เหตุที่เขาแสดงท่าทีไม่อยากขัดแย้งเช่นนี้ ก็แค่เพราะสัตบุรุษมิควรอยู่ในที่อโคจร เขาไม่อยากเสี่ยงเกินไปก็ไม่ได้หมายความว่ากลัวหลี่มู่จริง
หลายครั้ง แม้จะเป็นตอนที่เขามั่นใจอย่างสมบูรณ์ เขาก็ยังชอบใช้แผนการบางอย่าง ใช้วิธีที่เกือบจะเป็นการปั่นหัวมาจัดการเรื่องราว
เมื่ออีกฝ่ายตื่นเต้นดีใจสุดฤทธิ์ ก็จะพลันตื่นขึ้นจากฝัน จากนั้นจึงตกอยู่ในหุบเหวแห่งความสิ้นหวัง ขั้นตอนพวกนี้ทำให้เขารู้สึกถึงความสำเร็จที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ขณะมองใบหน้าประจบประแจงของแต่ละคน ต่อให้ลึกๆ ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นก็ไม่กล้าพูดอะไร ภาพเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุด
แต่ตอนนี้ คู่ต่อสู้ที่เหมือนหนูตัวหนึ่งในสายตาของเขา เสมือนคนที่เขาหลอกปั่นหัว จู่ๆ กลับสั่งให้เขาคุกเข่าอย่างหยิ่งทะนง หลังจากที่เขาตกตะลึงและยากจะเชื่ออยู่ชั่วครู่ เจิ้งฉุนเจี้ยนก็ตกอยู่ในความโกรธกริ้วทันที
เหตุใดจึงกล้าถึงเพียงนี้?
ทำไมหลี่มู่ถึงกล้าเพียงนี้?
“ฮ่าๆ หลี่มู่ เจ้าเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร?”
ผู้ช่วยขุนนางเมืองคนใหม่ฉู่ซูเฟิงกุมหน้าอก ก้าวเดินยาวๆ มายังข้างกายของเจิ้งฉุนเจี้ยน ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าอาจารย์เจิ้งมีฐานะอะไร เจ้ารู้หรือไม่ว่าต่อให้เป็นเจ้าเมืองฉางอันก็ยังต้องเคารพนบนอบต่ออาจารย์เจิ้ง เจ้ารู้หรือไม่ว่าอาจารย์เจิ้งเอ่ยแค่ประโยคเดียว ขุนนางระดับอำเภอของเมืองฉางอันไม่มีใครกล้าขัดขืนแม้แต่คนเดียว เจ้ารู้หรือไม่ว่า…”
สายตาของหลี่มู่หยุดอยู่ที่ชายหนุ่มค่อนข้างอ้วนจมูกงุ้ม หัวเราะเยาะหยันก่อนกล่าว “เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าตัวประกอบสารเลวเช่นเจ้าควรจะหุบปากอย่างว่าง่าย ยังไม่ถึงตาเจ้าพูด หากยังพูดไร้สาระจิ๊จ๊ะอยู่อีก เช่นนั้นวันนี้ของปีหน้าก็จะเป็นวันครบรอบวันตายของเจ้า?”
ฉู่ซูเฟิงหน้าซีดเผือดทันที
เขาไม่รู้ว่าจิ๊จ๊ะหมายถึงอะไร แต่ก็พอจะเดาได้อยู่เลาๆ
ภายใต้การจับจ้องของหลี่มู่ ริมฝีปากของฉู่ซูเฟิงขยับอยู่สามสี่ที สุดท้ายก็ไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียว
“เด็กดี นี่ถึงจะถูกต้อง ตัวประกอบสารเลวก็ควรมีสำนึกของตัวประกอบสารเลวด้วย”
สีหน้าของหลี่มู่ฉายแววเหยียดหยาม
สุนัขรับใช้แบบนี้ พูดมากไปก็ล้วนสิ้นเปลืองน้ำลาย
เขามองไปยังเจิ้งฉุนเจี้ยน ก่อนจะพูดขึ้น “ไม่คุกเข่าใช่หรือไม่?”
เจิ้งฉุนเจี้ยนยิ้มเย็นหยิ่งทะนง “ในเมืองฉางอัน ข้าคุกเข่าให้กับใต้เท้าเจ้าเมืองเท่านั้น เจ้าถือว่าเป็นใคร กล้ามาให้ข้า…”
“พูดมากจริงๆ”
ร่างของหลี่มู่ไหววูบ มาปรากฏเบื้องหน้าเจิ้งฉุนเจี้ยนในชั่วพริบตาราวภูตผี ก่อนจะยกมือซัดลงไป
ครืน!
กระแสอากาศทะลักล้น
บนร่างของเจิ้งฉุนเจี้ยนมีเกราะป้องกันทรงรีปรากฏขึ้น กำลังส่งลำแสงสีฟ้าคุ้มกันเขาจากฝ่ามือของหลี่มู่เอาไว้ข้างใน
หืม?
นี่คือโล่พลังเวท?
หลี่มู่ตกใจเล็กน้อย
เขามองออก เจิ้งฉุนเจี้ยนไม่ใช่จอมเวทอย่างแน่นอน ทว่าบนร่างกลับกระตุ้นโล่พลังเวทได้?
“ฮ่าๆ เจ้าคิดว่าข้าจะไม่ป้องกันอะไรเลยแม้แต่น้อยจริงๆ รึ?”
เจิ้งฉุนเจี้ยนหัวเราะเสียงเย็น “คนบ้าวู่วามเช่นเจ้า ข้าเห็นมาเยอะแล้ว ชีวิตไร้ค่า คิดว่าไม่ต้องกังวลสิ่งใด…เครื่องกระเบื้องเคลือบไม่มีทางไปกระทบกับเครื่องปั้นดินเผาหรอก หากข้าไม่มีการป้องกันใดๆ แล้วจะ…”
แกรก!
เขายังพูดไม่ทันจบ เสียงกังวานก็ดังขึ้น โล่พลังเวทสีฟ้าบนร่างแตกร้าวทีละชุ่นๆ ราวกับหยกแตก
หลี่มู่เก็บฝ่ามือกลับ
เขาใช้พลังไปแค่หนึ่งในสิบเท่านั้น
โล่พลังเวทแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับชั้นพลังเวทคุ้มกันที่นักพรตตาบอดและจอมเวทวัยกลางคนชุดดำใช้สักเท่าไหร่ หากเป็นเมื่อไม่กี่วันก่อน บางทีหลี่มู่อาจจะต้องเปลืองแรง แต่หลี่มู่ในวันนี้ไม่ใช่แค่พลังแข็งแกร่งขึ้นอีกหลายสิบเท่า แต่ยังเข้าใจทฤษฎีพลังเวทอีกหลายส่วนจากการชี้แนะของกัวอวี่ชิง การทำลายโล่พลังเวทระดับนี้เป็นแค่เรื่องในหนึ่งความคิดเท่านั้น
อีกทั้งตัวเจิ้งฉุนเจี้ยนก็ไม่ใช่จอมเวท
เกราะป้องกันสีฟ้าของเขาอันนี้ก็แค่ยืมพลังจากข้างนอกมากระตุ้นเท่านั้น
แสงไฟสีฟ้าลอยกระจายหายไปในอากาศเป็นเส้นๆ
หยกประดับสีฟ้าบนตัวของเจิ้งฉุนเจี้ยนแตกละเอียดเป็นฝุ่นผง ปลิวสลายไปดั่งควัน
เหงื่อซึมชื้นไหลลงมาจากหน้าผากของเขา
สีหน้าของเขากลายเป็นหวาดกลัว
‘โล่ฟ้าคราม’ แตก…แตกแล้ว?!
“ข้า…” สีหน้าของเขาหวาดกลัวจนถึงขีดสุด ราวกับตกใจเป็นอย่างมาก ถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
ในตอนนี้เอง เสียงเครื่องจักรที่ดังราวเส้นผมขาดดังขึ้นมา
เข็มบินเล็กบางยิงพุ่งออกมาจากไหลของเจิ้งฉุนเจี้ยนอย่างไร้สุ้มเสียง ส่องประกายแสงพิษสีฟ้าภายใต้แสงอาทิตย์ และปักเข้าไปที่อกของหลี่มู่ทั้งหมดในระยะอันใกล้เช่นนี้
“ฮ่าๆๆ เจ้าคิดว่าข้าจะมีแค่โล่พลังเวทจริงๆ อย่างนั้นรึ?”
เขาหัวเราะเยาะอีก “ ‘เข็มพิษริ้นเลือด’ มุ่งทำลายกำลังภายในโดยเฉพาะ ต่อให้เป็นยอดฝีมือชั้นยอดขั้นปรมาจารย์ หากเข็มพิษนี้ปักเข้าร่างกายก็จะทำลายวรยุทธ์ในทันที เข็มพิษจะเคลื่อนไปในเส้นเลือดของเจ้า เจ็บปวดเจียนตาย ประหนึ่งมดแมลงกัดกิน…”
“งั้นรึ?” หลี่มู่แตะเข็มสีฟ้าครามที่หน้าอก พูดเยาะเย้ยว่า “ยังมีกลวิชาอะไรอีก ใช้ออกมาให้หมดเถอะ ข้าจะแสดงเป็นเพื่อนเจ้า”
เจิ้งฉุนเจี้ยนอึ้งตะลึง
“เจ้า…เจ้าทำได้อย่างไร? เจ้า…” เขาหวาดกลัวขึ้นมาแล้วจริงๆ
เข็มริ้นทำลายกำลังภายในของผู้แข็งแกร่งด้านการต่อสู้โดยเฉพาะ แต่กลับทะลุร่างของหลี่มู่ไม่ได้?
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
หรือหลี่มู่จะสวมเสื้อวิเศษคุ้มกายอะไรไว้บนร่าง?
“ตายซะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา