นี่เป็นคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายก่อนตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!
และกู่ปิ่งก็พูดชัดเจนแล้วว่าทำไมถึงทำกับพวกเขาแบบนี้ ที่แท้มีความเกี่ยวข้องกันนี่ รุ่นพ่อแม่ทำไว้รุ่นลูกก็ต้องรับผิดชอบ!
สำนักกุ่ยกู๋วางแผนมาดีจริง ๆ!
แต่หากมองอีกมุม การที่สำนักกุ่ยกู๋ลงมือทำร้ายพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเพลิงเสวนเลย เพียงแต่นี่เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น!
เทียนขุยได้ยินก็เข้าใจทันที สู้กับรุ่นใหญ่ไม่ได้ก็มารังแกรุ่นเล็กแทน สำนักกุ่ยกู๋ช่างมีแผนการแยบยลจริง ๆ!
อัดอั้นมาตั้งนาน ทันใดนั้นเขาก็หาช่องว่างระบายความโกรธแค้นได้แล้ว เขาชี้นิ้วด่ากู่ปิ่งว่า : “ที่แท้สำนักกุ่ยกู๋เป็นพวกรังแกคนที่อ่อนแอกว่าแต่กลัวคนที่แข็งแกร่งกว่านี่เอง! ก็จริงอยู่ สู้อาจารย์คนอื่นไมได้ ก็มารังแกลูกศิษย์เขาแทน มีศักดิ์ศรีหน่อยได้ไหม!”
กู่ปิ่งยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วเอ่ยว่า : “ที่แท้ก็เป็นลูกศิษย์ของเขา ไม่สำคัญแล้วล่ะ ตอนนั้นเขาทำให้สำนักกุ่ยกู๋ของฉันนองเลือด เคยมีเมตตาออมมือให้หรือเปล่า? เป็นปีศาจที่ชั่วร้ายมาก ลูกศิษย์ของเขาแล้วจะทำไม? ก็เป็นคนชั่วร้ายเหมือนกันอยู่ดี? อีกอย่าง การกำจัดสิ่งชั่วร้ายเพื่อประชาชนเป็นการผดุงความยุติธรรม เป็นกฎแห่งความชอบธรรม จะเรียกว่ารังแกคนอ่อนแอกว่ากลัวคนที่แข็งแกร่งกว่าได้ยังไง? แล้วก็ ศักดิ์ศรีมีค่าแค่ไหนกัน? เขาฆ่าคนของสำนักกุ่ยกู๋ ถ้าจะฆ่าลูกศิษย์ของเขาแล้วมันไม่มีศักดิ์ศรีตรงไหน?”
เทียนขุยพ่นลมออกมาจากมุมปากเล็กน้อย หากฟังความข้างเดียวจากตาเฒ่านี่ ก็เหมือนมีเหตุผลอยู่นะ! ตรรกะชัดเจน มีเหตุมีผล ไม่สามารถโต้ตอบกลับไปได้เลย เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเสียงต่ำว่า : “จอมพลโผ้จวินครับ อาจารย์ของคุณโหดขนาดนี้เลยเหรอ? คุยไม่ถูกคอก็ฆ่าล้างสำนักกุ่ยกู๋?”
เอ่ยถึงอาจารย์ของเขา ฟางเหยียนเคารพนับถือมาโดยตลอด ทั้งรักและทั้งกลัว ตัวเองมีวันนี้ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือจากอาจารย์ เขาอาจจะตายอยู่ในสนามรบนานแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น เขาจะกลายเป็นจอมนักรบเกียรติยศอย่างทุกวันนี้ได้ยังไง? เขาเป็นปีศาจที่ชั่วร้ายเหรอ? ฟางเหยียนกลับไม่คิดอย่างนั้น เขาใจดีมีเมตตา มีเหตุมีผล เพียงแค่เป็นคนอารมณ์ร้อน
อีกอย่างอาจารย์ของเขาเป็นคนที่ยึดมั่นในหลักการ เรื่องที่ตักเตือนฟางเหยียนบ่อยสุดก็คือ มีความสามารถมากเท่าไหร่ความรับผิดชอบก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ผู้สูงส่งที่มีเหตุผลลึกซึ้งขนาดนี้ จะไล่ฆ่าคนของสำนักกุ่ยกู๋งั้นเหรอ?
อาจจะเป็นไปได้!
เพราะอาจารย์ของเขาไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ไม่ใช่เฒ่าหัวแข็งที่เอาแต่ใจ จะทำเรื่องอะไรต้องมีเหตุผลเสมอ ผู้สูงส่งที่มีหลักการเช่นนี้ จะเป็นปีศาจที่ฆ่าคนของสำนักกุ่ยกู๋เหรอ?
ต้องมีเงื่อนงำอื่นแน่นอน!
เพียงแต่สำนักกุ่ยกู๋จงใจกลบเกลื่อนทิ้ง ทำให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้น!
ฟังความข้างเดียวก็ช่างเถอะ ในเมื่อเขาไม่อยากอธิบายให้ชัดเจน งั้นก็สู้!
สู้จนกว่าเขาจะยอมพูดเงื่อนงำนั้นออกมา!
ฟางเหยียนไม่เชื่อว่าอาจารย์ของตัวเองจะเป็นคนเลวร้าย ยังไงซะก็ไม่มีใครพูดได้มากไปกว่าเขาแล้ว!
อาจารย์ของเขาเป็นคนดีมีคุณธรรม แยกบุญคุณกับความแค้นได้อย่างชัดเจน มีใจนึกถึงประเทศชาติ มีความเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย มีความสามารถคับฟ้าแต่กลับถ่อมตน อาจารย์แบบนี้ จะเป็นคนเลวร้ายฆ่าคนของสำนักกุ่ยกู๋เหรอ?
ต่อให้ผิดจริง ฟางเหยียนก็ไม่ยอมรับ!
ความแค้นครั้งนี้ เขารับมันเอง!
ฟางเหยียนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง แววตาเต็มไปด้วยความอำมหิต : “ในเมื่อแกอยากให้ฉันชดใช้แทนอาจารย์ งั้นแค้นครั้งนี้ ฉันจะรับไว้เอง!”
เมื่อพูดออกมา แต่ละคนก็นิ่งเงียบกันไปหมด!
อุณหภูมิที่เหมือนอาบสายลมฤดูใบไม้ผลิในตอนแรก ได้ลดฮวบเหลือศูนย์องศากะทันหัน ไอสังหารแผ่ซ่านไปทั่วทุกแห่งหนปกคลุมอยู่เหนือทหารเกราะทองเบญจธาตุ!
ทรงพลัง!
บดขยี้ทุกอย่าง!
ความทรงพลังที่แสดงออกมาตอนนี้ ทำให้แม้แต่ฟ้าดินก็ยังสะเทือน!
กู่ปิ่งตกตะลึงในความพลังนี้ จนยืนอึ้งอยู่กับที่! คนคนนี้เป็นใครกันแน่? ถึงได้มีพลังอานุภาพขนาดนี้!
เมื่อสิบกว่าปีก่อนคนคนนั้นก็ยังไม่ถึงขนาดนี้!
เขาเป็นใครกันแน่?
ทำไมถึงได้เป็นอย่างนี้?
สมองของเขาแล่นไปมาอย่างรวดเร็ว แต่กลับคิดหาเหตุผลไม่ได้ ตั้งแต่ที่ชายหนุ่มดำเหมือนเถ้าถ่านคนหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาเขา มองผิวเผินอายุเพียงยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปี คนที่อายุยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปีจะมีอานุภาพขนาดนี้ได้ยังไง? ต่อให้เป็นผู้ที่ถูกสวรรค์เลือกก็ไม่น่าจะเป็นไปได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ