทั้งนั้น ช่างเป็นมื้ออาหารที่อุดมสมบูรณ์ ราวกับเป็นสำรับอาหารที่ตามงานเลี้ยงสุดหรูอย่างไรอย่างนั้น บนโต๊ะอาหารจัดวางอาหารชนิดต่างๆ หลากหลาย เห็นได้ถึงระดับความหรูหรา ทั้งโต๊ะอาหารวงกลมมีเพียงฟางเหยียนและโจวปินคาง เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเพียงแค่ตัวเสริมเท่านั้น เทียนขุยและชิงตี้ถูกจัดให้อยู่ที่โต๊ะอาหารอื่น ประเภทของอาหารเหมือนกันทุกอย่าง มองแวบเดียวก็ทราบตำแหน่งทันที

ระหว่างที่รับประทานอาหารกันอย่างครึกครื้นแล้วนั้น โจวปินคางก็ได้เอาใจใส่อารมณ์ของฟางเหยียนอย่างระมัดระวังอยู่ตลอด

และในขณะนี้เอง คนที่มีลักษณะราวกับเป็นพ่อบ้านก็เดินเข้ามา สีหน้ากระส่ายกระสับ เอ่ยว่า: “คุณท่าน ไม่ดีแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

“เสียงดังเอะอะโวยวายอะไรกัน ไม่เข้าท่าเลย ถ้าไปรบกวนท่านจอมพลกินข้าวเข้า นายจะรับผิดชอบได้ไหม?”

พ่อบ้านเนื้อตัวสั่นเทาไปทั้งตัว จากนั้นค่อยลดเสียงเบาเอ่ยขึ้นอีกว่า: “หยางจิ่งเซียนพาคนมาเป็นกองล้อมเรือนเราอยู่!”

“หยางจิ่งเซียนช่างกล้าเสียจริงนะ!” โจวปินคางเอ่ยตะคอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา

แม้ว่าจะเอาแต่ดูแลอารมณ์ของจอมพลอย่างระมัดระวังอยู่ตลอด ทว่าในที่สุดเขาโจวปินคางก็เป็นผู้นำตระกูลของตระกูลโจว เมื่อถูกคนมารังแกจนถึงที่เช่นนี้ พลังแรงกล้าของเขาที่มีฐานะเป็นผู้นำตระกูลก็ปรากฏออกมาให้เห็นทั้งหมด!

พลังอันแรงกล้าเผยออกมา ขณะนั้นเขาก็ระงับเอาไว้ จอมพลโผ้จวินยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย

โจวปินคางเอ่ยด้วยความกล้าๆ กลัวๆ : “จอมพล ต้องขออภัยจริงๆ ที่ต้องทำให้คุณต้องตกใจ ผมจะจัดการเรื่องนี้ในทันที”

“เชิญทั้งหมดเข้ามาเถอะ”

โจวปินคางอึ้งไป จากนั้นจึงพยักหน้า: “มัวยืนอึ้งอยู่ทำไม รีบไปสิ”

“เอ่อ อ้อๆ ”

ไม่นาน หยางจิ่งเซียนและพวกก็เข้ามา ไม่เพียงแค่เขา ยังมีทุกคนที่เจออยู่ที่เรือนตระกูลหยางในเมื่อก่อนด้วย ซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่จากกิจการต่างๆ ทั้งหมดมาพร้อมหน้าพร้อมตากันหมดแล้ว

หยางจิ่งเซียนเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ต้องตกตะลึงไป รีบเรียกสติกลับคืนมาอย่างเร็ว จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมา: จอมพล พวกเรากังวลว่าตระกูลโจวจะทำอะไรไม่ดีกับคุณ ก็เลยเรียกรวมพละกำลังทั้งหมดมาช่วยเหลือ”

คนที่อยู่ด้านหลังเขาพยักหน้าตามๆ กัน

ฟางเหยียนพยักหน้าเบาๆ : “พอดีเลย พวกนายก็เข้ามาด้วยกันสิ การเข้าใจผิดบางอย่างก็ถึงเวลาที่จะต้องบอกกล่าวให้ชัดเจน”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ ฟางเหยียนจึงมองไปยังโจวปินคาง “เจ้าตระกูลโจว ความข้องใจและการเข้าใจผิดยิ่งอธิบายก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ขอถือโอกาสยืมสถานที่ ไม่ทราบว่าคุณมีความเห็นยังไง?”

ตามหลักการแล้ว โจวปินคางไม่คิดที่จะเจรจาอันใดกับพวกเขา แต่ก็จะฉีกหน้าฟางเหยียนไม่ได้ จึงต้องพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า: “จอมพลพูดอะไรกัน สามารถใช้สถานที่นี้ได้ นั่นมันเป็นเกียรติคุณสำหรับตระกูลโจวอย่างยิ่ง”

หยางจิ่งเซียนนั่งลงอย่างอึ้งๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็เข้านั่งประจำที่เช่นกัน ฟางเหยียนได้เอ่ยปากอธิบาย ผู้ที่ได้ยินต่างก็ไม่เข้าใจกันไปตามๆ กัน ที่มากกว่านั้นก็คือไม่เชื่อ โจวปินคางไม่ได้ข้องเกี่ยวกับเพลิงเสวนเช่นนั้นหรือ ทว่าสิ่งที่ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่ต้องตกตะลึงยิ่งกว่าเดิมนั้นก็คือ จอมพลเอ่ยขอโทษขอโพยด้วยปากตัวเอง นี่ช่างเป็นการกระทำของตระกูลสูงส่ง ช่างน่าเคารพนบนอบเสียจริง

อันที่จริงแล้ว มันก็เป็นเพียงการเข้าใจผิด ทุกคนมองไปยังเจ้าตระกูลโจว ภายในแววตาเต็มไปด้วยความขมขื่น นี่พวกเขาก่อเรื่องวุ่นวายเสียแล้ว

ความรู้สึกก็เป็นเช่นนี้ รับการทดสอบไม่ได้ ความสัมพันธ์ที่ไม่ว่าจะดีขนาดไหน แต่เมื่อเกิดรอยร้าวแล้ว ต้องการที่จะฟื้นฟูกลับเป็นเหมือนเดิม นั่นมันเปรียบเสมือนหนึ่งพันราตรีเชียว เป็นเพราะเรื่องวุ่นวายเรื่องหนึ่ง ส่งผลให้ทั้งดินแดนตะวันตกเป็นศัตรูกับตระกูลโจว ส่งผลให้คนต้องอยู่ไม่เป็นสุข มีแต่ความอันตรายเต็มไปหมด ทว่าความสัมพันธ์ที่แตกเป็นรอยร้าวในตอนนี้นั้น จะสามารถเติมเต็มกลับคืนเช่นเดิมได้อยู่หรือ?

นักธุรกิจใหญ่จากหลากหลายกิจการที่อยู่ที่นี่ต่างก็รู้สึกเป็นกังวล หยางจิ่งเซียนแม้จะเป็นคนที่มีคุณธรรมและบารมีสูงส่งในดินแดนตะวันตกที่สุด ทว่าสามารถชี้นำทั้งตระกูลโจวได้หรือ? เขาสามารถฟื้นฟูความทุกข์ใจ เติมเต็มความเสียหายได้หรือไม่?

หยางจิ่งเซียนเป็นผู้ที่ขมขื่นที่สุด สิ่งที่คนเหล่านี้คิดในใจ เขาจะไม่ชัดเจนดีได้อย่างไร ทว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นง่ายๆ เหมือนนักธุรกิจแต่อย่างใด ความเสียหายที่ทำให้ตระกูลโจวนั้น ผู้ใดจะต้องมาชดใช้? โดยเฉพาะความเสียหายที่ทำให้เกิดขึ้นโดยทางอ้อมเช่นนี้ ผู้ใดจะสามารถเป็นผู้ชี้นำได้?

หยางจิ่งเซียนชัดเจนดีว่า เพียงแค่ข่าวนี้แพร่กระจายออกไป กิจการที่อยู่ภายใต้ตระกูลโจวก็ได้รับการลดทอนและกดดัน แม้จะยังไม่ถึงขั้นเสื่อมโทรมจนเป็นม้าตีนปลาย ทว่าความเสียหายที่แท้จริงนั้นก็รุนแรงอย่างยิ่ง ทุกวันต้องมีตัวเลขของเงินทุนที่หายไปเป็นจำนวนมาก ดีไม่ดีไม่เพียงแต่ไม่ได้เป็นนักธุรกิจ แถมจะยังถูกตระกูลโจวเคียดแค้นจำฝังใจเอาไว้อีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ