“ฮ่าๆ สุนัขสองตัวนั่นล่วงเกินคุณชายหลี่ปิง รนหาที่ตาย อาจารย์ของข้าจับยัดเข้าคุกไปทรมานแล้ว เจ้าล่ะเป็นใคร? หรือจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของพวกมัน ทหาร จับมันไว้” ผู้นำที่ท่าทางเหมือนขุนพลหัวเราะเสียงเย็น ออกคำสั่งให้ทหารลงมือ
จับยัดเข้าคุก?
ทรมาน?
หลี่มู่หัวใจเย็นวาบ
นี่เป็นเรื่องเมื่อใดกัน?
เขาตัวชาวาบ ไม่สนใจจะถามอะไรอีกแล้ว ร่างไหววูบ สำแดงวิชาตัวเบาแปลงเป็นลำแสงสายหนึ่ง พุ่งเข้าไปยังคุกของที่ว่าการ
ช่วยคนสำคัญกว่า
ช่วยคนออกมาก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
รองนายพลคนนั้นและทหารชุดเกราะดำทั้งหลายรู้สึกแค่เบื้องหน้าพร่าเลือน ลมกระโชกวูบผ่าน ร่างของหลี่มู่หายไปราวกับความฝัน
“หนีรึ? ตามไป”
“รีบไปรายงานใต้เท้าทั้งสองกับอาจารย์เจิ้ง”
“อ๋อ ข้าจำได้แล้ว มันคือหลี่มู่ ขุนนางเมืองหลี่มู่คนนั้น”
เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นหน้าประตูที่ว่าการอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
……
“มารดามันเถอะ สลบไปอีกแล้ว…”
หลี่ปิงโยนตราประทับแดงร้อนในมือเข้าไปในอ่างไฟที่อยู่ข้างๆ ทำการเผาต่อไป
กลิ่นเนื้อไหม้ลอยตลบในอากาศ
บนหลักทรมาน เฝิงหยวนซิงเนื้อตัวเปลือยเปล่า ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยบาดแผลประหลาดมากมาย ไม่มีผิวหนังส่วนไหนที่สมบูรณ์ กระทั่งเนื้อที่หน้าอกและต้นขายังถูกเฉือนออกมาจนเห็นกระดูกขาว แต่ว่าบริเวณนั้นก็ทาไว้ด้วยยาสมานแผลห้ามเลือด เพราะหลี่ปิงไม่อยากให้เฝิงหยวนซิงตายไวนัก
เขายังเล่นไม่สะใจเลย
ซ่า!
น้ำเย็นที่ผสมด้วยน้ำแข็งและพริกสด ราดลงไปยังร่างของเฝิงหยวนซิงที่สลบอยู่
“อ๊าก…”
ท่ามกลางเสียงโอดครวญแผ่วเบา เฝิงหยวนซิงฟื้นสติคืนมาบ้างบางส่วน ดวงตาเปิดขึ้นช้าๆ
“ฮ่าๆ เจ้าลูกหมา ฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว เห็นข้าคนนี้ดีใจหรือไม่ ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบ ข้าจะค่อยๆ เล่นเป็นเพื่อนเจ้าเอง รับประกันว่าถึงใจแน่นอน ฮ่าๆๆๆ!”
เสียงหัวเราะเหี้ยมเกรียมของหลี่ปิงดังก้องในห้องทรมาน
ด้านข้าง พัศดีผู้หนึ่งดึงกล่องสูบลมเหงื่อไหลไคลย้อยอยู่ข้างหน้าอ่างไฟ พัศดีอีกคนหนึ่งเติมถ่านลงไปในอ่างไฟ เปลวไฟลุกสูงขึ้นมาหนึ่งจั้ง แสงสีส้มแดงแผ่ความร้อนที่น่ากลัวออกมา แผดเผาจนตราประทับลงทัณฑ์รูปทรงต่างๆ หลายอันในอ่างไฟกลายเป็นสีส้มแดง
“ต่อไป พวกเราเลือกอันไหนดี?”
ใบหน้าของหลี่ปิงเผยยิ้มเหี้ยมโหด สายตากวาดไปยังตราประทับลงทัณฑ์ในอ่างไฟ เสียงเย็นเยือกราวภูตผีจากนรก
สุดท้าย เขาเลือกห่วงรัดศีรษะที่ถูกเผาจนแดง
“จิๆๆ สิ่งนี้หากครอบไปบนหัว น่ากลัวว่าสมองคงโดนเผาจนสุกกระมัง” หลี่ปิงยกห่วงรัดศีรษะแดงร้อนมาข้างหน้าเฝิงหยวนซิง หัวเราะเอ่ยว่า “ไม่อย่างนั้นเอาแบบนี้ แค่เจ้าด่าหลี่มู่เป็นลูกโสเภณี ข้าจะละเว้นเจ้าครั้งหนึ่ง ให้เจ้ากลับไปพักในห้องขังเป็นอย่างไร?”
ริมฝีปากของเฝิงหยวนซิงขยับเล็กน้อย ส่งเสียงแผ่วเบาออกมา
“เจ้าว่าอะไรนะ?” หลี่ปิงเดินเข้าไปใกล้
“ถุย!” เสมหะปนเลือดถ่มไปบนหน้าของหลี่ปิง
หลี่ปิงโมโหจนคลั่งทันที “เจ้ามันรนหาที่ตาย ทหาร ครอบหัวมัน ครอบมันให้ตาย…”
ทรมานเฝิงหยวนซิง เจินเหมิ่ง และหม่าจวินอู่นานขนาดนี้ แต่เดิมคิดว่าจะทำให้ขุนนางอำเภอขาวพิสุทธิ์สามคนร้องขอน้ำมูกน้ำตาไหล แต่ว่าผลกลับทำให้เขาผิดหวัง ไม่ว่าจะใช้ทัณฑ์ทรมานโหดร้ายขนาดไหน ไม่ว่าจะทำร้ายร่างกายอย่างไร แต่ก็ไม่อาจทำให้พวกเขาอ้าปากร้องขอได้เลย
แววตาแบบนั้นในดวงตาของคนทั้งสาม กระทั่งทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
ตอนนี้เอง…
โครม!
ประตูห้องทรมานข้างหลังถูกเปิดออก ส่งเสียงดังลั่น
หลี่ปิงโมโห สบถด่าโดยไม่แม้แต่จะหันหน้าไป “ไอ้ชั่วตัวไหนไม่มีตา ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ? ตอนข้ากำลังเล่นสนุกอย่ามารบกวน มารดาเจ้ารนหาที่ตายรึไง?”
ในห้องทรมานเงียบสงัด
เงียบกริบไร้เสียงใด
พัศดีที่กำลังเผาตราประทับสองคนนั้นมองไปยังประตูห้องทรมาน ใบหน้าปรากฏความตื่นตระหนก ตกใจจนสีหน้าซีดขาว ตัวสั่นงันงก ก่อนไม่ทันระวังทำอ่างไฟร่วงลงพื้นเสียงดังเคร้ง
พัศดีที่เหลือสามสี่คนก็ประหนึ่งกลายเป็นหิน ตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
หลี่ปิงเห็นภาพนี้ ในใจก็ตื่นตะลึง ความลนลานและหวาดกลัวที่ยากจะบังคับพลันเกิดขึ้นในใจอย่างไม่มีเหตุผล เขาหมุนตัวกลับมาช้าๆ หันหน้ามา จากนั้นความตกตะลึงก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ตามด้วยความหวาดกลัว…
หน้าประตูห้องทรมาน ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาอย่างเนิบช้า
ข้างหลังเขา ทหารเกราะดำที่ล้มระเกะระกะร้องโอดครวญเจ็บปวด เหมือนกับต้นข้าวสาลีที่ถูกพายุคลั่งกวาดล้ม
“เจ้าๆๆ…หลี่มู่ เจ้า…กึกๆๆๆ…”
หลี่ปิงสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ฟันกระทบกึกๆ คำพูดประโยคเต็มๆ ก็พูดออกมาไม่ได้
ความหวาดกลัวที่ยากจะบรรยายเสมือนฝันร้าย ทำให้เขาตัวงอ ความคิดในตอนนั้นหยุดชะงัก
เพราะเขาจำได้ ผู้ที่บุกเข้ามาก็คือหลี่มู่นั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา