จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 102

“วิ…วิชาเวท?”

เจิ้งฉุนเจี้ยนที่อยู่อีกข้างหนึ่งตื่นตกใจยกใหญ่ ราวเห็นผีกลางวันแสกๆ

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ขุนนางเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์ที่กำเริบเสิบสานและสมองมีแต่กล้ามเนื้อเป็นวิชาเวทด้วยอย่างนั้นหรือ?

เขาเป็นนักเวทด้วย?

“อ๊าก…สมควรตาย เจ้ากล้า…อ๊าก”

เสียงกรีดร้องดังออกมาจากตาข่ายแสงอัสนี

เงาร่างราวแสงสีดำมายาดิ้นรนอย่างรุนแรง

ข้อมือของหลี่มู่เพียงสะบัด

ตาข่ายแสงอัสนีสีม่วงก็หดลงส่งเสียงเปรี๊ยะๆ คล้ายแส้สายฟ้ากำลังหวดฟาดอะไรอยู่ จากนั้นก็เห็นร่างคนปรากฏขึ้นในตาข่าย

กลับเป็นชายหน้ายาวท่าทางอายุสามสิบกว่าๆ ทั่วร่างสวมชุดสีดำ ผมยาวสี่สิบฉื่อแผ่สยาย กำลังร้องเสียงแหลมตกใจพลางดิ้นรน อัสนีสีม่วงหวดฟาดทั่วร่างจนสะเก็ดไฟกระเซ็น กลิ่นเหม็นไหม้คละคลุ้งไปทั่ว

ตาข่ายแสงอัสนีหายไป

ชายหน้ายาวคนนี้ร่วงลงไปบนพื้น

พริบตาที่เขาร่วงลงไป ร่างก็พลันกระดอนขึ้นมาราวติดสปริง มือถือกระบี่สั้นคมกริบเอาไว้ หมายจะแทงมายังหลี่มู่

“อย่า…” เจิ้งฉุนเจี้ยนที่อยู่อีกด้านหนึ่งตะโกนขึ้น

อาวุธทำร้ายขุนนางเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์คนนี้ไม่ได้เลย

แต่ก็สายไปเสียแล้ว

“เหอะๆ…” หลี่มู่ยกมือไปตามอารมณ์ กุมคมกระบี่สั้นเอาไว้ นิ้วมือทั้งห้าไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย จากนั้นออกแรงเพียงนิดเดียว ตัวกระบี่คมกริบก็กลายเป็นเศษเหล็กเล็ดลอดออกมาตามง่ามนิ้วของเขา

“เป็นไปได้อย่างไร?” ชายหน้ายาวยากจะเชื่อได้

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้?” หลี่มู่ตวัดหลังมือตบไปบนหน้าฝ่ายตรงข้าม “อ้อ ที่วุ่นวายมาทั้งวันเนี่ย ที่แท้เจ้าไม่ได้รู้ถึงพลังของข้าอย่างแน่ชัดก็มาอวดดีรึไง”

เพียะ!

หน้าของชายหน้ายาวบวมไปครึ่งซีก

“เจ้ากล้าตบข้า? เจ้ากล้าตบผู้ตรวจของสำนักตรวจการรึ ฮ่าๆๆ น่าสนใจ ช่างน่าสนใจเสียจริง ขุนนางเมืองน้อยเจ้าจบเห่แล้ว ข้าจะรายงานทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ไปยังสำนักตรวจการแน่นอน เจ้า ทั้งยังครอบครัวของเจ้าและสหายสนิทต้องตายแน่…” ชายหน้ายาวคำรามเสียงต่ำน่าขนลุก “ข้าสาบานว่าจะต้องให้เจ้าเสียใจไปตลอดชีวิต…ฮ่าๆ ช่างน่าสนใจจริงๆ แค่คิดก็ชวนให้รู้สึกตื่นเต้นแล้ว”

หลี่มู่ขมวดคิ้ว

“งั้นก็…ไปตายซะเถอะ”

เขาพลิกมือตบไปอีกครั้ง

ตึง!

ศีรษะของชายหน้ายาวหายไปจากลำคอทันที

บนกำแพงไกลออกไปอีกเจ็ดแปดจั้ง มีหลุมแตกร้าวรูปร่างอย่างศีรษะคนปรากฏขึ้น

วัตถุเหลวเละสีแดงปนขาวค่อยๆ ไหลลงมาจากกลางหลุม

ตุบ

ศพไร้หัวยังคงยืนอยู่ที่เดิม

“ข้าว่าตอนนี้เจ้าคงไม่รู้สึกสนใจแล้วละ”

หลี่มู่ยื่นมือผลัก ร่างนั้นก็ล้มลงไปราวหุ่นเชิดที่สายขาด

“นับจากวันนี้เป็นต้นไปจะไม่มีใครข่มขู่ข้า…และสหายของข้าได้”

หลี่มู่เก็บฝ่ามือกลับมาช้าๆ

ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะรับมือกับเจิ้งฉุนเจี้ยน หนิงจ้งซาน หรือฉู่ซูเฟิง อันที่จริงเขาล้วนแต่ยั้งมือไว้ทั้งนั้น

เขาไม่ได้อยากฆ่าคนเท่าไหร่นัก

แต่เมื่อครู่ ชายหน้ายาวเห็นอยู่ชัดๆ ว่าแพ้แล้ว แต่กลับยังชั่วร้ายเหมือนงูพิษ ตอนที่เอ่ยคำข่มขู่อย่างไม่รู้จักกลัวตาย หลี่มู่ก็พลันเข้าใจเหตุผลข้อหนึ่งขึ้นมา

บนดาวดวงนี้ ในโลกวิถียุทธ์ใบนี้ การให้อภัย การอดทนอ่อนข้อให้ และการเหลือทางรอดที่ไว้ให้ เรื่องพวกนี้เหมือนจะไม่มีความหมายอะไรนัก โดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับชนชั้นสูงพวกนี้ที่เห็นชีวิตคนไร้ค่าเหมือนผักหญ้า อ่อนข้อให้พวกเขาจะคิดว่าเจ้าอ่อนแอ ให้อภัยพวกเขาจะรู้สึกว่าเจ้าโง่งม และเหลือที่ว่างให้ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเจ้ากลัว

คิดจะปกป้องสิ่งที่ให้ความสำคัญและหวงแหน เช่นนั้นก็ต้องทำลายสิ่งที่เจ้ารังเกียจไปทั้งหมด

คิดจะรักษาความเมตตา เช่นนั้นก็ต้องกำจัดความชั่วร้ายไปให้สิ้น

หลี่มู่มองไปยังเจิ้งฉุนเจี้ยน

“ไม่ ไม่…อย่าฆ่าข้า ข้า…ข้าผิดไปแล้ว ข้า…”

‘ซิ่วไฉใจเหี้ยม’ ในตอนนี้กลัวสุดขีดไปแล้วโดยสมบูรณ์ เขามองหลี่มู่ราวปีศาจที่เดินออกมาจากนรก ไพ่ตาย คนหนุนหลัง ความโอหังของตำแหน่งอะไรพวกนั้น ในเสี้ยวขณะนี้หายวับไปหมด

แม้แต่ผู้ตรวจของสำนักตรวจการยังกล้าสังหาร บนโลกนี้ยังมีอะไรที่ขุนนางเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์ไม่กล้าฆ่าอีก?

เจิ้งฉุนเจี้ยนในตอนนี้ได้สติโดยสมบูรณ์

ตระหนักได้อย่างถ่องแท้ว่าผู้ที่ตนเผชิญหน้าอยู่เป็นคนอย่างไร

หลี่มู่เป็นคนบ้าอย่างที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใด ไม่พะวงอะไรทั้งสิ้น

คนเช่นนี้ ฆ่าเขาได้ไม่ต่างอะไรกับฆ่าไก่หรือบี้แมลงเลย

“บอกเหตุผลที่ข้าจะไม่ฆ่าเจ้ามาหนึ่งข้อ?” หลี่มู่ถามเสียงต่ำ

เจิ้งฉุนเจี้ยนตกใจจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง “ข้า..ข้า..คุณชายรอง ข้าพูดความจริง ข้าพูดความจริง…ใต้เท้ายืนกรานจะส่งข้ามาให้ได้ ข้าก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน ขอให้คุณชายรองเห็นแก่…เห็นแก่ในตอนที่ท่านยังเล็ก ข้าเคยดูแลพวกท่านแม่ลูก อย่า…อย่าฆ่าข้า…”

อะไรกันเนี่ย?

หลี่มู่อึ้งไป

เจ้านี่คงไม่ได้ตกใจจนเป็นบ้าไปแล้วหรอกนะ?

พูดจาเหลวไหล?

คุณชายรองอะไร?

“เจ้ากำลังพูดอะไรอยู่?” หลี่มู่เหวี่ยงหมัดขู่ “แกล้งบ้าใช่ไหม?”

“ไม่ๆๆ คุณชายรอง ท่านฟังข้าพูดก่อน ก่อนหน้านี้ข้า…จงใจแกล้งไม่รู้จักท่าน ท่านก็แกล้งแสดงว่าไม่รู้จักข้าเช่นกันมิใช่หรือ? ข้าคิดว่า…คิดว่าท่านไม่อยากให้คนรู้ตัวตนที่แท้จริงของท่าน ข้า…คุณชายรอง ข้ารู้เบาะแสของมารดาท่าน อย่าฆ่าข้าเลย…”

เจิ้งฉุนเจี้ยนพูดอย่างขวัญหนีดีฝ่อ

เอ๋?

หลี่มู่พลันตระหนักอะไรได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา