ทำไมกัน?
อัจฉริยะน้อยที่อ่อนต่อโลกและดื้อดึงคนนี้ค่อนข้างสับสนแล้ว
โจวเจิ้นชิวมองไปยังลูกศิษย์ชายคนนั้น พูดขึ้นว่า “ในที่สุดก็มีคนหนึ่งที่ไม่โง่งมแล้ว…จางเจาพูดได้ถูกมาก”
ลูกศิษย์ชายที่ชื่อจางเจาคนนี้ก้มหน้าลงอย่างเขินอาย
หลังนิ่งไปครู่หนึ่ง โจวเจิ้นชิวก็กล่าวอีก “เอาละ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเจ้าออกจากสำนัก ประสบการณ์ในยุทธจักรยังน้อยนิด ข้าก็จะไม่ว่ากล่าวพวกเจ้าจนเกินไป แต่ว่า พวกเจ้าทั้งหมดจงจำไว้ ยุทธจักรแต่ไหนแต่ไรมาไม่ได้ง่ายดายแค่ถือกระบี่ท่องไปในใต้หล้าอย่างที่คิด เมื่อย่างก้าวเข้าไปในยุทธจักรก็เท่ากับเข้าไปในเมืองผี มีภูตผีปีศาจขวักไขว่ เสือสิงห์กระทิงแรดเต็มไปหมด หลายครั้งก้าวผิดพลาดหนึ่งก้าว ก้าวต่อไปก็จะพลาดพลั้งไปด้วย จึงต้องพยายามวิเคราะห์อย่างใจเย็น อย่าได้ลงมือทำอะไรเพียงแค่ลางสังหรณ์ ความเห็นอกเห็นใจ ความเลือดร้อน หรืออาการวู่วาม มิฉะนั้นไม่เพียงแต่จะทำร้ายตัวเจ้าเอง แต่ยังนำหายนะมาให้กับทั้งสำนักด้วย”
คำพูดนี้สั่งสอนชี้แนะออกมาจากใจจริง
ลูกศิษย์ทั้งหลายรับรู้ต่างกันไป
บางคนรับฟัง
บางคนคล้ายครุ่นคิดบางอย่าง
และก็มีบางคนที่ในใจไม่ยอมจำนน รู้สึกว่าผู้อาวุโสโจวคนนี้ขี้ขลาดไปหน่อยแล้ว
สีหน้าของศิษย์ทั้งหลายอยู่ในสายตาของโจวเจิ้นชิว แน่นอนว่าเขาดูออกอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่พูดอะไรอีก
จ้าวหลิงเอ่ยอย่างไม่ยอมจำนน “เช่นนั้น…เช่นนั้นสรุปแล้วใครเป็นคนสังหารพวกศิษย์พี่ลู่อวิ๋น? หรือเรื่องนี้จะจบลงไปแค่นี้หรือ?”
“ใช่แล้ว ถึงอย่างไรพวกคนในที่ว่าการก็ส่งศิษย์พี่ลู่อวิ๋นมายังโกดังเก็บศพ นี่จะต้องเกี่ยวกับที่ว่าการอย่างแน่นอน” ลูกศิษย์ชายที่ปกติมีความรู้สึกดีๆ กับจ้าวหลิงกล่าวอย่างวู่วาม
“ใช่แล้ว พี่ใหญ่ หรือจะจบกันแค่นี้? หลี่มู่อย่างไรก็เป็นที่ต้องสงสัย” โจวเจิ้นไห่รีบร้อนเสริมขึ้นพลางเช็ดน้ำตา ยังคงเรียกคะแนนความเห็นใจ
โจวเจิ้นชิวหมุนตัวเดินไปนอกโกดังเก็บศพทีละก้าว ทีละก้าว
“แน่นอนว่าไม่มีทางจบลงแค่นี้ พวกลู่อวิ๋นตายอยู่ในที่ว่าการ ขุนนางเมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์จะต้องรับผิดชอบ ให้คำตอบกับสำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์เรา”
เขาพูดไปเดินไป
“สิบปีที่พากเพียรลับคมกระบี่ ประกายคมวับแวมแต่ยังมิเคยได้ลองใช้จริง… ‘กระบี่เป็นหนึ่ง’ ของข้าก็ไม่ได้เจอคู่มือที่สมน้ำสมเนื้อมานานแล้ว”
โจวเจิ้นชิวไม่ได้เป็นแค่ผู้อาวุโสนอกของสำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นกระบี่มือหนึ่งของสายนอกอีกด้วย
กระบี่ยาวข้างเอวเขาก็สั่นไหวเสียงดังหึ่งๆ ตามคำพูดของเขา
เวลานี้ สายตาของศิษย์หนุ่มสาวทั้งหลายต่างหยุดอยู่ที่เงาแผ่นหลังของร่างกำยำผมขาว พลันรู้สึกมีรัศมีองอาจที่ยากจะบรรยายแผ่ซ่านออกมาจากแผ่นหลังนั้น ชวนให้คนศิโรราบ หมอบเคารพอย่างอดไม่ได้
นี่หรือ ถึงจะเป็นเสน่ห์ที่แท้จริงของมือกระบี่อันดับหนึ่ง?
……
“ปล่อยข้า ข้าจะฆ่าหลี่มู่ให้ตาย อ๊ากกก ข้าจะให้มันตาย”
ในที่ว่าการอำเภอ หลี่ปิงที่เหมือนหมาบ้าตาทั้งสองแดงก่ำ เนื้อตัวสั่นเทิ้ม กำลังตวาดอย่างบ้าคลั่งภายใต้การพยุงของทหารชุดเกราะสองคน
ทหารชุดเกราะของเมืองฉางอันเพิ่งจะช่วยเขาออกมาจากคุกของที่ว่าการอำเภอ
เสื้อผ้าขาดวิ่น ร่างกายอ่อนระโหยโรยแรง ผมเต็มไปด้วยคราบสกปรกเป็นสังกะตัง ทั่วร่างส่งกลิ่นเหม็น ผอมเสียแทบจะเปลี่ยนเป็นคนละคน…รูปลักษณ์ที่เหมือนขอทานนี้ ช่างยากที่จะให้คนคิดไปถึงคุณชายน้อยที่เจ้าเมืองฉางอันรักเอ็นดูที่สุดคนนั้นได้
“ฆ่ามัน ฆ่ามันให้หมด ไม่ต้องละเว้นแม้แต่คนเดียว…ข้าจะให้คนในที่ว่าการตายทั้งหมด ตายไปทั้งหมด” หลี่ปิงที่โกรธจนเต้นเร่าๆ คำรามอย่างบ้าคลั่งราวสุนัขพันธุ์ทางที่กำลังติดสัด
“นายทะเบียนเฝิง นี่มันเรื่องอะไรกัน? ข้าต้องการคำอธิบาย” เจิ้งฉุนเจี้ยนสีหน้าเย็นชา
ทุกคำที่เขาเปล่งออกมา เหมือนทำให้อุณหภูมิในห้องโถงลดลงไปอีกหลายองศา
ขุนนางเล็กๆ ของอำเภอขาวพิสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องราวบางคนตกใจจนคุกเข่าลงไปกับพื้น ตัวสั่นงันงก
แม้แต่ฝันพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าบุตรชายคนเล็กของเจ้าเมืองฉางอันที่หายตัวไป จะถูกขังอยู่ในคุกที่ว่าการ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร นี่ไม่ใช่การจุดโคมในห้องน้ำ…รนหาที่ตาย[1]หรือ?
เฝิงหยวนซิงและเจินเหมิ่งเหงื่อไหลเต็มหน้าผาก
ต้องเอาชีวิตข้าแน่แล้ว
เวลานี้ ทำไมในเวลาแบบนี้ใต้เท้าหลี่มู่กลับไม่อยู่ในอำเภอกัน
“คือว่า…พวกเราไม่รู้ฐานะของคุณชายหลี่ ตอนนั้นมีคนทุบตีทำร้าย ฉุดคร่าหญิงสาวอยู่ข้างถนน ใต้เท้าหลี่จึงลงมือจับสามสี่คนนั้นด้วยตัวเอง เรื่องนี้ข้าน้อยไม่รู้เรื่องด้วย” เฝิงหยวนซิงปัดความรับผิดชอบให้หลี่มู่
แน่นอน นี่เป็นแผนที่หารือกันดีแล้วตอนปรึกษากับหลี่มู่
“เหลวไหล เป็นเจ้านั่นแหละ ต่อให้เจ้ากลายเป็นผุยผงข้าก็จำเจ้าได้” หลี่ปิงกรีดร้อง “เจ้าใช้ทัณฑ์ทรมานกับข้า ชิงของทุกอย่างในกายข้าไปหมด เป็นเจ้า…ทหาร ทหาร จับมันมาให้ข้า ข้าจะทำให้มันตายไปละน้อย”
“นายทะเบียนเฝิง ท่านได้ยินคำพูดของคุณชายหลี่แล้วกระมัง จะอธิบายเช่นไร?” เจิ้งฉุนเจี้ยนหัวเราะเสียงเย็น
เฝิงหยวนซิงถอนหายใจ
เอวที่แต่เดิมโค้งงอของเขาค่อยๆ เหยียดตรงขึ้นมา
“ไม่มีอะไรจะอธิบาย ข้าแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา