นี่ทำให้ร่างกายของเขาตอนนี้บิดงออย่างประหลาด
และทำให้เขายืนขึ้นไม่ได้ เหมือนกับตัวประหลาดอย่างไรอย่างนั้น
หลังจากหลี่มู่ครุ่นคิดไปชั่วขณะหนึ่งก็ตัดสินใจได้
เขาทำสิ่งที่น่าตกใจนัก…ใช้หมัดขวารูปร่างประหลาดนั่นทุบกระดูกแขนซ้ายและฝ่ามือซ้ายทีละเล็กทีละน้อย ทั้งหมดหักและแหลกละเอียด
กร๊อบ กร๊อบ!
เสียงกระดูกแตกชวนให้คนใจสั่น
ความเจ็บปวดมหาศาลราวกับน้ำป่าไหลบ่า เข้ากลืนกินหลี่มู่ในชั่วพริบตา
หยาดเหงื่อเม็ดโตไหลรินมาจากหน้าผากของเขา
ความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายทำให้ภาพเบื้องหน้ามืดดำ แทบจะหมดสติไป
แต่เขาก็ไม่ลังเลและไม่หยุดยั้งแม้แต่น้อย
สุดท้าย กระดูกแขนซ้ายทั้งหมดก็ถูกเขาทุบจนแตกละเอียดราวทำร้ายตัวเอง
หลี่มู่หายใจกระชั้นถี่ จากนั้นก็เริ่มโคจร ‘วิชาก่อนกำเนิด’ อีกครั้ง และดูดซับพลังวิญญาณในฟ้าดินมารักษาอาการบาดเจ็บของแขนซ้าย
ยามพลังวิญญาณไหลเข้ามา แขนซ้ายก็เริ่มฟื้นคืนความรู้สึกบ้างเล็กน้อย หลี่มู่ใช้มือขวาที่รูปร่างผิดปกติดัดกระดูกที่แตกร้าวพวกนั้น จากนั้นก็เริ่มฝืนใช้ความรู้สึกที่เหลืออยู่อย่างเดียวขยับข้อต่อและกระดูกนิ้วของแขนซ้ายเอง
จากวิธีนี้สามารถหาวิธีประสานกระดูกได้อย่างถูกต้อง
ขั้นตอนนี้ยาวนานยิ่งนัก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แขนซ้ายรูปร่างปกติไม่บิดงอก็ปรากฏขึ้น
หลี่มู่หายใจเอากลิ่นอายสกปรกออกมายาวๆ
เขารู้ ตัวเองทำสำเร็จแล้ว
ต่อมา แผนของเขาก็ง่ายดายมาก
นอกจากกระดูกแขนซ้ายขวาที่เกิดขึ้นใหม่ดีแล้ว เขาก็ทุบแขนขวา ขาซ้าย ขาขวา อีกทั้งกระดูกสันหลัง ซี่โครง และกระดูกส่วนอื่นๆ ตามลำดับ จากนั้นก็ใช้วิธีเดียวกันดัดให้เข้าที่ ทำให้พวกมันประสานกันด้วยวิธีและองศาที่ปกติ
นี่แทบจะเป็นการทุบกระดูกทั้งร่างนอกจากกะโหลกศีรษะให้แหลก
จากนั้นก็ใช้พลัง ‘วิชาก่อนกำเนิด’ ทำให้กระดูกที่หักแตกงอกขึ้นใหม่อีกครั้งหลังจากดัดให้เข้าที่
พื้นฐานเริ่มต้นของแผนนี้คือหลี่มู่มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งและความสามารถในการฟื้นตัว
พลังชีวิตที่แข็งแกร่ง สามารถรับประกันว่าหลังจากกระดูกโดนทุบจนแตกละเอียดหมดแล้วเขาจะไม่เป็นลมหมดสติไป
ส่วนพลังฟื้นตัวที่พิสดาร รับประกันได้ว่าหลังจากดัดกระดูกที่แตกหักก็จะประสานงอกขึ้นใหม่ในเวลาอันสั้นที่สุด
หลี่มู่มองแขนซ้ายของตนที่ฟื้นฟูแล้ว ไม่มีลังเลเลยแม้แต่น้อย
เขาใช้แขนซ้ายทุบกระดูกทั้งหมดของแขนขวา
จากนั้นโคจร ‘วิชาก่อนกำเนิด’
ทำซ้ำไปซ้ำมาเช่นนี้
เวลาผ่านไปช้าๆ ท่ามกลางเสียงแตกหักของกระดูกและเสียงหยดเหงื่อไหลกระทบลงพื้นเพราะความเจ็บปวด
หลายครั้งระหว่างนั้น หลี่มู่เจ็บปวดจนหน้าซีดขาวราวกระดาษ
เขาใช้พลังจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งฝืนตัวเองเอาไว้ไม่ให้สลบไป
ทุบกระดูกตัวเองให้แหลกอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ดัดรูปร่าง ประสานใหม่ไม่หยุด
ขั้นตอนนี้ราวกับปั้นตุ๊กตาดินเหนียวอย่างไรอย่างนั้น
ทุบตัวของตุ๊กตาให้แหลก แช่ในน้ำให้นิ่มจนกลายเป็นดินเหนียว ปั้นแขนขาขึ้นใหม่ ก่อนจะรอให้แห้ง…ไม่ต่างอะไรกับปั้นขึ้นใหม่เลยแม้แต่น้อย
คนปกติอย่าว่าแต่ทดลองเลย เกรงว่าแค่คิดก็กลัวจนหน้าซีดเผือดแล้ว
แต่หลี่มู่กลับยืนหยัดต่อไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เวลาผ่านไปหนึ่งคืน
ฟ้ายังไม่ทันสาง
กระดูกที่หลี่มู่ทุบจนแตกท่อนสุดท้ายในกายประสานกันดีจากพลังของ ‘วิชาก่อนกำเนิด’
เขาสัมผัสความรู้สึกอันสุดแสนวิเศษที่สามารถควบคุมร่างกายได้อีกครั้ง ก่อนจะยืนขึ้นมาช้าๆ
ไม่รู้สึกเจ็บปวดแล้ว
พิษของเลือดเจียวก็ขจัดออกไปแล้วโดยสิ้นเชิง
ในร่างมีพลังใหม่กำลังซัดโหมอยู่
นี่คือการเกิดใหม่
ในหัวของหลี่มู่นึกอะไรขึ้นได้ทันที ไม่ลังเลอะไรอีกต่อไป เริ่มออกท่า ‘หมัดยุทธ์แท้’ ทันที
ตั้งท่ายืนแรกเริ่ม
‘ค้อนทะยานฟ้า’
‘ลิ่มสวรรค์’
นี่คือกระบวนท่าใน ‘หมัดยุทธแท้’ ที่เขาสามารถใช้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ในตอนนี้
หนึ่งกระบวนหนึ่งรูปแบบสำแดงออกมาอย่างไหลลื่น หลี่มู่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกโล่งสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับเป็นความสามารถที่ติดตัวมาแต่กำเนิด
ระหว่างที่ออกกระบวนท่าอย่างต่อเนื่อง ข้างในกายก็มีเสียงลั่นเปรี๊ยะราวกับถั่วระเบิดดังออกมาไม่ขาดสาย
นี่คือเสียงกระดูกที่เกิดใหม่กำลังปรับสภาพให้เข้ากับร่างกาย
พลังมหาศาลกำเนิดขึ้นในกาย
หลี่มู่ถึงขั้นรู้สึกว่าพลังมหาศาลกำลังจะเอ่อท่วมตนเองจนมิด ความน่ากลัวเกินจริงจนถึงขีดสูงสุด และสิ่งที่ยิ่งเกินจริงกว่าก็คือ พลังนี้แผ่มาเป็นระลอกคลื่นต่อเนื่อง กำเนิดพลังใหม่ไม่หยุดเสมือนไม่มีวันสิ้นสุดอย่างไรอย่างนั้น
“ความเร็วในการฟื้นฟูเร็วกว่าที่คิดไว้ อีกทั้งยังเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนอีกด้วย”
หลี่มู่ประหลาดใจ
นี่เป็นเรื่องน่ายินดีที่ไม่คาดฝัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา