หลี่มู่สูดลมหายใจเฮือก “@#¥%……”
หลังจากสังหารเจิ้งหลงซิง หลี่มู่รู้ว่าไม่ช้าก็เร็วเขาต้องมีปัญหาขัดแย้งกับพรรคจันทราโลหิต แต่สิ่งที่เขาคาดไว้ไม่ใช่แบบนี้เลย
ว่ากันด้วยเหตุผล พรรคจันทราโลหิตควรจะส่งคนที่เรียกว่าเป็นยอดฝีมือรุ่นใหม่ไฟแรงมาคิดบัญชีกับเขา หลังจากนั้นก็จะโดนเขาจัดการจนขี้หดตดหาย เป็นการเพิ่มค่าประสบการณ์ ต่อมาคนระดับสูงของพรรคจันทราโลหิตก็จะโกรธเกรี้ยว แล้วส่งผู้คุมกฎอาวุโสมาลงสนาม ผลก็คือจะโดนตีจนพ่ายแพ้กลับไป เขาได้ประสบการณ์ขึ้นไปอีกขั้น สุดท้ายค่อยส่งจอมมารจันทราโลหิตซึ่งเป็น BOSS ออกมามอบค่าประสบการณ์เหนือชั้นกับความสนุกสนานให้ไม่ใช่หรือ?
มีอย่างที่ไหนยังไม่ทันได้ล่ามอนสเตอร์อัปสกิลเลย ก็ต้องเผชิญหน้ากับ BOSS สูงสุดแล้ว
ช่างไม่สมเหตุสมผลเลย
เมื่อเห็นหลี่มู่เหม่อลอย เด็กรับใช้บัณฑิตหมิงเยวี่ยหัวเราะราวกับดอกไม้ขาวที่กำลังเบ่งบาน แล้วยื่นมือมาสะกิดหลี่มู่ “คุณชาย คุณชายเจ้าคะ? ท่านคงไม่ได้ดีใจจนบื้อไปแล้วหรอกกระมัง?”
หลี่มู่แทบบ้า “@#¥%……”
เด็กรับใช้บัณฑิตที่โง่เง่าเช่นนี้ หลี่มู่ตัวจริงไปเก็บมาจากไหนกันนะ?
สิ่งที่สำคัญที่สุดของเจ้าในตอนนี้ มิใช่ควรเป็นห่วงว่าคุณชายของเจ้าจะรอดจากการท้าประลองได้หรือไม่ไม่ใช่หรือ?
เขาโกรธจนควันออกจมูก อีกนิดเดียวจะโยนเทียบประลองสีแดงทิ้งไปแล้ว
“คุณชาย อย่ามัวแต่ดีใจสิเจ้าคะ รีบเปิดออกดูเร็วว่าข้างในเทียบประลองเขียนว่าอะไร?” แม่เด็กโง่โดยธรรมชาติทำสีหน้าคาดหวัง
หลี่มู่โกรธจนเจ็บฟัน แต่เมื่อคิดๆ ดูก็จริง ต้องลองอ่านดูก่อนว่า ‘จอมมารจันทราโลหิต’ เขียนมาว่าอะไร อาจจะเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ฉันท์มิตรและสุภาพ อย่างไรตัวเขาก็เป็นขุนนางของจักรวรรดิ เมื่อหลี่มู่เปิดเทียบประลองออก ก็เห็นภาพจันทร์โลหิตเต็มดวงและอักษรตัวโตสี่แถวรวมสิบหกตัวอยู่ด้านหลังกระดาษ…
“สิบห้าเดือนแปด อาทิตย์คู่ส่องสว่าง ตัดสินเป็นตาย ณ ยอดเขาจีเฟิง!”
ไม่มีชื่อผู้ส่ง
แต่ภาพจันทราโลหิตเต็มดวงบนเทียบประลองก็อธิบายทุกอย่างชัดแล้ว
จันทราโลหิตเต็มดวง ในยุทธภพแถบตะวันตกเฉียงเหนือเป็นสิ่งแทนตัวของคนผู้เดียว นั่นก็คือประมุขพรรคจันทราโลหิต ‘จอมมารจันทราโลหิต’
หลังจากอ่านจบ หลี่มู่เกือบจะโยนเทียบประลองทิ้ง
ตัดสินเป็นตาย?
ต้องเล่นแรงถึงขนาดนี้เลยเหรอ
เอะอะก็ฆ่ากันมันไม่ดีนะ มีเรื่องอะไรพวกเราก็นั่งลงแล้วค่อยพูดค่อยจากันก็ได้
หลี่มู่ปิดเทียบประลอง กำลังครุ่นคิดว่าควรจะตอบกลับอย่างไรในเรื่องนี้
ถึงอย่างไรหลังจากผ่านประสบการณ์ทำอะไรมุทะลุมา เด็กไม่เอาถ่านในสมองหลี่มู่ตอนนี้ก็เอาชนะเด็กใจร้อนได้แล้ว คำว่าหวาดกลัวเข้ามาครอบงำอีกครั้ง แม้ว่าเขาอยากจะขัดเกลาตนเอง อยากเห็นท่วงท่าองอาจของเหล่าจอมยุทธ์ผู้แข็งแกร่งบนโลกนี้ และอยากจะแลกเปลี่ยนฝีมือกับพวกเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเล่นกันถึงชีวิต
ชีวิตของเขามีค่านัก เกี่ยวข้องกับชีวิตสาวงามนับพันล้านบนโลกมนุษย์เชียวนะ
“คนที่มาส่งเทียบประลองล่ะ?” หลี่มู่ถาม
“เขาไปแล้วเจ้าค่ะ” หมิงเยวี่ยพูดชัดถ้อยชัดคำ
“หืม? ไปแล้ว? ทำไมไม่อยู่ก่อน?” หลี่มู่คำรามอยู่ในใจ หากคนยังอยู่จะปฏิเสธการประลองก็ยังได้
หมิงเยวี่ยงวยงง กล่าวคำพูดที่เกินคาดคิดออกมาว่า “คุณชาย สงครามระหว่างสองแว่นแคว้นเขาไม่ฆ่าคนส่งสาร ท่านคงไม่ได้คิดจะทำร้ายคนที่มาส่งเทียบเชิญหรอกนะเจ้าคะ มันโหดร้ายเกินไป”
“ข้า…” หลี่มู่อับจนคำพูด โกรธจนคันไปถึงรากฟัน เอ่ยในใจว่าตอนนี้ข้าตีเจ้าเสียเลยดีไหม
“คุณชายโปรดวางใจเจ้าค่ะ หมิงเยวี่ยตอบรับเทียบแทนท่านกับคนส่งสารไปแล้ว ท่านจะไปตามนัดเมื่อถึงเวลานัดหมาย จะได้รู้กันไปเลยว่าใครเป็นใคร ให้ประมุขพรรคจันทราโลหิตอะไรนั่นเตรียมตัวโดนซัดไว้ได้เลย…” หมิงเยวี่ยพูดเหมือนเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
“ข้า…โดนหักหลังแล้ว” หลี่มู่ใกล้จะระเบิดอารมณ์ กล่าวอย่างหน้าดำคล้ำเครียดว่า “เจ้าเด็กบ้า สองวันนี้อย่ามาให้ข้าเห็นหน้า ไม่อย่างนั้นข้าเกรงว่าข้าจะควบคุมตัวเองไม่ได้”
หลังพูดจบหลี่มู่ก็หันหลังจากไป
เขากลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วเตะก้นแม่เด็กโง่คนนี้เข้า
“เอ๋? คุณชาย? ท่านอย่าเพิ่งไปสิ ท่านคิดว่าที่ข้าตอบกลับไปเป็นเช่นไร ไม่นับว่าพูดเกินไปใช่ไหม? เอ๋? แล้วทำไมถึงจะควบคุมตัวเองไม่ได้…อ๋อ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านต้องอยากเตรียมตัวประลอง จะฝึกฝนวิชาอันน่าหวั่นเกรงสักอย่างใช่หรือไม่ ฮ่าๆ ท่านวางใจเถิดเจ้าค่ะ ข้าไม่ให้ใครมารบกวนท่านแน่นอน” เด็กน้อยรับใช้บัณฑิตผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยว่าก้นตัวเองจะพินาศยังไล่ตามไปต้อยๆ
ปึง!
หลี่มู่ปิดประตูห้องฝึกยุทธ์
“โอ๊ย…” หมิงเยวี่ยเด็กรับใช้บัณฑิตผู้โง่เง่าวิ่งเร็วเกินไป จึงชนเข้ากับบานประตู
นางลูบๆ รอยสีแดงบนหน้าผาก ทันใดนั้นก็เห็นทางภูเขาจำลองด้านข้างมีผีเสื้อสองสามตัวโบยบินอยู่ ดวงตานางพลันลุกวาว ลืมเรื่องทุกอย่างโดยฉับพลัน และวิ่งตรงไปจับผีเสื้ออย่างร่าเริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา