พริบตาที่ประตูฟ้านิจนิรันดร์ปิดสนิท กัวอวี่ชิงและพวกหลี่มู่เข้าไปในประตูวังสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
“หลังจากเข้ามา จะถูกฟ้านิจนิรันดร์ส่งไปยังพื้นที่ที่แตกต่างกัน ทุกคนไม่ต้องกังวล เมื่อถึงเวลาจะถูกส่งกลับมายังด้านนอกประตูใหญ่เอง”
เสียงของกัวอวี่ชิงดังขึ้นข้างหู
พริบตาต่อมา ทุกคนรู้สึกเพียงว่าแสงสีทองเต็มฟ้าโถมเข้ามา ราวกับเข็มสีทองนับหมื่นเล่มทิ่มแทงดวงตา นัยน์ตาไม่อาจมองเห็น ต้องปิดตาลงอย่างเสียมิได้ และตอนที่การมองเห็นกลับมาเป็นปกติ ทิวทัศน์ตรงหน้าก็เปลี่ยนไปแล้ว
ยามหลี่มู่ลืมตาขึ้น พบว่าตนเองอยู่ท่ามกลางธรรมชาติภูเขาแม่น้ำแห่งหนึ่ง ทิวทัศน์ราวภาพวาด
ตอนนี้เขายืนอยู่บนยอดผาหินสูงราวสามสิบจั้ง เหมือนกับอยู่ในภาพวาดก็มิปาน อากาศสดชื่น ได้ยินเสียงนกอวลกลิ่นบุปผา น้ำตกไหลริน ผกาบานสะพรั่งบนเขา ผีเสื้อเริงระบำ มีบรรดาสัตว์มงคลเช่นกระเรียนขาว กวางขาว เสือขาว เสือดาวปรากฏขึ้นริมทะเลสาบที่ห่างออกไป แต่ละฝูงต่างครอบครองผืนหญ้าผืนน้ำของตนเอง เป็นภาพของโลกที่ไม่มีการแก่งแย่ง ปรองดองและปลอดภัย
“นี่คือโลกในฟ้านิจนิรันดร์หรือ?”
หลี่มู่ตกตะลึงเล็กน้อย
พวกกัวอวี่ชิง ชิวอิ่น และเทพธิดาสงครามนั้นแน่นอนว่าไม่เห็นแม้เงา คงจะเหมือนกับที่กัวอวี่ชิงบอกไว้ ถูกกฎเกณฑ์ของฟ้านิจนิรันดร์ส่งไปยังพื้นที่อื่นซึ่งไม่เหมือนกัน
หลี่มู่ยืนอยู่บนยอดหิน ราวกับคิดอะไรอยู่ ว่ากันว่าในฟ้านิจนิรันดร์แฝงไว้ด้วยปริศนาแห่งเซียนและมาร ทุกคนเมื่อเข้ามาด้านในล้วนได้รับโอกาสของตนเอง โอกาสที่ไม่เหมือนกัน จะมีหนทางไม่เหมือนกัน ดังนั้นฟ้านิจนิรันดร์จะจัดสรรเส้นทางให้…อืม ฉลาดดีจริง ทำไมเหมือนกับพวกตัวเลขข้อมูลบนคอมพิวเตอร์เลย
เขากระโดดลงมาจากผาหิน เดินไปยังทะเลสาบ
บรรดากระเรียนขาวกวางขาวราวกับไม่เคยเห็นมนุษย์เป็นๆ ใช้สายตาอยากรู้อยากเห็นพินิจหลี่มู่ และไม่กลัวจนหนีหายกันไปด้วย
“สวัสดีทุกคน ข้ามาใหม่น่ะ ฝากตัวด้วยนะ”
หลี่มู่หัวเราะคิกคักทักทาย จากนั้นถอดเสื้อผ้าอย่างหน้าไม่อายด้วยความรวดเร็วที่ริมทะเลสาบ ก่อนกระโดดโครมลงไปในน้ำ
ดูเหมือนบรรดาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในฟ้านิจนิรันดร์ก็ไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่หน้าไม่อายเช่นนี้ ครู่เดียวก็จ้องมาทางหลี่มู่ เดินเข้ามาอย่างอยากรู้อยากเห็น
หลี่มู่ยังคงว่ายน้ำตัวเปลือยต่อโดยไม่ขวยเขิน
หลังจากออกมาจากเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์ ตลอดการเดินทางไม่มีเวลาอาบน้ำดีๆ เลย
ถึงแม้ด้วยพลังฝึกของหลี่มู่ในตอนนี้ ร่างกายสามารถทำให้ฝุ่นธุลีไม่เปรอะเปื้อนได้ แต่ในฐานะชาวโลกที่ชอบอาบน้ำและยึดหลักห้าสำคัญสี่งดงาม ความพึงพอใจด้านความสะอาดเช่นนี้ก็ยังต้องรักษาเอาไว้อยู่นา
น้ำในทะเลสาบใสสะอาด มีปลาสีขาวว่ายไปมาอย่างอิสระเสรี
หลี่มู่รู้สึกได้ว่ารูขุมขนทุกอณูบนร่างกายสดชื่นไปหมด
เขาไม่ได้รีบร้อนค้นหาโอกาสอะไรนั่น
เพราะซินแสเฒ่าเคยพูดไว้ ของอย่างโอกาสมีความเป็นมาโซคิสม์อยู่โดยกำเนิด ถ้าเจ้าทำตัวต่ำต้อยไม่แข็งขันไล่ตามมัน มันก็อาจจะไม่สนใจเจ้าเลย แต่หากเจ้าลองเย็นชาไม่ตั้งใจทำ กลับเป็นมันเองที่อาจยอมก้มหัววิ่งมาหาเจ้าเอง เช่นนี้สิถึงจะเรียกว่าโอกาส ถ้าหากพยายามเพียงน้อยก็ไล่คว้ามันมาได้ แล้วจะเรียกว่าโอกาสได้อย่างไร เรียกว่าเงินเดือนไปเลยก็จบแล้ว
สภาพจิตใจของหลี่มู่ตอนนี้คือหัวใจหนึ่งดวง สองมือเตรียมพร้อม
ถึงอย่างไรที่เขามายังฟ้านิจนิรันดร์ ก็ไม่ใช่เพื่อตามหาโอกาสอะไรนั่น แต่เพื่อมาช่วยซ่างกวนอวี่ถิงต่างหาก
เมื่อได้ยินจากปากเจียงชิวไป๋ว่าซ่างกวนอวี่ถิงเข้าไปในฟ้านิจนิรันดร์ หลี่มู่ก็วางใจลงได้
เพราะกัวอวี่ชิงก็พูดเอาไว้ ภายในฟ้านิจนิรันดร์ไม่ได้มีอะไรอันตรายมาก
หลี่มู่ว่ายน้ำเล่นในทะเลสาบอย่างสบายอกสบายใจ จู่ๆ ผิวน้ำก็ปรากฏน้ำวนขนาดใหญ่ จากนั้นสัตว์น้ำตัวยักษ์ราวไดโนเสาร์ตัวหนึ่งพุ่งขึ้นมา กลิ่นอายแข็งแกร่งที่มีเฉพาะสัตว์กินเนื้อแผ่ซ่าน บรรดากระเรียนขาวกวางขาวริมทะเลสาบต่างตกใจวิ่งหนีไปรอบทิศทาง ทว่าหลี่มู่กลับพุ่งเข้าไปหาอย่างดีใจ เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา เขาก็ขึ้นไปขี่บนสัตว์ยักษ์นี้ด้วยร่างเปลือยเปล่า แล้วควบคุมสัตว์น้ำที่หน้าบวมจมูกเขียวว่ายไปมาในทะเลสาบ เหมือนขี่มอเตอร์ไซด์อย่างไรอย่างนั้น
การพักผ่อนเช่นนี้ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม หลี่มู่จึงกลับขึ้นฝั่งด้วยอาการอิดออด
จากนั้น เขาสับสนมึนงง
“มารดามันเถอะ เสื้อผ้าข้าล่ะ?”
เขาเห็นว่าจุดที่เขาวางเสื้อผ้าเอาไว้ก่อนหน้า ตอนนี้ว่างเปล่าไปแล้ว เสื้อผ้าที่ถอดออกมาไม่รู้อันตรธานหายไปไหน
นี่โดนผีหลอกเข้าจริงๆ สินะ
หลี่มู่รู้สึกเย็นวาบที่หว่างขา เหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นเงาคน
“พวกเจ้าทำหรือ?” หลี่มู่มองไปยังสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา