“ทะลวงสวรรค์แล้วอย่างไร? โลกเหนือฟ้าอาจจะไม่ใช่สรวงสวรรค์ของวิถียุทธ์ก็เป็นได้” กัวอวี่ชิงเอ่ย “บนที่ราบทุ่งหญ้า เจ้ามีวิหารเทพหมาป่าอยู่ บนแผ่นดินใหญ่เสินโจว เจ้าก็เทียบเคียงกับเจ้าสำนักเทพทั้งเก้าแล้ว ยังไม่พออีกหรือ?”
ชายผมทองส่ายหน้า เอ่ยขึ้นอย่างผิดหวัง “นึกถึงในปีนั้น ท่านองอาจกล้าหาญดุจพยัคฆ์ แต่ตอนนี้ศิษย์พี่กลับทำตัวธรรมดาสามัญ อ้อมอกหญิงงามเป็นหลุมฝังศพวีรบุรุษจริงๆ ความอาจหาญไร้พ่ายของต้าเจ๋อเปี๋ยในวันวาน ถูกผู้หญิงคนนั้นกัดกร่อนไปจนหมดแล้วหรือ?”
“ก็แค่สัมผัสประสบการณ์ชีวิตแบบใหม่” กัวอวี่ชิงตอบกลับ
“เหอะๆ ท่านจะมาคุยเรื่องความหมายของชีวิตกับข้า? หัวข้อเช่นนี้น่าเบื่อเกินไปแล้ว ก็แค่เฉไฉไปเท่านั้น ข้าก็พูดได้เหมือนกัน การเทียบได้กับเจ้าสำนักเทพทั้งเก้าจะไปมีความหมายอะไร? ห้าปีก่อนหน้าข้าทำได้แล้ว ห้าปีมานี้ข้าก็เล่นจนเอียน…ข้ายังเยาว์วัยนัก ชีวิตยังอีกยาวไกล อย่างน้อยยังอยู่ได้อีกหลายร้อยปี มีชีวิตที่ยาวนานเช่นนี้ก็ต้องหาเรื่องสนุกทำบ้าง จะนั่งอยู่แต่ในบ่อคอยมองท้องฟ้าไม่ได้ ต้องออกไปดูโลกเหนือฟ้าเสียหน่อย ดูว่าท่ามกลางดาราสมุทรระยิบระยับมีชีวิตเช่นใดดำรงอยู่บ้าง และดาวเสินโจวที่เหมือนกับกรงนกนี้ แท้จริงแล้วเป็นลานทิ้งขยะที่เอาไว้ทิ้งของเหลือใช่หรือไม่” ชายผมทองตอบกลับคล้ายประชดประชัน
ใบหน้าของกัวอวี่ชิงปรากฏคลื่นอารมณ์ และหายไปแทบจะทันที
“ในมือของข้าไม่มีกุญแจสุสานราชาเซียน ศิษย์น้อง เจ้ากลับไปเถิด” เขาเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
ชายผมทองเอี้ยวหน้ากลับมามองกัวอวี่ชิง เงียบงันลงครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหัวเราะ “ศิษย์พี่ ท่านรู้หรือไม่ ข้าไม่อยากใช้วิธีเช่นนี้รับมือกับท่านเลย เป็นท่านที่บีบข้าเอง”
“เจ้า…” กัวอวี่ชิงตกใจ เข้าใจขึ้นมาในทันที สีหน้าพลันเปลี่ยน ร่างไหววูบจะพุ่งตรงกลับไปยังหมู่บ้านปากเหยี่ยว
ชายผมทองก็ราวกับภูตผี เข้ามาขวางหน้าเขาไว้ ก่อนส่งฝ่ามือประทับออกมาเบาๆ ปะทะเข้ากับฝ่ามือของกัวอวี่ชิงจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น สกัดเขาเอาไว้ได้
“ข้าส่งคนไปเชิญครอบครัวของศิษย์พี่แต่เนิ่นๆ แล้ว ตอนนี้ท่านไปก็ไม่ทันหรอก วางใจเถอะ ข้าจะดูแลพี่สะใภ้ กับหลานชายหลานสาวทั้งสองในที่ราบทุ่งหญ้าเป็นอย่างดี รอให้ท่านนำกุญแจมาแลกเปลี่ยน” ชายผมทองกล่าวด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
ร่างของเขาค่อยๆ จางลง จากนั้นก็หายไป
ตอนที่กัวอวี่ชิงคิดจะเข้าขวางก็ไม่ทันเสียแล้ว
ขณะที่ชายผมทองกำลังจะหายไปนั้นเอง
ทันใดนั้น…
ตูม!
คลื่นพลังอันน่าเกรงขามพุ่งมาจากหมู่บ้านปากเหยี่ยวที่อยู่ห่างออกไป
ตามด้วยเสียงร้องโหยหวน เสียงคำราม จากนั้นเงาหลายร่างก็บินทะยานออกมานอกหมู่บ้านราวกับดาวหาง
ต่อมายังมีลำแสงราวสายฟ้าสองสายกวดไล่มาอย่างรวดเร็ว
“หืม?” ชายผมทองที่เดิมทีร่างจางหายไปแล้วกลับปรากฏชัดขึ้นมาอีกครั้ง
ใบหน้าเขาปรากฏความเหนือคาดบางๆ
เสียงหนึ่งดังมาจากที่ไกลๆ…
“มาเป็นแขกในอำเภอขาวพิสุทธิ์ของข้า กลับไม่ยอมมาทักทายกัน ช่างไร้มารยาทเสียจริงนา”
แสงดาบหมุนวน
เงาร่างหลายร่างที่บินอยู่ด้านหน้าต่างถูกแสงดาบนั้นฟาดฟัน ทยอยร่วงกราวลงพื้นดั่งนกกระจอกถูกธนูยิง ก่อนกลายเป็นร่างของจอมยุทธ์ชุดเกราะแห่งที่ราบทุ่งหญ้า บนตัวเต็มไปด้วยบาดแผล วิ่งหนีโซซัดโซเซ บนท้องฟ้าด้านหลัง เด็กหนุ่มผมสั้นชุดขาวใช้วิชาดาบเหินหาวไล่กวดตามมา
“น้องชาย?” เมื่อเห็น กัวอวี่ชิงก็รู้สึกยินดีทันที
พริบตาที่เห็นหลี่มู่ปรากฏตัว เขารู้ทันทีว่าภรรยาน่าจะปลอดภัยแล้ว
“ฮ่าๆ พี่ใหญ่ ไม่คิดว่าท่านจะมาปลีกวิเวกถึงหุบเขาลึกเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคลื่นพลังตอนพี่สะใภ้ปะทะกับพวกหนูจากที่ราบทุ่งหญ้ากวาดมา วันนี้ข้าคงหาพี่ใหญ่ไม่เจอแล้ว” หลี่มู่ในวิชาดาบเหินหาวพุ่งมาด้วยความเร็วสูง พริบตาเดียวก็ลงมายืนอยู่ข้างกายกัวอวี่ชิง
ห่างออกไป ชายร่างใหญ่โตกำยำผู้หนึ่งคุ้มครองพี่สะใภ้หลิวจื่อหยวนรวมถึงเด็กอีกสองคนเดินตรงเข้ามา สีหน้าหลิวจื่อหยวนกระสับกระส่าย แต่หลังจากเห็นร่างของสามี จึงค่อยนับว่าโล่งอกลงแล้ว
“พี่ชิง” หลิวจื่อหยวนเรียก
คนหลายคนยืนอยู่ด้วยกัน
กัวอวี่ชิงกอดลูกสาวยายา มองลูกชายตัวน้อยในอ้อมอกภรรยา จิตใจที่เป็นกังวลจึงค่อยวางลงได้
“ฝ่าบาท ฝ่าบาท…พวกเรา…” ร่างหลายร่างวิ่งโซซัดโซเซเข้ามา เอ่ยว่า “พวกเรา…พลาดไปแล้ว เป็นไท่ไป๋อ๋องหลี่มู่กับจอมยุทธ์ดาบชิวอิ่น…”
พวกเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งจากวิหารเทพหมาป่าแห่งที่ราบทุ่งหญ้า แต่ดันมาเจอกับยอดฝีมือเข้า
ชายผมทองผงกศีรษะ ก่อนเอ่ยสั่ง “ถอยไป”
ยอดฝีมือจากที่ราบทุ่งหญ้าที่ได้รับบาดเจ็บกว่าสิบนายทยอยกันถอยไปอยู่ด้านหลังเขา
“พ่ายแพ้ให้ไท่ไป๋อ๋องกับจอมยุทธ์ดาบ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดนัก ถึงอย่างไรก็เป็นผู้โดดเด่นวัยหนุ่มสาวแห่งฉินตะวันตก” สายตาของชายผมทองกวาดผ่านร่างหลี่มู่และชิวอิ่น ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มบางๆ มีเสน่ห์ทำให้คนรู้สึกตาพร่าบางอย่าง เขาพูดขึ้นราวกับคิดอะไรแปลกๆ ขึ้นได้ “อะฮ่า จู่ๆ ข้าก็คิดได้ หากพวกเจ้าสองคนตายไป ดวงชะตาของวิถียุทธ์ฉินตะวันตกในอีกร้อยปีข้างหน้าคงขาดแล้วกระมัง?”
“เจ้าเป็นใคร?” หลี่มู่มองเขาพลางถาม “เจ้ากับข้าไม่เคยมีความแค้นเคืองต่อกัน ทำไมต้องมาอวดดีต่อหน้าข้า?”
ชายผมทองมึนงง
“ท่านคือผู้นำวิหารเทพหมาป่าแห่งที่ราบทุ่งหญ้า ผู้อาวุโส ‘เทพหมาป่าลมฝน’ เจียงชิวไป๋เจียงใช่หรือไม่?” ใบหน้าชิวอิ่นฉายแววตกใจ ถึงอย่างไรเขาก็โลดแล่นอยู่ในโลกวิถียุทธ์แผ่นดินใหญ่เสินโจวมาหลายปี ไม่เหมือนกับหลี่มู่ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวนัก เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของชายผมทองก็นึกถึงตำนานบางส่วนและคาดเดาออกมา
“สมแล้วที่เป็นศิษย์ของตาเฒ่าหลี่ แค่เห็นก็มองตัวจริงออก ไม่เหมือนเจ้าเด็กป่าเถื่อนคนนี้ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง” ชายผมทองจ้องหลี่มู่แวบหนึ่ง และยิ้มบางๆ อีกครั้ง “ผู้อาวุโสอะไรกัน ข้าดูแก่มากหรือ? ใบหน้ามีเคราครึ้มเต็มไปด้วยแผลและขาดการบำรุงรักษาอย่างเจ้า ยังดูแก่กว่าข้าตั้งเยอะ อ้อ ใช่แล้ว จะว่าไปอาจารย์ที่แสร้งเป็นผีทำตัวเป็นเจ้านั่น แก่ตั้งขนาดนั้นแล้ว มีสัญญาณว่าจะลงโลงบ้างแล้วหรือยัง?”
เวรเอ๊ย คำพูดนี้มันช่าง
หลี่มู่อยากจะซัดเจ้าหน้าหล่อนี่ขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา