หญิงรับใช้วัยกลางคนสี่คนบังคับโครงเหล็ก ทำให้เทพธิดาแห่งสงครามแสดงท่าทางอย่างไม่อาจขัดขืน
นี่เป็นกลวิธีที่หน่วยเลี้ยงรับรองใช้เป็นประจำ
อีกทั้งการประมูลยังเริ่มทันทีที่ราคาหนึ่งล้านตำลึงทอง การเพิ่มราคาทุกครั้งก็ไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนตำลึงทอง
ราคานี้ทำเอาคนตาลายไปหมด
หอหมายเลขเจ็ดที่ก่อนหน้านี้เหมาทาสสาวจากทุ่งหญ้าทั้งหมดไปทำลายความเงียบงันรอบๆ เสนอราคาหนึ่งล้านโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
แต่ทว่า นี่เป็นแค่เริ่มต้นเท่านั้น
เพราะแขกผู้มีเกียรติคนอื่นรวมถึงบางหอที่ไม่ได้เสนอราคาตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ก็เข้าร่วมการแข่งประมูลแล้ว ไม่ถึงหนึ่งก้านธูป ราคาของเทพีแห่งสงครามก็พุ่งขึ้นไปถึงสองล้าน
สองล้านตำลึงทีเดียวเชียว
ตัวเลขแบบนี้ทำเอาคหบดีบนที่นั่งแขกทั่วไปสูดลมหายใจเย็น
พวกเขาพลันรู้สึกว่าหากเทียบกับคหบดีชั้นยอดที่แท้จริง ตัวเองก็เป็นแค่คนจนโดยแท้
แต่ว่าน่าแปลกนิดหน่อย
หอหมายเลขสิบไม่เข้าร่วมประมูลด้วย
หอหมายเลขสิบแปดก็ไม่เอ่ยปากอีกเช่นกัน
สำหรับคนทั้งหลาย คนสวมหน้ากากผียิ้มสีเงินในหอหมายเลขสิบแปดทะนุถนอมสาวงามมาโดยตลอด ประมูลสาวงามประวัติดีไปไม่น้อย ทว่าครั้งนี้เขากลับไม่มีท่าทางว่าจะเสนอราคาอีก ส่วนคนหัวไวบางคนเมื่อสังเกตอย่างละเอียดแล้วก็พบว่าไม่ใช่แค่เทพธิดาแห่งสงคราม ทาสสาวที่ราบทุ่งหญ้าทุกคนก่อนหน้านี้ คนสวมหน้ากากผียิ้มสีเงินก็ไม่มีท่าทางว่าจะสอดมือเข้ายุ่งเช่นกัน
หรือคนสวมหน้ากากผียิ้มสีเงินจะไม่สนใจสตรีต่างเผ่า?
เหตุผลในนี้ส่วนมากแล้วซ่างกวนอวี่ถิงและซินเอ๋อร์ไม่ค่อยเข้าใจ ส่วนเจิ้งฉุนเจี้ยนพอจะรู้บ้าง เพราะทาสสาวที่ราบทุ่งหญ้าย่อมมีคนมาช่วยอยู่แล้ว
ความคิดของหลี่มู่ก็เป็นอย่างนี้จริงๆ
หญิงงามถึงจะดี แต่ซื้อมากไปก็เป็นปัญหา
ก่อนหน้านี้เขาประมูลพวกสวีหว่านเอ๋อร์ ลู่เซิ่งหนาน และสาวงามคนอื่นๆ สิบเจ็ดคนก็เพื่อให้ใจอันบริสุทธิ์ของซ่างกวนอี่ถิงไม่เศร้าหมอง เพื่อปกป้องจิตวิญญาณกายเต๋าฟ้าประทานให้สมบูรณ์
สำหรับที่ไปของหญิงสาวทั้งสิบเจ็ด หลี่มู่ก็พอจะมีแผนรับมือเอาไว้แล้ว
ซ่างกวนอวี่ถิงจะต้องตามหลี่มู่ไปเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์แน่ แต่ในอำเภอผู้ชายเยอะผู้หญิงน้อย เกรงว่านางจะไม่คุ้นชิน เหตุที่พาหญิงสาวทั้งสิบเจ็ดไปที่ว่าการอำเภอด้วย หนึ่งคือเป็นเพื่อนซ่างกวนอวี่ถิง สองคือเป็นเพื่อนฝึกฝนกับนาง หลี่มู่ใช้เนตรสวรรค์สำรวจแล้ว สวีหว่านเอ๋อร์กับลู่เซิ่งหนานล้วนแต่เป็นผู้มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม ฝ่ายหลังถึงแม้จะถูกทำลายตันเถียน แต่หลี่มู่มีวิชาปาฏิหาริย์ จะช่วยนางฟื้นฟูกลับมาก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
หญิงงามเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือออกมาหลังจากตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง ในใจจึงมีความซาบซึ้ง ควบคุมได้ค่อนข้างง่าย
ถึงแม้องครักษ์หญิงเทพหมาป่าแห่งทุ่งหญ้าเหล่านั้นพลังจะไม่เลว แต่พยศกำราบยาก หลี่มู่ไม่มีใจคิดจะไปปราบม้าพยศพวกนี้
เมื่อคิดถึงคำร่วมสาบานกับพี่กัวอวี่ชิง หลี่มู่เห็นใจหญิงสาวที่ราบทุ่งหญ้าเหล่านี้อยู่บ้าง
แต่ในเมื่อมีกลุ่มอำนาจที่ราบทุ่งหญ้าแฝงตัวเข้ามาในฉางอันเพื่อช่วยพวกนาง เช่นนั้นสิ่งที่หลี่มู่ต้องทำก็แค่ตามน้ำไปเท่านั้น
อีกทั้งมีนายน้อยแห่งสมาพันธ์การค้าใต้หล้าสนับสนุนคนที่ราบทุ่งหญ้าเบื้องหลัง พวกเขาคิดไถ่ตัวเทพธิดาแห่งสงครามผู้นี้กลับไปก็ไม่น่าจะยากอะไร อีกทั้งจำนวนเงินสองล้านตำลึงทองก็เกินขอบเขตกำลังทรัพย์ของหลี่มู่แล้ว
หลายวันมานี้หลี่มู่รับของกำนัลล้ำค่าจากกลุ่มอำนาจฝั่งต่างๆ และคหบดีทั้งหลายในเมืองฉางอันที่ส่งมาอย่างไร้ยางอาย ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีแม้แต่น้อย รวมกับหนึ่งล้านห้าแสนตำลึงที่โจวเต๋อเต้าแห่งสมาพันธ์การค้าสมบูรณ์ผลมอบให้ ทรัพย์สินรวมแล้วก็มีประมาณสามล้านตำลึงทอง พูดได้ว่ารวยในชั่วข้ามคืนทีเดียว
เงินจำนวนนี้ดูเหมือนมาก แต่ที่จริงแล้วเมื่อใช้ในด้านฝึกฝนก็ไม่ได้เยอะอะไร ซื้อพวกหยกชั้นดีนิดหน่อยไม่นานก็หมดแล้ว
ฝึกฝนวรยุทธ์ก็ต้องมีทรัพย์ คนชี้แนะ วิชา และสถานที่
ทรัพย์หมายถึงเงินทอง ไม่ว่าจะอยู่บนดาวโลกหรือโลกใบนี้ ล้วนแต่มีคำที่ว่ากันว่า ‘คนจนเรียนหนังสือ คนรวยฝึกวิชา’ คนจนไม่มีทางฝึกยุทธ์ได้เพราะสิ้นเปลืองทรัพยากรมาก ตอนนั้นหลี่มู่คนนั้นตบมือสามครั้งตัดความสัมพันธ์กับบิดา ก็ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่น้อย สุดท้ายทำได้แค่ใช้ความรู้สร้างชื่อเสียง ส่วนผู้ชี้แนะหมายถึงผู้ร่วมฝึกฝน ยกตัวอย่างเช่นอาจารย์และสำนัก วิชาก็หมายถึงวิชาฝึกฝน ส่วนสถานที่นั้นคือสภาพแวดล้อมการฝึก สภาพแวดล้อมดีงามก็จะเพิ่มประสิทธิภาพของการฝึกฝนได้ดีกว่าที่แร้นแค้นกันดาร
เพราะหลี่มู่มีเคล็ดวิชาเซียน ดังนั้นจึงโชคดีกว่าคนทั่วไปมาก แทบจะไม่เปลืองแรงอะไรก็โด่งดังได้ในพริบตา
แต่จากพลังที่เพิ่มขึ้น พลังฝึกยกระดับ หลี่มู่ค่อยๆ รู้สึกว่าประโยชน์ของทรัพยากรที่มีต่อการฝึกฝนก็เหมือนกับเด็กนักเรียนชั้นประถมต้องการสมุดการบ้านและดินสอ ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย ลำพังแค่ฝึกฝนวิชาเต๋า สังเวยของวิเศษหรืออาวุธเต๋าก็ต้องใช้หยกจำนวนมหาศาล
หลี่มู่ต้องเริ่มหาเงินแล้ว
คืนนี้เขาให้องค์หญิงเบื้องหลังหวางเฉินยืมเงินหนึ่งล้านตำลึงอย่างใจป้ำ ทั้งยังซื้อถังถังมาด้วยเงินมูลค่ามหาศาลแล้วส่งตัวให้กับหอหมายเลขสิบ ไม่ใช่เพราะหลี่มู่มีเงินเยอะแยะมากมาย แต่เพราะในใจของเขามีเส้นทางหาเงินใหม่แล้ว
เขาจะปล้นคนรวยช่วยคนจน
ราคาของเทพธิดาสงครามแห่งที่ราบทุ่งหญ้าสูงขึ้นโดยตลอด สุดท้ายสูงถึงสามล้านตำลึงทองก็ยังคงพุ่งขึ้นไปอีก
หลี่มู่ขมวดคิ้ว จู่ๆ พลันนึกอะไรอีกเรื่องขึ้นมาได้
ในเมื่อเป็นของประมูลจานเด็ดเหมือนกัน หากราคาของเทพธิดาสงครามพุ่งถึงสามล้านตำลึงทอง ถังฮูหยินที่เป็นของประมูลชิ้นสุดท้ายจะมิยิ่งสูงขึ้นไปอีกหรือ?
หากเป็นอย่างนั้นแล้วละก็…
อืม ด้วยกำลังทรัพย์ในมือของพวกหวางเฉินในหอหมายเลขสิบ คิดจะประมูลช่วยถังฮูหยินออกไปเกรงว่าคงจะไม่ง่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา