หมาป่าและเป้ยมีชีวิตอยู่ร่วมกัน
เรื่องนี้หลี่มู่ก็รู้เช่นกัน
เพราะบนโลกมนุษย์มีสำนวนที่พูดกันว่า…เอ่อ สมคบคิดแผนชั่ว ถึงแม้จะไม่ใช่คำที่ดีอะไร แต่ก็พูดถึงความสัมพันธ์ของหมาป่ากับเป้ย อีกทั้งพัฒนาออกมาอีกหลายคำจากความสัมพันธ์นั้น เช่นอเนจอนาถสิ้นสภาพ ตกอับ หวาดหวั่นวิตก จนตรอกสิ้นหนทาง ตกระกำลำบาก…มารดามันสิ ไม่ใช่คำที่ดีอะไรทั้งนั้นเลย
หลี่มู่สบถด่าในใจ ไม่ได้พูดออกมา
ก่อนหน้านี้ประมาณสามสี่อึดใจ ตอนที่เห็นสีหน้าของกัวอวี่ชิงเปลี่ยนไป แล้วก้าวข้ามทะลุมิติหายไปจากประตูที่อยู่ปลายทาง เขาก็รู้ทันทีว่าเจียงชิวไป๋น่าจะเจอกับอันตราย ดังนั้นพี่ใหญ่ถึงได้ร้อนรนถึงขนาดนั้น ตลอดทางที่ผ่านมาแค่เดาหลี่มู่ก็เดาได้แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่ใหญ่กับเจียงชิวไป๋ไม่ใช่ละครน้ำเน่าอย่างศึกชิงอำนาจภายในสำนักแบบนั้นแน่ สองคนนี้…อืม รักใคร่กัน
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เมื่อเขาบังคับดาบตามมา ได้เห็นวังสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและภาพข้างล่างวัง ก็ยังคงรู้สึกตื่นตะลึง
ที่แท้เจียงชิวไป๋เป็นปีศาจ อีกทั้งยังเป็นเป้ยที่แต่ไหนแต่ไรชื่อเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่บนโลกอีกด้วย
เช่นนั้นก็มีคำถามแล้ว
หมาป่าและเป้ย ในเมื่อเจียงชิวไป๋ที่เป็นศิษย์น้องเป็นเป้ยแล้วละก็ เช่นนั้นหมาป่าอยู่ที่ไหน?
สายตาของหลี่มู่หยุดอยู่ที่กัวอวี่ชิงซึ่งอุ้มร่างของเป้ยขนทองตัวนั้นไว้ในอ้อมแขน
เขาเดาอะไรออกแล้ว
แสงดาบส่องกะพริบ วาดออกเป็นเส้นโค้ง
หลี่มู่ ชิวอิ่น และเทพธิดาสงครามลงมาบนพื้นข้างกายกัวอวี่ชิง
“ศิษย์พี่ ท่าน…กลับมาที่ราบทุ่งหญ้าแล้ว หึๆ…” เสียงมนุษย์ที่เป้ยเปล่งออกมาอ่อนแรงเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ปิดความได้ใจและยินดีเล็กๆ นั่นไม่ได้
เป้าหมายของเขา ในที่สุดก็เป็นจริงแล้ว
กุญแจสุสานราชาเซียนอะไรนั่นเป็นข้ออ้างเท่านั้น เขาแค่อยากให้ศิษย์พี่กลับมาที่ราบทุ่งหญ้าได้อีกครั้ง
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ข้าจะส่งเจ้าเข้าไปในฟ้านิจนิรันดร์ น้ำพุราตรีกระจ่างรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าได้” กัวอวี่ชิงอุ้มเขาเอาไว้ สีหน้าร้อนใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เป้ยตอบ “สายไปแล้ว…ท่านเคยสาบานเอาไว้ว่าหากย่างก้าวเข้าสู่ที่ราบทุ่งหญ้าอีก ก็ให้วิญญาณถูกกัดกิน กระดูกแหลกลาญ วรยุทธ์สลายสิ้น วิญญาณเผาไหม้ ไม่อาจพลิกชะตาชีวิตได้ตลอดกาล ข้า…ข้ารับมันไว้แทนท่านแล้ว…พวกเราเดิม…เดิมก็คือร่างเดียวกัน ผลกรรมจากการผิดคำสาบานสนองบนร่างของข้า ศิษย์พี่…ท่านกลับมายังท้องทุ่งหญ้าได้ตามแต่ที่ใจต้องการแล้ว”
หลี่มู่อึ้งตะลึง
พี่ใหญ่เคยสาบานเช่นนี้ด้วยหรือ?
เช่นนั้นครั้งนี้ยืนกรานจะมาที่ราบทุ่งหญ้าเป็นเพื่อนเขาให้ได้ นั่นไม่ใช่…หลี่มู่ซาบซึ้งจนยากจะหาคำบรรยาย
อะไรคือพี่น้อง?
นี่แหละคือพี่น้อง
ชิวอิ่นและเทพธิดาสงครามที่อยู่ข้างๆ ก็ตกใจมากเช่นกัน
เบื้องหลังยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วย
ในตอนนี้เอง…
ตูม!
ท่ามกลางเสียงดังแกรกๆ ในที่สุดหมาป่ายักษ์ชั่วร้ายสีดำตัวนั้นก็พุ่งชนกำแพงแสงร้าวแตกราวกระจกจนได้ ปีศาจร้ายที่มาจากนอกพิภพหลุดพ้นจากพันธนาการแล้ว
“โฮก——!”
มันเงยหน้าคำรามเสียงลากยาว ทั่วร่างพันล้อมด้วยละอองหมอกราวเลือดสีดำ กลิ่นอายชั่วร้ายเหี้ยมโหดแผ่กระจายไปรอบด้าน ยามมันก้าวข้ามท้องฟ้า ก็ทิ้งรอยราวแอ่งเลือดที่นานกว่าจะสลายไปเอาไว้ ในดวงตาแดงก่ำฉายประกายชั่วร้าย จับจ้องพวกหลี่มู่เขม็ง
“เป็นอาหารของข้าไปทั้งหมดเสียเถอะ”
มันอ้าปากมหึมาเข้ากัดกิน
พลังที่น่าสะพรึงกลัวของปีศาจร้ายนอกพิภพบดขยี้มาดุจขุนเขาถล่มทลาย คลื่นคลั่งถาโถม ตอนนั้นหลี่มู่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนทารกที่เพิ่งหัดคลาน เมื่อเผชิญหน้ากับน้ำป่าที่ไหลบ่าเช่นนี้ เขาขัดขืนไม่ได้เลย พลังเช่นนี้น่าครั่นคร้ามเหลือเกิน เทพธิดาสงครามและชิวอิ่นก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน ไม่อาจต้านทานขัดขืนได้
กัวอวี่ชิงพลันเงยหน้าขึ้น
ความโกรธแค้นในดวงตาพุ่งออกมาดั่งกระบี่เทวะเบิกผืนฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
พันธนาการบางอย่างในร่างของเขาถูกทำลายในพริบตา อักขระทองหลายสิบสายพวยพุ่งออกมา ขาดสะบั้นอยู่กลางท้องฟ้า จากนั้นพลังที่แข็งแกร่งจนไม่น่าเชื่อก็เริ่มตื่นขึ้นภายในกายของเขา ขนหมาป่าขาวละเอียดเป็นชั้นๆ เริ่มงอกออกมาตามแขน คอ และใบหน้าอย่างรวดเร็ว กัวอวี่ชิงอ้าปากแยกเขี้ยวขาวาววับ ส่งเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวของราชาหมาป่าขาว เผชิญหน้ากับหมาป่ายักษ์สีดำที่ชั่วร้ายตัวนี้
รัศมีอำนาจทั้งหมดของหมาป่ายักษ์ตัวนั้นพังทลายในพริบตา
แปลงเป็นสัตว์?
หลี่มู่ตะลึงงัน
เขารู้ว่ากัวอวี่ชิงแข็งแกร่งมาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งจนถึงระดับนี้
เหมือนว่าพลังของเขาก่อนหน้านี้ถูกสะกดและจำกัดไว้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ เขาปลดผนึกพลังสะกดบางอย่างออกแล้ว…ในชั่วขณะนี้ ร่างของกัวอวี่ชิงท่วมท้นไปด้วยกลิ่นอายราวกับมหาสมุทรกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต กำลังรบเกินกว่าที่เก้ายอดคนแสดงออกมาก่อนหน้านี้เสียอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา