หลี่มู่เห็นไช่ไช่ แม่เฒ่าไช่ และพวกอู๋เป่ยเฉินอยู่กันครบก็ถอนใจโล่งอก
หลายวันมานี้พวกเขาอยู่บนที่ราบทุ่งหญ้า ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตก ทุกที่ที่เดินทางผ่านก็ล้วนได้ยินข่าวบางอย่าง ถึงได้รู้ว่าที่แผ่นดินใหญ่วุ่นวายจนถึงขั้นนี้ และยิ่งคาดไม่ถึงว่าสามจักรวรรดิที่ดูประหนึ่งภูเขาไท่ซานจะย่ำแย่ถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะฉินตะวันตกและซ่งเหนือ เวลาสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งปีก็เละเทะถึงขนาดนี้แล้ว
เพียงแต่บนที่ราบทุ่งหญ้า ข่าวสารข้อมูลจะเข้าไม่ถึง รายละเอียดเป็นเช่นไร เหล่าคนเลี้ยงสัตว์ไม่ค่อยรู้ชัดเช่นกัน
หลี่มู่ได้ยินมาว่าชายแดนฉินตะวันตกพ่ายแพ้ราบคาบ ราชวงศ์ต้าเยวี่ยที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนประกาศว่าในพื้นที่บริเวณนี้ สิบเมืองเก้าพื้นที่ชายแดนล้วนอยู่ในการควบคุมของต้าเยวี่ย อีกทั้งแม้แต่ ‘ทวนปราบอสูร’ หลี่หยวนป้าเทพนักรบแห่งกองทัพจักรวรรดิฉินตะวันตกยังรบแพ้ หลี่มู่จึงเริ่มเป็นห่วงแม่เฒ่าไช่สองย่าหลานและพวกอู๋เป่ยเฉิน แทบจะขี่ดาบบินเดินทางตลอดทาง วันนี้ในที่สุดก็มาถึงด่านเมืองมังกร
ใครจะคิดว่าด่านเมืองมังกรเล็กๆ แบบนี้กลับไม่ถูกยึดครอง
“คาระวะท่านอ๋อง” หลังจากอู๋เป่ยเฉินตื่นเต้นยินดีก็ตั้งตัวกลับมาได้ จึงรีบทำความเคารพ
หลี่มู่พูดไปว่า “ไม่ต้องมากพิธี”
อู๋เป่ยเฉินกวักมือเรียกเสี่ยวอู่ที่อยู่ข้างๆ มา ก่อนเอ่ย “เจ้าเด็กคนนี้ ยังจะมัวอึ้งอะไรอยู่ รีบมาคารวะไท่ไป๋อ๋องเร็วเข้า”
ชายหนุ่มที่ปกติยิ้มแย้มเขินอายคนนั้น ตอนนี้กลับยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้าประดับรอยยิ้มประหลาด ดวงตาฉายประกายวาววับ กำลังจ้องหลี่มู่เขม็ง แผ่นหลังเหยียดตรงราวกระบี่เทพชั้นเลิศ ไม่มีทีท่าว่าจะเดินมาทักทายหลี่มู่สักนิด
อู๋เป่ยเฉินอึ้งไป
เจ้าเด็กนี่ถึงแม้ปกติจะขี้อาย แต่ก็หัวไวยิ่งนัก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“เร็วเข้าสิ เจ้าเด็กนี่ เมื่อหลายวันก่อนยังบอกว่าอยากจะพบท่านอ๋องหลี่มู่เซียนกวีวิถียุทธ์มากอยู่เลยไม่ใช่หรือ?” อู๋เป่ยเฉินรีบขยิบตาส่งสัญญาณ
หลี่มู่โบกมือ ส่ายหน้าแล้วพูด “ไม่ต้อง ครึ่งเทวะคำนับข้า ข้ารับเอาไว้ไม่ไหวหรอก”
“อะไรนะ?”
“ครึ่งเทวะ?”
อู๋เป่ยเฉินและไช่ไช่อึ้งไปโดยสมบูรณ์ทันที
พวกเขาคิดว่าตัวเองฟังผิดไป
เสี่ยวอู่เป็นครึ่งเทวะ?
ใบหน้าของชิวอิ่นและเทพธิดาสงครามที่อยู่ข้างๆ ฉายแววระแวดระวัง
มีเพียงไป๋ม่อโฉวที่สีหน้าเฉยชามากโดยตลอด ท่าทางเหมือนไม่เกี่ยวกับตน เย็นชาเหลือจะพรรณนา เหมือนกับว่าสำหรับนาง ขั้นครึ่งเทวะก็เหมือนผักกาดขาวข้างทางต้นหนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อสายตาของนางหยุดที่ร่างไช่ไช่ ดวงตาก็พลันลุกวาว ท่าทางแบบนั้นราวกับเห็นของล้ำค่าอะไรก็ไม่ปาน
หยวนโห่วยืนข้างหลังหลี่มู่อย่างรู้หน้าที่ ท่าทางอย่างพี่ใหญ่พูดอะไรข้าก็ทำอย่างนั้น ข้าจะสู้เพื่อพี่ใหญ่
จิ้งจอกขาวน้อยต๋าจี่ขี่คอหลี่มู่ มองประเมินเสี่ยวอู่อย่างสงสัยใคร่รู้
ไช่ไช่และอู๋เป่ยเฉินถึงเพิ่งจะพบว่าสีหน้าท่าทางของเสี่ยวอู่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ ไม่ใช่ชายหนุ่มที่เขินอายและอ่อนโยนก่อนหน้านี้อีกต่อไป สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือกลิ่นอายของความหลักแหลมและมั่นใจ ประหนึ่งเปลี่ยนไปเป็นคนละคน รัศมีที่ในความน่าเกรงขามแฝงความหยิ่งทะนง ในความสูงส่งแฝงไว้ด้วยความดุดันค่อยๆ แผ่กระจายมาโดยมีชายหนุ่มคนนี้เป็นศูนย์กลาง
เสี้ยวขณะนี้ เสี่ยวอู่เปลี่ยนจากชายหนุ่มจากคาราวานสินค้าธรรมดาๆ ที่เขินอาย กลายเป็นราชาผู้น่าเกรงขามที่ปกครองทุกสิ่ง ทำให้คนไม่กล้าจ้องมอง
“พี่เสี่ยวอู่ ท่าน…” ใบหน้าของไช่ไช่เต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
เสี่ยวอู่ไม่มองไช่ไช่ แต่กลับมองมายังหลี่มู่ ใบหน้าเผยรอยยิ้มบางๆ ก่อนเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ในที่สุดไท่ไป๋อ๋องก็มา…หึๆ ข้ารอเจ้ามาครึ่งปีเต็มแล้ว”
หลี่มู่เลิกคิ้ว “เจ้าเป็นใคร?”
เสี่ยวอู่แย้มยิ้มเล็กน้อย เอ่ยว่า “อวี๋ฮว่าหลงแห่งต้าเยวี่ย”
“อวี๋ฮว่าหลง?” อู๋เป่ยเฉินร้องตกใจเสียงหลงก่อนใคร “รัชทายาทแห่งต้าเยวี่ยอวี๋ฮว่าหลง?”
เขาไม่กล้าเชื่อหูตัวเองเลยจริงๆ
ส่วนไช่ไช่กลับเผยสีหน้าตื่นตะลึง มือปิดปาก ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
รัชทายาทต้าเยวี่ยที่ปิดล้อมด่านเมืองมังกรนานขนาดนี้ ที่แท้อยู่ในด่านเมืองมังกรอย่างนั้นรึ?
เขาก็คือบุคคลอันดับหนึ่งที่สั่นสะเทือนทั้งปฐพีในช่วงครึ่งปีมานี้?
เป็นไปได้อย่างไรกัน
ไม่กล้าจะเชื่อเลยจริงๆ
หลี่มู่กลับไม่ตกตะลึงขนาดนั้น
ตอนที่เขามาก็สัมผัสได้ว่าในกายของชายหนุ่มคนนี้มีคลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัว ไม่ด้อยไปกว่าเทพมารเพลิงเลย
“ข้าออกมาจากที่ราบทุ่งหญ้าก็ได้ยินข่าวนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับการผงาดขึ้นมาของราชวงศ์ต้าเยวี่ย มีนักรบที่ราบทุ่งหญ้าไม่น้อยมองว่าเจ้าเป็นบุคคลเยี่ยมยอดอันดับหนึ่งคนใหม่ ยังคิดว่าจะเป็นนาจาที่มีสามเศียรหกกรเสียอีก วันนี้ได้พบกันแล้ว อืม ก็เป็นคนปกติมีสองแขนสองขานี่” หลี่มู่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่หวาดระแวงเพราะรัศมีอำนาจและท่าทางของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
นาจาเป็นใคร พวกชิวอิ่นและอู๋เป่ยเฉินไม่รู้จักสักนิด
แต่อวี๋ฮว่าหลงผู้เป็นรัชทายาทแห่งต้าเยวี่ยกลับเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบปกติ “ยามนาจาไม่แสดงสามเศียรหกกรออกมา ก็เป็นแค่เด็กธรรมดาไม่ใช่หรือ?”
คำพูดของเขาประโยคนี้สุขุมและเรียบง่ายนัก
ดังนั้นคนอื่นๆ จึงไม่พบว่าในประโยคนั้นแฝงอะไรเอาไว้
แต่หลี่มู่ตกใจทันที “เอ๋ เจ้ารู้จักนาจาด้วย?”
นี่เป็นคนในเทพนิยายของประเทศจีนบนดาวโลก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา