“ดูแลพี่สาวตัวน้อยบนหลังของเจ้าให้ดี เรื่องอื่นข้าจัดการเอง”
หลี่มู่สัมผัสได้ถึงความโกรธแค้นของเสือดาวเบญจมาศ เขาจึงลูบหัว ปลอบประโลมมัน
เสือดาวเบญจมาศส่งเสียงทุ้มต่ำ บ่งบอกว่ารับรู้แล้ว
ลูกธนูเจาะเกราะราวกับฝูงตั๊กแตนโจมตีต้อนรับมาดั่งพายุ
หลี่มู่สูดหายใจลึก จากนั้นก็พ่นออกมา
“ตูม!”
กายเนื้อที่ฝึกฝน ‘หมัดยุทธ์แท้’ แข็งแกร่งเพียงใด ลมหายใจกลุ่มนี้เมื่อไหลลงสู่ปอดของเขาก็ปะทุออกมาดั่งคลื่นคลั่ง ลูกธนูมากมายเหล่านั้นบินลอยกลับไปด้วยความเร็วที่สูงกว่ายามพุ่งมา ก้อนหินที่ถล่มลงมาและกำแพงที่พังทลายรอบๆ ก็ลอยกระเด็นออกไป…
“อ๊าก…”
ท่ามกลางเสียงร้องน่าสังเวช นักรบชุดเกราะสีเพลิงนับไม่ถ้วนโดนลูกธนูที่พุ่งมายิงตรึงไว้บนกำแพงและพื้นดิน ถูกก้อนหินใหญ่ขนาดโม่หินกระแทกจนกระอักเลือดอย่างรุนแรง
นักรบชุดเกราะเพลิงที่ปรากฏขึ้นในเขาวงกตใต้ดินแห่งนี้ ต้องเป็นพวกชั้นยอดที่โรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์คัดเลือกมาแล้วอย่างดีแน่นอน และก็เป็นนักรบเดนตายที่จงรักภักดีต่อสกุลจาง พวกเขาเข้าออกเขาวงกตใต้ดินแห่งนี้ได้อย่างอิสระ ไม่มีทางไม่รู้ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นที่นี่แน่ ทุกคนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งสิ้น พูดในมุมหนึ่ง คนของพวกโรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์ยิ่งสมควรตายมากกว่าสมาพันธ์การค้าสมบูรณ์ผลสกุลโจวหมื่นเท่า ดังนั้นหลี่มู่จึงลงมืออย่างไม่ปรานี
หมัดเมื่อครู่ยิ่งเมื่อรวมกับลมหายใจกลุ่มนี้ ก็ทำให้เขาวงกตใต้ดินทั้งหมดพังราบลงมา
คุกข้างๆ ที่ขังคนในยุทธจักรเอาไว้มากมายก็ถล่มลงเช่นกัน คนจำนวนหนึ่งหนีออกมา
“บังอาจ!”
ท่ามกลางเสียงคำรามอย่างโมโห แสงกระบี่เสมือนมาจากยมโลก แหวกฝุ่นธุลีขึ้นมา หนึ่งกระบี่สามกระบวนท่า แทงมายังหว่างคิ้ว คอ และหัวใจของหลี่มู่
สุดผู้แข็งแกร่งขั้นปรมาจารย์
ท่านี้เหมือนกับรอยแผลบนร่างของชิวอี้ไม่มีผิดเพี้ยน แต่ความชำนาญ พลัง และอื่นๆ แข็งแกร่งกว่าจางชุยเสวี่ยที่สังหารชิวอี้ไม่รู้ต่อกี่เท่า
“ตาย!”
หลี่มู่กำหมัด ใช้ ‘หมัดยุทธ์แท้’ กระบวนท่าที่หนึ่ง ‘ค้อนทะยานฟ้า’ โจมตีสังหารออกไป
ตอนนี้ถึงแม้ความเชี่ยวชาญใน ‘หมัดยุทธ์แท้’ ของหลี่มู่จะยังมีเพียงแค่สามกระบวนท่า แต่เอามาเทียบกับในอดีตไม่ได้ และฝึกฝนหลักการแก่นแท้ออกมาได้มากยิ่งขึ้น กระบวนท่าง่ายๆ เช่นนี้เป็นท่าที่ดีที่สุดในการปล่อยพลัง อีกทั้งในการต่อสู้ก็มีอานุภาพสุดยอด เมื่อหมัดนี้โจมตีออกไป ในอากาศ ปราณหมัดดุจสายอัสนี เสียงของหมัดราวฟ้าผ่า เหมือนสัตว์ยักษ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์คำรามพลางพุ่งออกมาจากมือของเขา
“เหวอ…” เสียงร้องตื่นตกใจอย่างยากจะเชื่อดังขึ้นมา
ปราณหมัดทำลายแสงกระบี่ที่พุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วนั่นในชั่วพริบตา ในอากาศมีหมอกเลือดคละคลุ้ง
ร่างหนึ่งปลิวตีลังกาลอยไป กระแทกจนกำแพงแหลกทลายไปไม่รู้เท่าไหร่
“ผู้อาวุโสซ่ง…”
“ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป ร่วมมือกัน”
“ยอมแลกด้วยทุกสิ่ง จับมันเอาไว้”
เสียงทั้งสามดังขึ้นอย่างตื่นตกใจ
เห็นได้ชัดว่าคนของโรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์คิดไม่ถึงว่า ผู้อาวุโสซ่งที่เป็นขั้นปรมาจารย์ลงมือก็ยังสังหารศัตรูผู้บุกรุกไม่ได้ ซ้ำยังถูกโจมตีกระเด็นในชั่วพริบตา ผู้อาวุโสขั้นปรมาจารย์สามคนที่เหลือเกิดคลื่นยักษ์ถาโถมในใจ
แสงกระบี่สามสายสะท้อนวาววับในอากาศ อาศัยฝุ่นควันของเขาวงกตใต้ดินที่ถล่มลงมาโจมตีใส่หลี่มู่อย่างรวดเร็ว
“โรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์จะต้องจ่ายชดใช้ให้กับการกระทำของตัวเอง”
หลี่มู่ไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย ก้าวขึ้นไปรับแสงกระบี่ ในขณะเดียวกัน ‘ค้อนทะลายสวรรค์’ กระบวนท่าเดิมก็ถูกสำแดงไปอีกครั้ง พลังทั่วร่างโหมซัดถาโถม กระดูกสันหลังราวมีมังกรคำรามทะยานพุ่ง ปราณหมัดดั่งสวรรค์พิโรธกวาดซัดออกมาอีกครั้ง พลังที่ไร้รูปร่างเหมือนสัตว์ยักษ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์บดขยี้ออกไป หมายจะทำลายศัตรูทั้งหมดที่ขวางอยู่เบื้องหน้า
“นี่คือพลังอะไรกัน?”
“แย่แล้ว!”
“ตามไป!”
ผู้อาวุโสโรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์ทั้งสามรู้สึกแค่ว่าพลังมหาศาลที่ยากจะบรรยายโหมมา จึงเกิดความคิดรู้สึกเหมือนมดกำลังเผชิญหน้ากับคลื่นยักษ์ในมหาสมุทรอย่างอดไม่ได้ ความรู้สึกว่าตนเล็กจ้อยด้อยค่าอย่างไม่เคยมีมาก่อนโจมตีจิตมุ่งต่อสู้และความมั่นใจของพวกเขา ใบหน้าทั้งสามคนฉายแววโมโหตกใจและยากจะเชื่อได้ ถอยร่นไปท่ามกลางเสียงคำรามทันที
ตูม ตูม ตูม!
ปราณหมัดทำลายแสงกระบี่ทั้งหมด
เขาวงกตใต้ดินถล่มราบคาบ ทางที่หมัดของหลี่มู่พุ่งออกไปแต่เดิมมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างเพียงจั้งกว่าๆ ตอนนี้เกิดเป็นรอยหมัดที่กว้างเกือบสี่จั้ง ราวกับมีทางอุโมงค์เกิดขึ้นมาเอง เหมือนถูกปืนใหญ่ที่เคลื่อนที่เร็วกว่าเสียงระเบิดทำลายอย่างไรอย่างนั้น
สามยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์โดนโจมตีจนกระเด็นไกลไปหลายร้อยจั้ง กระแทกลงบนพื้นดิน กระเด็นไปกลางอากาศ ไม่รู้ว่าลอยไปไกลถึงไหน
นักรบเกราะเพลิงที่เหลือของโรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์ซึ่งแอบซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ โชคดีไม่ตาย แต่ละคนตกใจกลัวจนอึ้งตะลึง พวกเขาไม่เคยเห็นวิถีการต่อสู้ที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน และก็ไม่เคยเห็นพลังหมัดที่น่ากลัวถึงเพียงนี้เช่นกัน นี่มันราวกับอาวุธมนุษย์ชัดๆ หมัดเดียวถล่มเขาวงกตใต้ดินเสียราบคาบ นี่มันพลังอะไรกัน?
ส่วนยอดฝีมือที่ถูกขังและหนีออกมาจากคุกที่พังถล่มพวกนั้น เมื่อเห็นภาพนี้ก็ประหนึ่งโดนสายฟ้าฟาด อึ้งตะลึงอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครกล้าเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีคนที่น่ากลัวแบบนี้อยู่ด้วย พลังที่ไม่ควรมีอยู่บนโลก ทำไมจึงมาอยู่ในตัวของมนุษย์คนหนึ่งได้?
“ฮ่าๆๆ สกุลจางยั่วโทสะผู้ยิ่งใหญ่เข้าเสียแล้ว”
“เป็นใครกัน น่ากลัวถึงเพียงนี้เลย? หรือจะเป็นยอดปรมาจารย์คนไหนพิโรธ?”
“โรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์ลำบากแล้ว ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า ไปยั่วโทสะบุคคลเยี่ยมยอดเช่นนี้”
“หนี นี่เป็นโอกาสอันดี โรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์เอาตัวเองไม่รอดแล้ว พวกเราฉวยโอกาสหนีเถอะ”
หลังจากตั้งตัวกลับมาได้ คนที่ถูกกักขังเหล่านั้นก็รีบฉวยโอกาสหนี นี่เป็นโอกาสสวรรค์ประทาน
ส่วนคนของโรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์ก็ดูแลกันไม่หวาดไม่ไหว
หลี่มู่มองเห็นทุกอย่าง แต่เขาไม่สนใจ
“ออกจากเขาวงกตก่อนแล้วค่อยไปตามหาจางชุยเสวี่ย เพื่อแก้แค้นให้ชิวอี้ มันจะต้องตาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา