“ปะ…ประชุมใหญ่ครั้งนี้เป็นเรื่องในยุทธจักร หากทางการยื่นมือเข้ามายุ่งละก็จะนำเรื่องยุ่งยากเข้ามา ท่านหญิง ท่านก็รู้ กฎของพวกเราพรรคกระยาจก แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่คบค้าสมาคมกับทางการ…” หลู่ฉางฟู่ใจหวั่นไหวเล็กน้อย อย่างไรเสียท่านหญิงหวนจูฐานะตำแหน่งก็สูงส่ง หากนางไปด้วยฐานะศิษย์ในนาม เช่นนั้นไม่แน่ว่าอาจจะช่วยอะไรได้จริง แต่หลังจากลังเลเล็กน้อยแล้วเขาก็ทิ้งความคิดนี้ไป
กฎของพรรคกระยาจกคือไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางการโดยเด็ดขาด กฎนี้ปฏิบัติมาเกือบพันปีแล้ว ถึงแม้เกี่ยวพันกับความเป็นความตายก็จะทำลายกฎไม่ได้
ท่านหญิงหวนจูหวางซืออวี่นึกอะไรได้ ยิ้มพูดขึ้นว่า “ผู้อาวุโสหลู่ ที่ท่านพูดมาผิดแล้ว ข้าไม่ใช่คนของทางการ ข้าเป็นแค่ลูกสาวของท่านอ๋องว่างงาน และไม่มีตำแหน่งอะไร อีกทั้งตอนนั้นข้าก็เป็นผู้ลี้ภัยเหมือนกัน เพียงแค่โชคดีถึงได้ไปอยู่ในจวนอ๋อง ตอนนี้ข้าเป็นลูกศิษย์ในนามของพรรคกระยาจก ตามไปด้วยไม่ทำลายกฎแน่นอน”
“นี่…” ผู้อาวุโสหลู่ไม่รู้ว่าควรจะโต้แย้งอย่างไร
พูดตามตรง คนระดับบนล่างของสาขาย่อยพรรคกระยาจกรักและเอ็นดูท่านหญิงหวนจูคนนี้เป็นอย่างมาก มองไม่เห็นความหยิ่งยโสของสตรีนางนี้แม้แต่น้อย นางกลับไม่ถือตัวยิ่งนัก อยู่กับศิษย์พรรคกระยาจกไปทั่ว ไม่เคยรังเกียจว่าพวกขอทานสกปรก
นอกจากนั้น หนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา จวนปาเสียนอ๋องยังแจกจ่ายโจ๊กที่หน้าเขตสาขาย่อยหลายครั้งเพราะความสัมพันธ์กับท่านหญิงหวนจู โดยเฉพาะเมื่อเกิดสงครามแปดอ๋องขึ้น ผู้ลี้ภัยที่รับไว้ในเขตสาขาย่อยมากมายขนาดนั้น อาศัยเพียงพวกเขาพรรคกระยาจก ต่อให้รักษากฎเอาไว้ได้ แต่จะเลี้ยงคนพวกนี้ได้อย่างไร? ถึงอย่างไรพวกเขาก็แค่ขอทานเท่านั้น ต้องขอบคุณจวนปาเสียนอ๋องที่แจกทานให้ ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถึงพอจะรักษาชีวิตไว้ได้
นี่เป็นการกระทำเช่นพระโพธิสัตว์โปรดชาวประชาเลยทีเดียว
หวางซืออวี่เอ่ยว่า “ผู้อาวุโสหลู่ ท่านลังเลแบบนี้ ไม่เห็นข้าเป็นพี่น้องของพรรคกระยาจกอย่างนั้นรึ”
“นี่…เฮ้อ ช่างเถอะ ข้าจะพาท่านไป แต่ว่าองครักษ์ของท่านต้องปลอมตัว ถอดผ้าดิ้นออกเสีย อีกทั้งเมื่อไปแล้วท่านแค่ดูก็พอ ห้ามยื่นมือเข้ายุ่งเด็ดขาด คืนนี้อันตรายมาก” หลู่ฉางฟู่เป็นคนซื่อๆ คนหนึ่ง ไม่เท่าไหร่ก็โดนหวางซืออวี่หว่านล้อม ได้แต่ต้องประนีประนอม
“คิกๆ พี่หลู่วางใจเถอะ” ดวงตาของหวางซืออวี่กลอกไปมา ท่าทางอดใจรอไม่ไหวแล้ว “ครั้งนี้ข้าออกมาไม่ได้นำองครักษ์มาด้วย จะได้ไม่ยุ่งยาก”
หลี่มู่กล่าวไว้ถูกยิ่ง เด็กสาวคนนี้ชอบยุ่งเรื่องครึกครื้น
“เช่นนั้นสหายทั้งหลายนี่…” หลู่ฉางฟู่มองไปยังหลี่มู่ หยวนโห่ว และชิงเฟิง
หลี่มู่ยิ้มบอก “ผู้อาวุโสหลู่วางใจได้ ข้าน้อยไม่ใช่คนของทางการ เป็นคนบ้านเดียวกับท่านหญิงหวนจู ซัดเซพเนจรไม่ต่างกัน”
ผู้อาวุโสหลู่ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงในนั้น แต่ก็โล่งอกแล้ว “เช่นนั้นต้องลำบากท่านทั้งหลายแล้ว”
เขาสั่งให้ลูกศิษย์พรรคกระยาจกสามสี่คนไปเอาชุดสกปรกขาดๆ มา
หลี่มู่ก็ไม่ถือสาแม้แต่นิด รับมาเปลี่ยนทันที เท้าเปลือยเปล่า เหมือนกับขอทาน แต่บุคลิกนั้นไม่เหมือน หลี่มู่คิดๆ ดูแล้วก็คว้าโคลนบนพื้นมาป้ายหน้าตัวเอง บุคลิกขอทานอย่างหนึ่งปรากฏขึ้นทันที
หลู่ฟู่จ่างก็ค่อนข้างประหลาดใจเหมือนกัน
เพราะก่อนหน้านี้ถึงแม้หลี่มู่จะสวมชุดง่ายๆ แต่มองแวบแรกก็รู้ว่าชาติกำเนิดมาจากตระกูลสูงศักดิ์ร่ำรวย โดยเฉพาะบุคลิกแบบนั้น หลู่ฉางฟู่ท่องไปในยุทธจักรก็ได้พบเห็นน้อยมาก ยังคิดว่าจะลดตัวลงมาไม่ได้เสียอีก เสื้อผ้าที่เขาหามาที่จริงค่อนข้างจะสะอาด ใครจะรู้ เด็กหนุ่มคนนี้กลับไม่ลังเล ใช้โคลนป้ายบนใบหน้าตัวเองเลยแบบนี้…
หลู่ฉางฟู่มองหลี่มู่ในมุมใหม่แล้ว
หลี่มู่ทำถึงขนาดนี้ หยวนโห่วกับชิงเฟิงก็ไม่โต้แย้งอะไร เปลี่ยนเป็นชุดขาดวิ่นพวกนั้นด้วย และเก็บรถเข็นไว้ที่สาขาย่อยพรรค จากนั้นให้หยวนโห่วแบกชิงเฟิง
ครู่หนึ่ง หวางซืออวี่ก็เข้าห้องเปลี่ยนชุดเรียบร้อยเช่นกัน ยังแต่งตัวเป็นชายเช่นเดิม ปลอมเป็นขอทานน้อยหน้าตางดงาม
“ฮิๆ เพื่อนยาก นี่มันตัวตนที่แท้จริงของนายเลยนี่” หวางซืออวี่เห็นเสื้อผ้าหน้าผมของหลี่มู่ก็หัวเราะ คิดถึงเมื่อก่อนตอนอยู่ที่โลก หลี่มู่ไปช่วยชาวบ้านปักต้นกล้าก็หน้าเปื้อนโคลนแบบนี้
หลี่มู่หัวเราะเล็กน้อย
หวางซืออวี่ปลอมตัวเป็นชาย ถึงแม้จะแต่งตัวเป็นขอทาน แต่บุคลิกก็ยังสง่า เหมือนชายหน้าตางดงามที่พบเห็นได้ยาก ทำให้คนตาวาว คนหน้าตาดีนี่ไร้ขีดจำกัดดังคาด คอสเพลย์อะไรก็เล่นได้หมด หากกลับไปดาวโลกจะไม่กลบหนุ่มน้อยหน้ามนที่เป็นที่นิยมพวกนั้นเลยหรือ
ครั้นเก็บทุกอย่างเรียบร้อย คนทั้งหลายออกเดินทางตามผู้อาวุโสหลู่ไป
ผู้มีฝีมือดีของพรรคกระยาจกสาขาย่อยรวมทั้งหมดหนึ่งร้อยกว่าคนนั่งเรือสิบลำ ออกเดินทางไปตามทางน้ำ
ตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว อาทิตย์อัสดงแดงฉาน
เรือแล่นไม่เร็วนัก
จากการพูดคุยกับผู้อาวุโสหลู่ หลี่มู่รู้ว่าสาขาหลักของพรรคกระยาจกอยู่บนเกาะทะเลสาบแห่งหนึ่งในเมืองหลินอัน นามว่าเกาะขอทาน พื้นที่กินบริเวณไม่ธรรมดา และยังเป็นที่ที่ทางการไม่สนใจ จึงตกเป็นของพรรคกระยาจกไปโดยปริยาย
ราชสำนักซ่งเหนือแต่ไหนแต่ไรมาจะไม่เข้าแทรกแซงพรรคกระยาจก เพราะประมุขพรรคกระยาจกในอดีตเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีชื่ออยู่ในอันดับต้นๆ บนลำดับสวรรค์ของซ่งเหนือ อีกทั้งเป้าหมายของพรรคกระยาจกคือไม่ก้มหัวให้กับการแย่งชิงอำนาจของราชสำนัก ข้าอยู่ส่วนข้า เจ้าอยู่ส่วนเจ้า อยู่ร่วมกันอย่างสุขสงบ
สรุปแล้ว พรรคกระยาจกอยู่ในซ่งเหนือนับเป็นพรรคที่พิเศษเฉพาะที่สุด
ตะวันตกดิน เกาะขอทานอยู่ไกลๆ เบื้องหน้า
คิ้วของหลี่มู่พลันขมวดเล็กน้อย
เพราะเขารู้สึกว่าใต้น้ำลึกลงไปสามสิบจั้งข้างหน้ามีกลิ่นอายวิถียุทธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งสองสายซ่อนอยู่ ล้วนแต่เป็นขั้นเหนือมนุษย์และแข็งแกร่งกว่าหลู่ฉางฟู่เล็กน้อย ถึงจะเก็บซ่อนจิตสังหารของตัวเองอย่างระมัดระวัง แต่จะซ่อนจากประสาทสัมผัสของหลี่มู่ได้อย่างไร หากสองคนนี้ลงมือลอบโจมตีละก็ เกรงว่ายอดฝีมือพรรคกระยาจกทั้งสาขาย่อยคงพ่ายแพ้ยับเยิน
คนของพรรคกระยาจก?
หรือฝ่ายตรงข้าม?
ชั่วขณะนั้นหลี่มู่แยกไม่ออก
เขาคิดๆ แล้วก็แผ่พลังจิตวิญญาณสำรวจลงไปเงียบๆ
ผู้แข็งแกร่งใต้น้ำขั้นเหนือมนุษย์ทั้งสองราวกับจับตัวแข็งอยู่ก้นทะเลสาบ ไม่ขยับไหวทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา