จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 480

หลี่มู่ตะลึง จากนั้นก็เข้าใจ

เซียนหมอหลิงเซียวเพราะขั้นตอนการสิงร่างเกิดปัญหาเล็กน้อย ไม่ใช่แค่ทําให้ร่างกายเกิดปัญหาบางอย่างเท่านั้น แต่ยิ่งทําให้ความนึก คิดของนางกับเจ้าของร่างเกิดการแลกเปลี่ยน ดังนั้นจึงได้ความทรงจํา บางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น คําพูดอย่าง ‘คืนหยกสู่แคว้นจ้าวโดยครบ สมบูรณ์’ แบบนี้ เซียนหมอหลิงเซียวนั้นเข้าใจ

“เทพดาบหลี่ สํานักวิญญาณผู้วิเศษเมื่อหนึ่งพันปีก่อนเผชิญกับ เหตุการณ์เลวร้าย กายเนื้อถูกทําลายสิ้น เหลือเพียงวิญญาณ หลับใหล อยู่ใต้ดิน คนพวกนี้บุกรุกดินแดนนิทราอันสงบของพวกเรา จึงได้ถูกสิง ร่าง ‘ปลาใหญ่กินปลาเล็ก’ เป็นกฎนับแต่โบราณมา วันนี้เจ้าตามมาล้าง แค้น สังหารจนสิ้นข้าก็ไม่เคียดแค้น อย่างไรเสียเวรกรรมต้องชดใช้ โลก นี้ก็เป็นเช่นนี้…แต่ขอเทพดาบเห็นแก่ที่ข้าสิงร่างแต่ไม่ได้ทําให้วิญญาณ ของเจ้าของเดิมสลายไป แต่ยังคงเก็บเอาไว้ อีกทั้งข้ายินดีคืนกายเนื้อ ให้กับเจ้าของเดิม ข้าขอร้องดาบเทพหลี่เพียงเรื่องเดียว ลูกชายข้าหลี่ส ยง ถึงแม้จะปรับแก้ร่างกาย แต่ก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของกลุ่ม อีกทั้งในกายของเขายังมีสายเลือดของเจ้าของร่างไหลเวียน ข้าน้อย ร้องขอท่านไว้ชีวิตเขาด้วย”

ใบหน้าของเซียนหมอหลิงเซียวเต็มไปด้วยเนื้องอก ดูแล้วน่าสะ พรึงเป็นอย่างมาก

แต่ยามนางพูดคําพูดพวกนี้ แววตาเต็มไปด้วยประกายของความ เป็นแม่ ทําให้คนรอบข้างล้วนเกิดความเห็นใจ

หลี่มู่คิดๆ ดูแล้วก็พยักหน้าตกลง

เขาเคยพบหลี่สยง เคยมีความขัดแย้งกัน คุณชายคนนี้ก็ไม่ใช่คนดี อะไร แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่นานมากแล้ว หลี่สยงในตอนนี้ต่อให้ผ่านการ ปรับแก้ อยู่ต่อหน้าเขาก็ไม่ควรค่าแก่การพูดถึง ไม่มีภัยคุกคามอะไร

นี่เป็นเงื่อนไขที่เซียนหมอหลิงเซียวเสนอเพื่อที่จะคืนร่างนี้

หลี่กังที่อยู่ข้างๆ ได้ยินตรงนี้ในใจก็โล่งอก

ขอแค่เซียนหมอหลิงเซียวตาย ไม่ว่าจะตายอย่างไร เขาก็สามารถ หลุดพ้นได้แล้ว คิดๆ ถึงเมื่อก่อนที่ต้องเผชิญกับใบหน้าอัปลักษณ์นี้ ความรู้สึกขยะแขยงแบบนั้นเป็นฝันร้ายชัดๆ

เซียนหมอหลิงเซียวกลับมามองหลี่กังอีกครั้ง สายตาไหลเวียนไป ด้วยความอ่อนโยนหวานชื่นเป็นพิเศษ “หลี่หลาง[1] เจ้าจําครั้งแรกที่ พวกเราพบกันในวัดเทพภูเขาวันฝนตกหนักได้ไหม? ตอนนั้นเจ้ายังไม่ โด่งดังมีชื่ออย่างแท้จริง…”

“หึ เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ข้าลืมไปนานแล้ว” หลี่กังตัดบทนาง

เซียนหมอหลิงเซียวกลับแย้มยิ้ม เอ่ยอย่างไม่สนใจ “จําไม่ได้ไม่ เป็น ข้าจําได้ก็พอแล้ว รู้ไหมว่าทําไมคุณสมบัติเจ้าธรรมดาแต่กลับเป็น กระบี่อันดับหนึ่งของเมืองหลวงได้? ข้าเคยบอกไว้แล้ว ว่าข้าช่วยเจ้าได้ …ตอนนั้นเจ้าขอ ‘กู่ดวงใจสวรรค์’ ไป เจ้าผงาดขึ้นฟ้าได้ในทันที เจ้ารู้ ไหมว่า ‘กู่ดวงใจสวรรค์’ ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘กู่ยวนยาง’ หึๆ… ”

หลี่กังหน้าเปลี่ยนสี เอ่ยขึ้น “เจ้า…นังแพศยา เจ้าจะพูดอะไรกัน แน่?”

“ยวนยางเดิมก็เป็นนกที่มีชะตากรรมร่วมกัน เมื่อเคราะห์มาก็ ร่วมกันเผชิญ หึๆ มิยอมหลับพักผ่อนเพียงลําพัง อยู่เคียงคู่สุดขอบฟ้า” เซียนหมอหลิงเซียวพึมพําเสียงต�า ขอบตาแดง

ดวงตานางมีน�าตาใสพิสุทธิ์ไหลริน เอ่ยขึ้นเหมือนพูดกับตัวเอง “แต่เดิมข้าคิดว่าเจ้าจะเป็นบุรุษอัศจรรย์ในโลกโลกีย์ใบนี้ ไม่มีทาง เหมือนคนทั่วไปพวกนั้น ที่ดูแต่รูปลักษณ์ภายนอก ใครจะไปรู้ว่าหลายปี มานี้ ไม่ว่าข้าจะทําเรื่องใด ก็ไม่อาจทําให้เจ้าซาบซึ้งใจได้ ข้าเสียสละให้ เจ้า เจ้าไม่รู้ วันนี้ดูแล้ว ต่อให้รู้เจ้าก็ไม่สนใจ ดังนั้นข้าก็ไม่พูดแล้ว แต่ว่า ในอดีต ในเมื่อเจ้านํา ‘กู่ยวนยาง’ ของข้าไป วันนี้เจ้าและข้าก็เป็นยวน ยางร่วมชีวิตกันแล้ว ข้าตาย เจ้าก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ตามลําพัง โลกของ

ผู้ตาย…หลี่หลาง เจ้าก็ต้องไปเป็นเพื่อนข้า ความเป็นความตาย ไม่ พรากกันตลอดไป ”

พูดจบ ร่างกายของนางก็แผ่ละอองหมอกสีเขียวมรกตเป็นกลุ่ม เป็นเส้นออกมา เหมือนมีวัตถุอะไรปล่อยออกมา

เนื้องอกบนใบหน้าหายไปในความเร็วที่สามารถเห็นได้ด้วยตา เปล่า เผยให้เห็นใบหน้างดงามไร้ที่ติ ผิวพรรณขาวเนียน เต็มไปด้วย ความงดงาม

“นังแพศยา เจ้า…” หลี่กังหน้าเปลี่ยนสีทันที

เสี้ยวขณะต่อมา ในดวงตาทั้งสองของขุนนางท้องถิ่นแห่งจักรวรรดิ ฉินตะวันตกผู้นี้ก็มีเส้นเลือดประดุจเส้นไหมเลื้อยไปมา จากนั้นขอบตาก็ ไหลไปด้วยเลือด กลิ่นอายพลังชีวิตของเขาไหลออกไปอย่างรวดเร็ว ปราณแท้วิถียุทธ์ในกายก็ไหลออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนเม็ดทรายใน ตะแกรงร่อน

“หลี่หลาง ทางเดินไปปรโลกเงียบเหงาอ้างว้าง ข้าจะเดินไปเป็น เพื่อนเจ้า”

เสียงของเซียนหมอหลิงเซียวดังออกมาจากละอองหมอกสีเขียว มรกต ก่อเป็นเค้าร่างสตรีเผ่าผู้วิเศษเก่าแก่หน้าตาธรรมดาๆ คนหนึ่ง นี่ ถึงจะเป็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง

นางปล่อยวิญญาณต้นกําเนิดออกมาจากร่างนั้นเอง ไม่มีที่สถิต ไม่ นานวิญญาณก็แตกสลายไป

“เจ้าทําอะไรกับข้า เจ้า…นังแพศยา…ไม่” หลี่กังลนลานทําอะไรไม่ ถูก

ต่อให้มีพลังฝึกขั้นเทวะ ก็ยากจะต้านทานชีวิตในกายที่ไหลออกไป เพียงชั่วพริบตาเขาก็หายใจรวยริน เบ้าตามีเลือดไหลออกมาสองทาง เปรอะเปื้ อนเสื้อผ้า

เขามองไปทางหลี่มู่อย่างยากลําบาก “มู่เอ๋อร์ ช่วย…ช่วยข้า!”

หลี่มู่ส่ายหน้า ไม่มีท่าทางว่าจะลงมือ

เขามองแก่นแท้บางอย่างออก

เซียนหมอหลิงเซียวผูกสามจิตเจ็ดวิญญาณไว้ด้วยกันกับหลี่กัง วัน เวลานานไปก็เหมือนลงเรือลําเดียวกัน มีชีวิตก็มีชีวิตด้วยกัน ตายก็ตาย ด้วยกันน นี่น่าจะเป็นผลจาก ‘กู่ยวนยาง’ ที่เซียนหลิงเซียวว่า กู่พิษชนิด นี้สามารถทําให้พลังฝึกตนวิถียุทธ์ของหลี่กังวันเดียวก้าวหน้าเป็นพันลี้ มีความสําเร็จอย่างในวันนี้ แต่ว่า หากเซียนหมอหลิงเซียวตาย หลี่กังก็ จะต้องตายไปด้วย

ยวนยางปลิดชีพ

หนี้นี้เป็นหลี่กังที่ติดค้างเซียนหมอหลิงเซียว สมควรคืน ดังนั้น หลี่มู่จึงไม่ลงมือขัดขวาง

ในโลกนี้ มีหนี้ก็ต้องคืน ในใจของหลี่มู่เห็นอกเห็นใจกับชะตาของ เซียนหมอหลิงเซียวมาก สตรีที่ลุ่มหลงเทิดทูนความรักเจอกับผู้ชายสาร เลว ชายที่ทรยศในความรัก ได้รับกรรมก็เป็นเรื่องปกติ นี่ก็คือวัฏจักร แห่งธรรมชาติ

สุดท้าย หลี่กังก็ตายไปท่ามกลางความตื่นกลัวและเจ็บใจ กลายเป็นเลือดกองหนึ่ง

เขาคิดจะยืมมือของหลี่มู่สังหารเซียนหมอหลิงเซียว แต่กลับคิดไม่ ถึงว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา