จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 395

จิ้นอ๋องตายแล้ว

ข่าวว่าจิ้นอ๋องที่พลังแข็งแกร่งที่สุดในแปดอ๋องกบฏล้มล้างจักรพรรดิแห่งซ่งเหนือถูกสังหารในค่ายกองกำลังสำแดงเดชที่ยอดเยี่ยมที่สุดใต้บัญชาการของเขายามฤกษ์มงคลเข้าพิธีวิวาห์กับท่านหญิงหวนจูแพร่สะพัดไปในเขตซ่งเหนืออย่างบ้าคลั่งราวติดปีก จากนั้นกระจายไปยังฉินตะวันตกและฉู่ใต้สองจักรวรรดิ

สำหรับขั้วอำนาจใหญ่ฝั่งต่างๆ ข่าวนี้ช่างทำให้พวกเขาตะลึงยิ่งนัก

จิ้นอ๋องจ้าวเฉินเป็นคนหนึ่งที่มีขั้วอำนาจ กำลัง กลอุบาย และฝีมือมากที่สุดในแปดอ๋องฝั่งกบฏ สำหรับหลายๆ คน คนผู้นี้มีโอกาสที่จะได้นั่งบัลลังก์จักรพรรดิมากที่สุด มีแนวโน้มว่าจะกลืนแผ่นดินหมื่นลี้ของซ่งเหนือ ทว่าเมฆลมผันเปลี่ยนในคืนเดียว ใครจะรู้ว่าจะตายไปอย่างนี้เสียแล้ว

ตายในเงื้อมมือของจางซานเฟิงนักพรตน้อยที่ไร้ชื่อผู้หนึ่ง

แรกเริ่มที่ได้ยินข่าวนี้ หลายคนยังคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น

แต่หลังจากนั้น เมื่อมีคนยืนยันมากขึ้นทุกที สถานการณ์ก็แปลกประหลาดขึ้นมา

‘มังกรเทพพยับฟ้า’ หวงโหย่วหลง นายแห่ง ‘ค่ายวารีเชื่อมฟ้า’ ประกาศปิดประตูกักตนต่อโลกภายนอก ส่วนค่ายย่อยต่างๆ ทั้งสามสิบหกของ ‘ค่ายวารีเชื่อมฟ้า’ ก็ปิดประตูแน่นเช่นกัน เหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูที่ยิ่งใหญ่อย่างไรอย่างนั้น ‘มังกรเทพพยับฟ้า’ หวงโย่วหลงคือเทวะที่ทุกคนต่างรู้กันว่าเป็นผู้แข็งแกร่งสุดยอดในห้าอันดับแรกของลำดับสวรรค์ซ่งเหนือ แต่กลับหวาดเกรงดุจมุสิก ชวนให้คนตกตะลึงนัก

และจากนั้นพวก ‘สำนักหอกเหล็ก’ ‘สำนักวายุอัสนี’ ‘สำนักขุนเขาแม่น้ำ’ ‘เรือนจิตสวรรค์’ สำนักใหญ่ยักษ์ต่างๆ ที่ขึ้นกับจิ้นอ๋องทั้งอย่างลับๆ และโจ่งแจ้งก็ต่างประกาศปิดสำนักกันตามลำดับ สถานการณ์ในยุทธจักรและราชสำนักของซ่งเหนือก็ซับซ้อนวุ่นวาย

แต่มีสิ่งหนึ่งสามารถยืนยันได้ นั่นก็คือจิ้นอ๋องตายแล้วจริง

คนตายคนหนึ่งไม่มีคุณค่าใดๆ อีกแล้ว

แต่ละฝ่ายต่างไม่ไปสนใจเรื่องงานศพของจิ้นอ๋องจ้าวเฉิน สิ่งที่เปลี่ยนมาสนใจก็คือกองกำลังสำแดงเดชมังกรไร้หัว ทหารเกราะเจ็ดแสนนายกองทัพที่หกซึ่งเคยเป็นของจิ้นอ๋อง ดินแดนศักดินาราว 625,000 ไร่รวมถึงผู้คน แร่ธาตุและทรัพยากรต่างๆ ในนั้น สุดท้ายจะตกเป็นของใคร…

นี่เป็นเนื้อที่เลิศรสที่สุดชิ้นหนึ่ง ใครก็อยากจะกินสักคำทั้งนั้น

โดยเฉพาะในเขตซ่งเหนือ กลุ่มกบฏล้มล้างจักรพรรดิต่างๆ ขุนนางท้องถิ่นที่มีใจคิดก่อกบฏแต่ไม่เผยตัว รวมถึงเชื้อพระวงศ์ในซ่งเหนือ ต่างก็อยากจะชิงเนื้อชิ้นนี้มา

แน่นอน ชื่อของจางซานเฟิงแห่งเขาบู๊ตึ๊งก็เล่าลือกันไปทั่วซ่งเหนือในคืนเดียว

สังหารจิ้นอ๋องเหมือนเชือดไก่ภายใต้กองกำลังนับแสนนายและยอดฝีมือทั้งหลายได้ คนแบบนี้ ต่อให้ก่อนหน้านี้จะไร้ชื่อเสียงเพียงใด ตอนนี้ก็พอจะกึกก้องไปทั้งแผ่นดินแล้ว

หลายคนต่างสืบข่าวว่านักพรตน้อยชื่อจางซานเฟิงคนนี้เป็นใครมาจากไหน และตอนนี้อยู่ที่ใดกันแน่

และตอนนี้เอง หลี่มู่ที่ปลอมตัวเป็น ‘จางซานเฟิง’ ก็ขี่กระเรียนขาวมาถึงเมืองหลินอันเมืองหลวงของซ่งเหนือแล้ว

สถานการณ์การเมืองยามนี้ตึงเครียด ดังนั้นการป้องกันของเมืองหลินอันจึงเข้มงวดมาก แต่มีหน้าของปาเสียนอ๋องแห่งจักรวรรดิอยู่ ก็ผ่านชั้นป้องกันชั้นแล้วชั้นเล่าของเมืองหลินอันมาได้อย่างง่ายดายแล้ว บ่ายวันนั้น หลี่มู่ ชิงเฟิง หยวนโห่ว และเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้ก็ถูกจัดแจงพาไปยังจวนปาเสียนอ๋อง

หลังกำชับธิดาบุญธรรมหวางซืออวี่ให้ดูแลหลี่มู่ให้ดีแล้ว ปาเสียนอ๋องนำจ้าวจี้เข้าวังไปขอเข้าเฝ้าจักรพรรดิซ่งเหนืออย่างรีบร้อน เพื่อหารือแผนการหลังจิ้นอ๋องตาย

“จะไปเดินเล่นหน่อยไหม?” หวางซืออวี่ทำท่าทางใจป้ำอย่างคนนำเที่ยวฟรี

“ดีเลยๆ คนสวยพาโฮ่งไปหน่อย” เจ้าฮัสกี้ชิงตอบก่อน น้ำลายยืดออกมาหมดแล้ว

หลี่มู่สุดจะไร้คำพูดกับหมาโง่ตัวนี้

ระหว่างทางมา หลี่มู่เพิ่งได้รู้ว่าเจ้าฮัสกี้ยอมให้หวางซืออวี่ขี่ เพียงเพราะแค่หวางซืออวี่รับปากว่าเมื่อถึงเมืองหลินอันแล้วจะพาเจ้าหมาโง่ตัวนี้ไปกินของอร่อยทั้งหมดในเมืองให้ทั่ว ไม่มียางอายแม้แต่น้อยจริงๆ คาดว่าหากหมาป่าสาวนางในบนที่ราบทุ่งหญ้าพวกนั้นรู้เข้าคงจะเขี่ยมันทิ้งทันที

หลี่มู่รู้สึกว่านับจากที่เจ้านี่มายังต่างดาว ได้รับอภินิหารลึกลับมา ก็ปลดปล่อยตัวเองโดยสมบูรณ์

แต่ว่า ออกไปเดินเล่นหน่อยก็ดีเหมือนกัน

หวางซืออวี่ปลอมตัวเป็นคุณชายน้อย หยวนโห่วเข็นรถเข็นให้ชิงเฟิง เดินออกมาจากประตูใหญ่จวนอ๋องเป็นเพื่อนหลี่มู่

เจ้าฮัสกี้นายพลเดินระริกระรี้ตามอยู่ข้างหลัง

เดิมทีองครักษ์ในจวนจะตามพวกเขาไปด้วย แต่องครักษ์ส่วนตัวของปาเสียนอ๋องคนหนึ่งห้ามเอาไว้

เขาเป็นองครักษ์ที่ติดตามปาเสียนอ๋องนั่งกระเรียนขาวกลับมาด้วยกัน ย่อมรู้ว่าพลังของหลี่มู่ผู้ไว้ผมสั้นใส่ชุดขาวน่ากลัวปานใด กองทัพนับแสนของจิ้นอ๋องยังถูกฆ่าตายเรียบ มีเขาคอยปกป้อง ท่านหญิงอยู่แห่งใดก็ล้วนเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด

หลินอันเมืองหลวงของซ่งเหนือเป็นเมืองบนน้ำ ในเมืองมีทะเลสาบหนองน้ำมากมาย มีเส้นทางทางน้ำกระจายอยู่ทั่ว ทั้งยังมียอดเขา แน่นอนว่าผืนแผ่นดินก็กว้างใหญ่ยิ่ง แบ่งเป็นเขตใหญ่หลายเขต บริเวณที่จวนปาเสียนอ๋องตั้งอยู่เป็นพื้นที่ศูนย์กลาง ทิวทัศน์งดงามดั่งภาพวาด มีสถานที่ชั้นนำมากมาย

นั่งเรือเดินทางทางน้ำ ชมทิวทัศน์ริมฝั่ง เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“กินของอร่อยต้องไปโรงเตี๊ยมสุนัข[1]ตรงข้างทางท้ายตรอกพวกนั้น ในภัตตาคารที่ภายนอกดูแล้วหรูหราอลังการก็ไม่แน่ว่าจะอร่อยเสมอ” หวางซืออวี่บอกทฤษฎีการเดินเล่นของเธอ

เจ้านายพลเห็นด้วยเป็นอย่างมาก

“โฮ่ง ข้าเห็นด้วยกับความคิดนี้ของคนสวย โรงเตี๊ยมสุนัขคำนี้ใช้ได้ดีจริงๆ”

สุนัขล้วนชอบของกิน ย่อมต้องเลือกของอร่อยอยู่แล้ว ทฤษฎีนี้ไม่มีจุดบอดให้โจมตีเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา