คนในห้องส่วนตัวหมายเลขเจ็ดคือกุนซือจากที่ราบทุ่งหญ้า นายน้อยสมาพันธ์การค้าใต้หล้าสาขาฉินตะวันตก และยอดฝีมือชาวที่ราบทุ่งหญ้าหลายคน รวมถึงนายน้อยชนเผ่าที่ตัวเหมือนเจดีย์เหล็กคนนั้น รวมทั้งหมดแล้วสิบคน เสี้ยวขณะที่เห็นทาสสาวที่ราบทุ่งหญ้าคนแรกถูกลากตัวขึ้นมา สีหน้าก็เคร่งเครียดทันที
“เป็นอาเฉ่า องครักษ์หญิงใต้บังคับบัญชาของธิดาเทพชิงเยียน ปีนี้เพิ่งอายุสิบหก…” องครักษ์ที่ราบทุ่งหญ้าคนหนึ่งใช้ภาษาชาวทุ่งหญ้าตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนรน
ในดวงตาของชายที่ราบทุ่งหญ้าทั้งหมดต่างมีประกายโกรธแค้นลุกวาบ
คนฉินหยามหมิ่นบุตรสาวที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฉางเซิงเทียน แค้นนี้ไม่อาจอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันได้
กุนซือหนุ่มแห่งที่ราบทุ่งหญ้าขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าแนวโน้มไม่ค่อยดี ธิดาเทพชิงเยียนรวมทั้งองครักษ์เทพหมาป่าใต้บัญชาการทั้งหมดสี่สิบหกคน หากออกประมูลทีละคนๆ แล้วละก็ นับเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ต่อการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งเขายังรู้สึกรางๆ ว่าหน่วยเลี้ยงรับรองทำแบบนี้อาจจะมีจุดประสงค์อื่นอีก
“วางใจได้ ข้ารับประกันว่าจะช่วยธิดาแห่งฉางเซิงเทียนออกมาทั้งหมด” นายน้อยสมาพันธ์การค้าใต้หล้าสาขาย่อยกัวจื้อฮุยตบอกรับประกัน “สาวงามที่น่าหลงใหลขนาดนี้ไม่ควรตกอยู่ในเงื้อมมือชนชั้นสูงพุงพลุ้ยพวกนั้น” ท่าทางเขาคับแค้นเต็มอก
ไม่นานนัก การประมูลก็เริ่มขึ้น
บนเวทีหลัก ผู้ดำเนินการประมูลที่ผมและหนวดเคราขาวโพลนเริ่มแนะนำน้ำไหลไฟดับ
“ทาสสาวที่ราบทุ่งหญ้านางนี้ฐานะไม่ธรรมดา เป็นถึงองครักษ์วิหารเทพหมาป่าแห่งที่ราบทุ่งหญ้า องครักษ์เทพหมาป่าคืออะไร? มีบางท่านทราบ บางท่านอาจจะไม่ ข้าจะขอพูดมากสักหน่อย อธิบายสักนิด ว่านักรบหญิงที่โดดเด่นที่สุดในชนเผ่าถึงจะเข้าร่วมได้ ต่อให้เป็นชนชั้นสูงในชนเผ่าใหญ่ต่างๆ เมื่อพบองครักษ์เทพหมาป่าก็ยังต้องเคารพนอบน้อม ก็เหมือนกับราชนิกุลสูงศักดิ์ของพวกเราชาวฉิน ครั้งนี้จักรวรรดิฉินใช้กำลังทหารโจมตีที่ราบทุ่งหญ้ากะทันหัน จับว่าที่ธิดาเทพแห่งวิหารเทพหมาป่ามาคนหนึ่ง และจับเป็นองครักษ์เทพหมาป่ามาได้อีกสี่สิบหกคน เป็นเรื่องหายากยิ่งในรอบร้อยปี…”
ชายชราประหนึ่งนักเล่าเรื่อง ยกตำแหน่งขององครักษ์เทพหมาป่าโดยเฉพาะองครักษ์หญิงไว้สูงเป็นพิเศษ พูดเสียราวกับเป็นเทพธิดาแห่งที่ราบทุ่งหญ้า ซึ่งก็ดึงดูดสายตาร้อนแรงของบุรุษมากมายรอบๆ ได้ดังคาด
สำหรับผู้ชาย การปกป้องผู้อ่อนแอและทำลายความศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์คือความปรารถนาตลอดกาลมาแต่ไหนแต่ไร
สายตาเร่าร้อนแต่ละคู่จ้องมององครักษ์หญิงเทพหมาป่านางนั้น
“สิ่งที่ยิ่งควรแก่การพูดถึงคือ องครักษ์เทพหมาป่าหญิงนางนี้มีพลังฝึกขั้นปรมาจารย์ ทั้งยังไม่ได้ทำลายไป โซ่ตรวนสีเงินบนมือของนางเป็นโซ่ข้อมือจำกัดพลังที่ออกแบบโดยจอมเวทเทียนเหรินแห่งเมืองหลวง สะกดพลังฝึกของนางไว้ ทั้งยังลดพละกำลังของนางลงอีกด้วย ลองคิดดู สาวงามต่างถิ่นขั้นปรมาจารย์ อยู่ต่อหน้าท่านไร้ที่ให้ขัดขืน สุดแท้แต่ท่านจะปรารถนา อีกทั้งหากสั่งสอนให้ดีพิชิตใจนางได้ ก็เท่ากับได้องครักษ์สาวสวยขั้นปรมาจารย์เพิ่มมาอีกคนหนึ่ง ประเด็นสำคัญคือ…นางยังเป็นหญิงพรหมจรรย์”
ผู้ดำเนินการประมูลของหน่วยเลี้ยงรับรองเอ่ยสรรพคุณน้ำลายฟองฟอด
สาวใช้วัยกลางคนร่างกำยำสองคนก็ให้ความร่วมมือด้วย ฉุดกระชากองครักษ์หญิงเทพหมาป่าผู้นี้จัดเป็นท่าทางต่างๆ แสดงความยืดหยุ่นของร่างกายนางและความงดงามหลากหลายให้เห็น
องครักษ์เทพหมาป่าสาวที่ถูกโซ่สะกดยุทธ์พันธนาการความสามารถและพลังเอาไว้ ถึงแม้จะโกรธแค้นแต่กลับไร้เรี่ยวแรงดิ้นรน
ภาพแบบนี้ทำให้ผู้ชายนับไม่ถ้วนเลือดสูบฉีดพลุ่งพล่าน
“ตอนนี้เริ่มประมูลได้ เปิดราคาที่ห้าหมื่นตำลึงทอง ทุกครั้งประมูลเพิ่มไม่ต่ำกว่าห้าพันตำลึงทอง” เสียงของผู้ดำเนินการประมูลมีพลังโน้มน้าวเป็นอย่างมาก ดังไปทั่วถนนกลิ่นกำจายโดยอาศัยค่ายกลจอมเวทขยายเสียง
บรรยากาศร้อนแรงขึ้นทันที
คนมากมายเสนอราคา
ถึงแม้ราคาของทาสสาวที่ราบทุ่งหญ้าคนนี้จะสูงลิ่ว แต่เหล่าผู้เรืองอำนาจที่มีเงินอย่างแท้จริงไม่สนใจ
อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง ทาสสาวขั้นปรมาจารย์ ต่อให้อัปลักษณ์เหมือนปีศาจก็ควรค่ากับราคานี้
เขตหอแขกผู้มีเกียรติชั้นยอดที่เวลาส่วนมากนิ่งเงียบก็เข้าร่วมการประมูลด้วยเช่นกัน
สุดท้าย กลับเป็นแขกผู้มีเกียรติชั้นยอดหอหมายเลขเจ็ดประมูลทาสสาวที่ราบทุ่งหญ้าคนนี้ไปด้วยราคาสูงลิ่วถึงแปดหมื่นตำลึงทอง
และเงินแปดหมื่นตำลึงทองก็เป็นราคาสูงที่สุดนับจากเริ่มประมูลมาในคืนนี้
……
“คนที่ราบทุ่งหญ้าลงมือจริงๆ ด้วย”
หลี่มู่ดูถึงตรงนี้ ในใจก็กระจ่างแจ้ง
พี่ใหญ่กัวอวี่ชิงพี่ชายร่วมสาบานของเขาก็มาจากที่ราบทุ่งหญ้า ดังนั้นหลี่มู่จึงรู้สึกดีกับคนที่ราบทุ่งหญ้า หากพวกเขาช่วยทาสสาวที่ราบทุ่งหญ้าที่ตกทุกข์ได้ยากพวกนี้กลับไปได้ ก็ไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว
ดังนั้น การแข่งประมูลครั้งนี้หลี่มู่จึงไม่ได้ร่วมเสนอราคาด้วย
……
ในหอแขกผู้มีเกียรติชั้นยอดหมายเลขเจ็ด
องครักษ์เทพหมาป่าหญิงนามอาเฉ่าถูกนำตัวเข้ามา
นางที่แต่เดิมเตรียมพร้อมว่ามีโอกาสก็จะตายตกไปพร้อมกัน แต่จะไม่ยอมตกเป็นของคนฉินเป็นอันขาด ดวงตาพลันเบิกกว้าง ใบหน้าฉายแววตื่นเต้น “พี่กุนซือ พี่เถี่ย เป็นพวกท่าน…”
กุนซือหนุ่มยิ้มบางๆ ลุกขึ้นยืน เดินไปถอดโซ่ตรวนสะกดพลังบนมือของอาเฉ่า ก่อนจะเอ่ย “วางใจเถิด เจ้าปลอดภัยแล้ว พี่เถี่ยกับพวกทหารกล้าเผ่ายิงจันทร์มาถึงเมืองฉางอันนานแล้ว จะต้องช่วยเจ้ากับธิดาเทพชิงเยียนออกไปได้แน่นอน”
หัวหน้าชายชาวที่ราบทุ่งหญ้าที่ราวกับเจดีย์เหล็กลุกขึ้นยืน คลุมเสื้อคลุมให้กับอาเฉ่าด้วยตัวเอง กล่าวว่า “อาเฉ่า เจ้ากินอะไรฟื้นฟูกำลังกายก่อนสักหน่อย เรื่องต่อไปก็ให้พวกเราจัดการ”
อาเฉ่าสีหน้าตื่นเต้น ความเหนื่อยล้าที่มีอยู่เดิมหมดไปทันควัน นางกัดฟันพูด “ดีจริง พี่กุนซือ พี่เถี่ย ข้าไม่เหนื่อย เอาดาบมาให้ข้า ข้าจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารกล้าเผ่ายิงจันทร์”
สตรีที่ราบทุ่งหญ้าก็องอาจกล้าหาญเช่นนี้แล
……
การประมูลดำเนินต่อไป
ต่อมาก็นำองครักษ์เทพหมาป่าสาวออกมาประมูลต่อเนื่องกันอีกสิบคน ราคาเริ่มประมูลล้วนอยู่ที่ห้าหมื่นตำลึงทอง รูปร่างสูงเพรียวนัยน์ตาเขียวผมทองทั้งหมด ตามหน้าตาและพลัง ราคาเพิ่มประมูลทุกครั้งจะต่างกันเล็กน้อย หนึ่งในนั้นมีองครักษ์เทพหมาป่าหญิงหลายคนสูงราวห้าหกฉื่อ สัดส่วนเผ็ดร้อนเย้ายวน สุดท้ายประมูลไปได้ถึงหนึ่งแสนสองหมื่นตำลึงทอง ทำเอาฮือฮาไปทั่ว
และสิ่งที่ทำให้ฝั่งต่างๆ ฮือฮาก็คือ หอแขกผู้มีเกียรติหมายเลขเดิมประมูลทาสสาวที่ราบทุ่งหญ้าทั้งหมดไปได้โดยไม่มีใครหลุดมือ…หมายเลขเจ็ด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา