“สหายน้อยช่างเป็นคนที่น่าเหลือเชื่อที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้เจอมาจริงๆ” เขาเอ่ยชม
หลี่มู่หัวเราะ “ผู้อาวุโสชมเกินไปแล้ว”
สำหรับกัวอวี่ชิงผู้นี้ เขาเคารพเป็นอย่างมาก
ถึงแม้กัวอวี่ชิงจะไม่คิดว่าตนช่วยหลี่มู่ เพียงพูดอย่างราบเรียบว่า ‘พาเจ้ามาก่อนที่เว่ยชงจะเจอ’ แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะง่ายดายอย่างนั้นจริงๆ
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น วันนั้นเขาถูกเว่ยชงไล่สังหารราวกับสุนัข ต้องหลับหูหลับตาหนีไปในป่าลึกของเขาขาวพิสุทธิ์ นั่นเป็นเขตป่าดึกดำบรรพ์ที่ห่างไกลผู้คน ภูเขาสูงชันอันตราย มีหมอกพิษสัตว์ร้ายต่างๆ นานา จอมยุทธ์ทั่วไปไม่กล้าเข้าไปในนั้น ลำพังแค่จุดนี้ ต่อให้กัวอวี่ชิงบังเอิญช่วยหลี่มู่ก็เป็นบุญคุณล้นเหลือแล้ว
นอกจากนั้น เขาสามารถรอดพ้นจากการไล่สังหารโดยยอดฝีมือระดับหนึ่งเช่นเว่ยชงและยังพาหลี่มู่หนีรอดมาได้ ไม่ถูกเว่ยชงสะกดรอยตามเจอ ความสามารถนี้ก็ช่างชวนให้คนตะลึงนัก
ถึงอย่างไรเว่ยชงก็เป็นยอดฝีมือระดับหนึ่งขั้นปรมาจารย์สูงสุด
อีกทั้งสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ หลี่มู่รู้สึกอยู่รางๆ ว่ากัวอวี่ชิงไม่ได้บังเอิญไปเจอตน แต่ไปช่วยตนโดยเฉพาะ
ขณะหลี่มู่คิดอยู่อย่างนี้ ท้องกลับส่งเสียงโครกครากอย่างไม่เอาไหน
เขาหน้าแดงก่ำขึ้นทันที
กัวอวี่ชิงหัวเราะเบาๆ ก่อนพูดขึ้น “แต่เดิมคิดว่าเจ้ายังต้องใช้เวลาอีกหลายวันถึงจะฟื้นตัว สภาพของเจ้าเมื่อวานไม่อาจกินอะไรได้ ดังนั้นจึงนำอาหารเหลวง่ายๆ มาเล็กน้อยเท่านั้น…” พูดแล้วเขาก็หยิบหม้อกระเบื้องสีแดงออกมาจากห่อผ้าหนังสัตว์กันน้ำ
เมื่อเปิดฝาออก กลิ่นยาเข้มข้นลอยออกมาจากหม้อกระเบื้อง
หลี่มู่ลองดมดู น้ำลายก็ไหลออกมาอย่างอดใจไม่ไหวทันที
“กินโจ๊กยา[1]นี่ก่อนแล้วกัน ภรรยาข้าตุ๋นไว้เมื่อวาน ถึงแม้บาดแผลของเจ้าจะดีแล้ว แต่โจ๊กยานี่บำรุงเลือดลมได้ ก่อนหน้านี้เจ้าเสียเลือดไปมาก” กัวอวี่ชิงยิ้มพลางยื่นหม้อกระเบื้องสีแดงมา
“ขอบคุณผู้อาวุโสมาก” หลี่มู่ก็ไม่เกรงใจ มือทั้งสองรับหม้อกระเบื้องมาแล้วซดเข้าไปคำโตทันที
จ๊าก!
ร้อนมาก
หลี่มู่หน้าบิดเบี้ยว
แต่ความเจ็บปวดเล็กน้อยเช่นนี้ เทียบกับการทุบกระดูกทั่วร่างให้แตกละเอียดแล้วช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว หลี่มู่ที่หิวท้องร้องเขมือบคำโตๆ เหมือนโลลิน้อยหน้ามึนหมิงเยวี่ยที่หิวมาสามวันสามคืน
“ฮ่าๆ สหายน้อยไม่ต้องมากพิธีเช่นนี้ ข้าแก่กว่าเจ้าไม่กี่ปี หากไม่รังเกียจก็เรียกข้าว่าพี่กัวแล้วกัน” กัวอวี่ชิงกล่าวเสียงดังห้าวหาญ ให้ความรู้สึกองอาจป่าเถื่อนแบบที่มาจากท้องทุ่งหญ้า
“ขอบคุณพี่กัวมาก”
หลี่มู่ก็ไม่เกรงใจเช่นกัน
กัวอวี่ชิงหัวเราะลั่น
ไม่รู้ทำไม เขาจึงรู้สึกถูกชะตากับขุนนางเมืองหนุ่มคนนี้นัก
ในร่างของหลี่มู่ เขาเหมือนเห็นร่างทะนงองอาจของคนที่เคยร่วมปณิธานและฝ่าฟันไปด้วยกันในที่ราบทุ่งหญ้าเมื่อวันวาน
บุรุษที่เคยเป็นมิตรจริงใจ ร่วมทุกข์ร่วมสุข ดื่มเหล้าและหลั่งเลือดด้วยกันเหล่านั้น
น่าเสียดายที่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
สหายเก่าเมื่อในอดีต จนถึงวันนี้บางคนกลายเป็นศัตรูเดินไปคนละทาง และบางคนก็กลับไปอยู่ในอ้อมแขนของฉางเซิงเทียน[2] แปลงกายเป็นดวงดาวในท้องฟ้า ชาติภพนี้ไม่อาจได้พบหน้ากันอีกแล้ว
ในกายของหลี่มู่มีบุคลิกท่าทีที่ทำให้กัวอวี่ชิงรู้สึกคุ้นเคย
เขาหัวเราะพลางลุกขึ้นยืน “เจ้าค่อยๆ กินเถอะ ข้าไปสักครู่ก็กลับมา”
พูดจบเขาก็ก้าวเท้ายาวไปยังส่วนลึกของทางน้ำในถ้ำ
หลี่มู่สงสัยแต่ก็ไม่ได้ตามไป กินโจ๊กยาเสียคำโต
บางทีอาจเป็นเพราะหิวมาก เขาจึงรู้สึกว่าโจ๊กยานี้เป็นโจ๊กยาที่อร่อยอย่างที่ไม่เคยได้กินมาก่อน เขากินมันหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว แม้แต่ฝาหม้อก็เลียจนสะอาด
“สบาย…”
หลี่มู่รู้สึกได้ว่าฤทธิ์ยาเข้มข้นราวกับกระแสความร้อนแผ่ซ่านไปในท้องไส้ วิ่งไปตาแขนขาองคาพยพ ทั่วทั้งร่างประหนึ่งว่าเซลล์ทุกเซลล์กำลังส่งเสียงร้องครางอย่างสบายออกมา
ในตอนนี้ เขายังไม่รู้ว่าโจ๊กยาหม้อนี้ล้ำค่ามาก
หากวางไว้ในยุทธภพ เกรงว่าคนจำนวนไม่น้อยต้องยอมจ่ายเงินทองหรือค่าตอบแทนมหาศาลอย่างไม่เสียดาย อยากจะได้โจ๊กยาที่หลิวจื่อหยวนธิดาเทพแห่งสำนักบัณฑิตถามเต๋าในวันวานลงมือตุ๋น และจะต้องลงมือแย่งชิงโจ๊กยาหม้อนี้กันจนเลือดตกยางออกแน่
หลังจากนั้นไม่นาน
ข้างหลังก็มีเสียงฝีเท้าดังมา
กัวอวี่ชิงทั่วร่างเปียกโชก ลากปลาตัวใหญ่หน้าตาประหลาดมาจากจุดลึกในถ้ำ
“โชคไม่เลวเลย จับปลาไร้ตามาได้สองตัว”
หลี่มู่มองดูอย่างละเอียด พบว่าปลาตัวใหญ่ยาวกว่าแปดฉื่อสองตัวนี้ ที่มุมปากมันมีหนวดยี่สิบกว่าเส้น ทุกเส้นยาวสี่ฉื่อ ครีบค่อนข้างใหญ่ ไม่มีเกล็ด มีสีขาวทั้งตัว ที่สำคัญคือไม่มีตาจริงๆ ด้วย มิน่าเล่าถึงได้เรียกว่าปลาไร้ตา
กัวอวี่ชิงใช้อุปกรณ์ในห่อผ้าทำปลาอย่างชำนาญ จากนั้นก็แล่เนื้อปลาเนียนละเอียดขาวดุจหยกเป็นชิ้นใหญ่ๆ ก่อนใช้ก้านเหล็กเสียบ โรยเครื่องปรุง และย่างบนกองไฟ
เป็นผู้ชายแนวพ่อบ้านอบอุ่นนี่เอง
หลี่มู่วิจารณ์ในใจ
“ปลาไร้ตาเป็นอสุรกายโบราณ ว่ายไปมาอยู่ใต้ดิน ชั่วชีวิตไม่เคยได้พบกับแสงตะวัน ในกายแฝงด้วยพลังวิญญาณใต้ผืนดินมากมาย เป็นของชั้นยอดในการเพิ่มพลังฝึก รักษาและบำรุงลมปราณ รสชาติอร่อยนัก ถูกบันทึกไว้ใน ‘สิ่งแปลกประหลาดอัศจรรย์ในฟ้าดิน’ ที่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดใต้สุริยันจันทราทั้งสองคู่เป็นคนบันทึกไว้ ทั่วเขาขาวพิสุทธิ์กว้างใหญ่ก็มีเพียงในแม่น้ำใต้ดินของน้ำตกเก้ามังกรถึงจะมีของวิเศษล้ำค่านี้…”
กัวอวี่ชิงย่างไปพลาง ยิ้มอธิบายไปพลาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา