จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 495

ไม่มีทางไม่กลัว

พลังที่หลี่มู่สําแดงออกมาประหนึ่งภูตผีประหนึ่งเทพ

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไม่อาจใช้คําว่าวรยุทธ์มาอธิบายได้แล้ว ดังนั้นบุคคลชั้นยอดตระกูลหลี่ผู้นี้ ยามมองหลี่มู่ในสมองก็ใช้ได้แค่คําว่า ‘สัตว์ประหลาด’ มาบรรยายเท่านั้นแล้ว

บอดีการ์ดที่ล้มนอนกองอยู่บนพื้นร้องอนาถคร�าครวญ

กลิ่นคาวเลือดเสียดจมูกตลบอวลในอากาศ

ยอดฝีมือในยุทธจักรที่ยืนอยู่หน้าประตูวัดหรานเติงมองเด็กหนุ่ม สง่างามเจิดจ้าในชุดกีฬายี่ห้อหลี่หนิง รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเหมือนผี เร่ร่อนอ่อนแอหน้าสงสารทั้งยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ที่ยืนอยู่ต่อหน้า เทพแห่งความตายหน้าประตูนรก ความหวาดกลัวยากบรรยายท่วม พวกเขาจนมิด

หากคู่ต่อสู้แค่วรยุทธ์สูงส่ง เช่นนั้นบางทีพวกเขาอาจจะพอฝืนฮึด จิตต่อสู้ขึ้นมาได้บ้าง

แต่ตอนนี้ เหตุการณ์เกินขอบเขตของวรยุทธ์แล้ว

ชายร่างกํายําที่แบกกล่องสีดําเอาไว้ ก็สิ้นหวังจนสูญเสียจิตต่อสู้ไป โดยสิ้นเชิง

“ตอบคําถามเมื่อครู่ของฉันมา แล้วจะละโทษตาย” หลี่มู่เอ่ยปากอีกครั้ง

ครั้งนี้ ไม่มีใครกล้าฟังคําพูดของเขาเป็นเพียงแค่ลมผ่านหูเท่านั้น แล้ว

……

ชาวบ้านในหมู่บ้านวัดหรานเติง ตั้งแต่เช้าก็มองไปทางวัดโบราณ ไม่หยุด

เพราะข่าวลือออกไปแล้วมีคนหลายกลุ่มเดินทางไปบนภูเขาไม่ ขาดสาย

ท่าทางแบบนั้นล้วนไม่ใช่คนดีอะไร

ก่อนหน้านี้ก็มีพวกชาวบ้านอยากจะขึ้นไปดู แต่ว่าถูกคนชุดดํา แว่นตาดําสกัดกั้นเอาไว้ที่เนินเขา อีกฝ่ายแสดงทีท่าอ่อนน้อมแต่ก็ยืน กราน บนเขามีเรื่อง ปิดเขาชั่วขณะ ห้ามขึ้นไป ต่อให้เป็นเหล่าแฟน

คลับของซินแสเฒ่าอย่างพวกคุณปู่จาง เป็นห่วงหลี่มู่ ‘อาศัยที่ตนเอง เป็นคนอายุมาก’ ฝืนบุกขึ้นไป แต่ก็ถูกหามลงมา

นี่ผ่านไปครึ่งวันแล้ว บนภูเขาไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แม้แต่น้อย เงียบสนิทจนน่ากลัว แต่พวกชาวบ้านก็ยังเป็นห่วง

“พุ่งมาหาหลี่มู่ชัดๆ”

“น่ากลัวว่าจะเป็นพวกเดียวกับคนพวกเมื่อไม่กี่ปีก่อนนั้น”

“ไม่ได้ ตาเฒ่าโจว เอ็งรีบไปรวมคนในหมู่บ้านมาเตรียมตัวไว้ก่อน หากไม่สู้ดียังไง พวกเราบุกไปด้วยกัน จะอย่างไรก็ให้ไอ้หนูเสี่ยวมู่มัน โดนรังแกไม่ได้”

“ใช่แล้ว ข้าว่านะ เขาซ่าวจู่ยังเป็นของพวกเราหมู่บ้านหรานเติงอยู่ รึเปล่า ไม่ให้พวกเราขึ้นไป คนต่างถิ่นพวกนี้มันจะอวดดีเกินไปหน่อย แล้ว เจ้าหนูเสี่ยวมู่ซื่อเกินไป ถึงแม้อาจารย์หลี่จะไม่อยู่แล้ว แต่พวกเรา จะลืมการดูแลของอาจารย์หลี่ที่มีต่อพวกเราหลายปีที่ผ่านมานี้ไม่ได้”

คุณลุงแก่ๆ ทั้งหลายเคืองแค้นกับความไม่เป็นธรรม

ตอนนี้เอง บนถนนดินในหมู่บ้านก็มีเสียงรถดังลอยมาอีก

รถออฟโรดสีเขียวขี้ม้าสี่คัน สองคันอยู่ข้างหน้า สองคันอยู่ข้างหลัง อารักขารถบัสขนาดกลางสีครีมไว้ตรงกลาง มองมาจากหมู่บ้านกระจก

หน้าต่างรถใช้ผ้าม่านปกปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา มองไม่เห็นสภาพข้าง ใน

“เหมือนจะเป็นรถทหาร?”

“หรือจะเป็นหัวหน้าของกองกําลังจรวด[1] ในเมืองมีฐานทัพกอง กําลังจรวด”

คุณปู่ที่สูบกล้องสูบยากลุ่มหนึ่ง นั่งบนอิฐบลอค มองรถทหารวิ่งขึ้น ไปบนเขา

ในรถบัสขนาดกลาง

“หัวหน้า ข้างบนก็คือวัดหรานเติง เป็นวัดโบราณ เก่าแก่พอสมควร แต่ก่อนตอนอาจารย์หลี่ปู่หลานยังอยู่ ที่นี่ยังมีกลิ่นอายคนอยู่บ้าง ภายหลังทั้งสองคนจากไป วัดนี่ก็ร้าง ได้ยินมาว่าใกล้จะพังลงมาเต็มที อีกทั้ง พวกชาวบ้านลือกันว่าวัดนี้มีผี…”

ซูฮั่นเหว่ยเอ่ยแนะนําเลิกลั่ก

ฟ่านจู่อั๋งพยักหน้า ไม่พูดอะไร

มาวัดหรานเติงครั้งนี้ การเดินทางรีบร้อนฉุกละหุก ตอนแรกก็ไม่มี วิธีติดต่อ บางทีอาจจะไม่ได้เจอหลี่มู่ แต่ในอดีตเล่าปี่ เชิญขงเบ้งที่

กระท่อม ณ เขาโงลังกั๋งสามครั้ง เขามาหลายครั้ง ต่อให้ต้องอยู่ที่เมือง เป่าจีไประยะหนึ่งก็ไม่เป็นปัญหา

สถานการณ์เขาฉีเหลียน ทะเลทรายโกบีร้อนระอุและตึงเครียด เป็นอย่างมาก ถึงแม้รัฐบาลจะแข็งแกร่ง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือ ความกดดันจากนานาประเทศทั่วโลก ยังคงเผชิญหน้ากับอุปสรรค เลือดแห่งความเสียสละได้หลั่งลงแล้ว หากเป็นแบบนี้ต่อไป ผลที่เกิด ภายหลังจะต้องร้ายแรงสาหัสอย่างมาก

หากหลี่มู่คนนี้มีความสามารถอย่างที่ซูชั่วและซ่งชางหลินทั้งสอง คนว่ามาจริงๆ เช่นนั้นก็เป็นบุคคลชั้นยอดของประเทศ

การปฏิบัติตนต่อบุคคลชั้นยอด แน่นอนว่าต้องทําความเคารพ แบบที่กระทําต่อบุคคลชั้นยอด

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง รถออฟโรดข้างหน้าก็พลันหยุดลง

นายทหารคนหนึ่งเดินมารายงาน “รายงานหัวหน้า ข้างหน้าไปต่อ ไม่ได้แล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น? ถนนขาดหรือ?” ซูชั่วถาม

ทหารคนนั้นเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดๆ “ถนนไม่ได้ขาด บน ถนนสิ่งกีดขวางใดๆ แต่ไม่รู้ทําไม รถไปต่อไม่ได้ เหมือนว่ามีของอะไรที่ มองไม่เห็นขวางอยู่”

มีเรื่องแบบนี้ด้วย?

ซูฮั่นเหว่ยหลุดปากออกมาทันที “แย่แล้ว คงไม่ใช่ว่าผีบังตาหรอก นะ?”

ซูชั่วปรายตามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยขึ้นว่า “พูดให้มันน้อยๆ หน่อย”

ซูฮั่นเหว่ยรู้ว่าตัวเองพูดไม่ถูกกาลเทศะ จึงรีบถอยไปตัวลีบๆ ฟ่านจู่อั๋งยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ลงไปดูหน่อยแล้วกัน” คนทั้งหลายมาถึงหน้ารถ มองเห็นภาพแปลกประหลาดภาพหนึ่ง— —

ถนนข้างหน้าเห็นอยู่ชัดๆ ว่าราบเรียบ ไม่มีสิ่งกีดขวาง แต่แรงม้า ของรถออฟโรดฝั่ งทหารจนแล้วจนรอดก็ไม่อาจเคลื่อนไปข้างหน้าได้ แม้แต่น้อย ล้อรถบดขยี้ไปยังผิวถนนดินอย่างบ้าคลั่ง ส่งเสียงแสบแก้วหู กลิ่นไหม้ลอยตลบ…

เหมือนมีวัตถุไร้รูปร่างอะไรขวางอยู่หน้ารถ

ในดวงตาของฟ่านจู่อั๋งฉายประกายวาบ

“หยุดรถ ถอยหลัง”

เขาสั่งการ จากนั้นก็เดินขึ้นไป ยื่นมือไปแตะกลางอากาศ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา