จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ นิยาย บท 6

บทที่ 5

“เธอจะบอกว่าฉันทำท่าชีกอใส่เธอ? หึๆ ฉันว่าคนที่หลงตัวเองน่าจะเป็นเธอมากกว่า แล้วจะบอกอะไรให้นะ…ฉันไม่ชอบหมากระเป๋า เพราะขนาดหมาที่ฉันเลี้ยงยังตัวใหญ่กว่าเธอเลย” มีนาถึงกับยืนกัดฟันกรอด ไม่เพียงแต่สบประมาท แต่พ่อคุณยังเอาเธอไปเปรียบเทียบกับหมาอีก แล้วหมาตัวนั้นก็ดันเป็นหมาที่เธอกลัวด้วย

“แล้วรู้ไหมว่าเวลาที่หมากระเป๋าโกรธ มันจะโหดกว่าไอ้หมาตัวโตๆ ของคุณมากแค่ไหน ไอ้ที่โดนกัดไปยังไม่เข็ดใช่ไหมหา” ในขณะที่เธอขู่เสียงเขียวพร้อมแยกเขี้ยวใส่ เขากลับเลื่อนสายตาไปจับจ้องที่ต้นคอเธอ แล้วรอยแดงๆ ที่ยังไม่จางไปก็ทำให้เขาต้องลอบกลืนน้ำลาย

“อืม! งั้นก็แล้วแต่เธอ แต่ถ้าถูกไอ้ลัคกี้กระโจนใส่อีก ก็อย่ามาร้องไห้ทีหลังแล้วกัน” ความรู้สึกแปลกๆ ทำให้เขาต้องรีบพาตัวเองออกไป แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงเธอ

“เหอะ! ฉันเนี่ยนะร้องไห้ ไม่มีทางอยู่แล้ว เมื่อกี้ก็แค่ตกใจหรอก ตกใจน่ะรู้จักไหม ก็มันเล่นกระโจนมาแบบไม่ให้ตั้งตัว เป็นใครก็ต้องตกใจไหมเล่า โดยเฉพาะคนที่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับหมามาหลายปีอย่างฉัน เจอระยะประชิดขนาดนั้น ไม่ช็อกตายก็บุญเท่าไหร่แล้ว โอย! นึกแล้วยังขนลุกไม่หาย” ท้ายประโยคเธอแอบบ่นเบาๆ กับตัวเอง จากนั้นก็ค่อยๆ เหลือบไปมองนักเรียนทั้งสองของตัวเอง

“อืม! มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ดูๆ ไปหมานั่นก็น่ารักดีแฮะ” ราวกับรับรู้ว่าเธอกำลังชื่นชม เจ้าหมาตัวโตจึงเอียงหน้ามองแล้วยังทำท่าจะลุกมาหาอีก

“เฮ้ยๆๆ อย่าเข้ามานะเว้ย อย่างน้อยก็ขอเวลาให้ฉันทำใจอีกสักนิดสิ” เธอจ้องมันเขม็ง ขณะที่สองเท้าก็ค่อยๆ ขยับถอยอย่างระแวดระวัง กระทั่งเสียงเล็กๆ ดังขึ้น

“ลัคกี้ไม่เคยกัดใคร ครูไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ” เด็กน้อยบอกพลางลูบหัวน้องหมาตัวโตที่อยู่ข้างๆ

“ไม่เคยกัดก็ใช่ว่าจะไม่กัด อีกอย่างครูก็ยังไม่อยากเป็นคนแรกที่โดนมันกัดด้วย เพราะฉะนั้นเรารีบมาเรียนกันดีกว่าเนอะ เผื่อเสียงเพราะๆ ของเปียโนจะทำให้ลัคกี้สงบลงได้ มาค่ะ เรามาทำความรู้จักกันด้วยเสียงดนตรีนะคะ” ครูสาวว่าพลางเดินมานั่งที่เก้าอี้เปียโน จากนั้นก็เริ่มบรรเลงเพลงจังหวะสนุกสนานพร้อมกับแนะนำตัวเองไปด้วย

“รู้ไหมว่าเสียงดนตรีมันมีความพิเศษยังไง” ครูสาวหันไปถาม ในขณะที่เด็กน้อยก็ส่ายหน้าแทนคำตอบ

“พิเศษตรงที่มันสามารถสื่อสารได้ว่าเรากำลังรู้สึกยังไง งั้นเดี๋ยวครูจะเล่นเพลงนี้ให้หนูฟัง แล้วให้หนูลองทายดูนะคะว่าครูกำลังรู้สึกยังไง” สิ้นเสียงมีนาก็รัวนิ้วลงบนคีย์บอร์ด เล่นเพลง Eine kleine Nacht – Mozart ดูเหมือนจังหวะสนุกสนานจะสะกดเด็กน้อยให้นั่งฟังนิ่งด้วยความสนใจ

“เป็นไงคะ ฟังแล้วพอจะรู้ไหมว่าครูกำลังรู้สึกยังไง” เล่นเสร็จครูสาวก็หันไปถามนักเรียนตัวน้อยที่นั่งฟังตาแป๋ว

“มีความสุขค่ะ” เด็กน้อยจันทร์เจ้าตอบไปตามความรู้สึกที่ตัวเองสัมผัสได้

“ว้าว! เก่งมากค่ะ เห็นไหมคะว่าหนูมีพรสวรรค์ ครูเชื่อว่าถ้าหนูได้เล่น หนูจะต้องมีความสุขเหมือนครูแน่ๆ เลยค่ะ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีไหมคะ”

“เมื่อกี้ครูยังกลัวหมาจนหน้าซีด แล้วทำไมตอนนี้ครูถึงมีความสุขล่ะคะ หรือว่าเสียงดนตรีทำให้ครูเลิกกลัวหมาแล้ว” ครูสาวถึงกับสะอึก ก่อนจะหันไปมองหน้าน้องหมา อา…แน่นอนว่าเธอยังกลัวอยู่

“ฮ่าๆๆ น่าจะใช่แน่ๆ เลย แต่ความสุขยิ่งกว่าของครูก็คือการได้มาสอนหนูวันนี้นะ เสียงดนตรีทำให้ครูลืมกลัว แล้วหนูล่ะมีอะไรที่กลัวและอยากให้เสียงดนตรีช่วยให้หายกลัวไหม” เด็กหญิงพยักน้อยๆ

“งั้นเรามาช่วยกันสร้างเสียงเพราะๆ ให้ความสุขขับไล่ความกลัวกันนะคะ” เธอว่าพลางยื่นมือไปหาเด็กน้อย ในขณะที่จันทร์เจ้าก็ค่อยๆ เดินเข้ามาหา เห็นแบบนั้นครูสาวจึงไม่รอช้า รีบยกนักเรียนตัวน้อยขึ้นมานั่งบนตัก จากนั้นก็เริ่มสอนให้รู้จักตัวโน้ตแต่ละตัว แน่นอนว่าภาพครูสาวกับนักเรียนตัวจิ๋วล้วนแล้วแต่อยู่ในสายตาใครบางคนที่กำลังยืนยิ้มน้อยๆ อยู่ข้างประตู

“แล้วจะยิ้มทำไมนักหนาวะ” เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเผลอยิ้มนานเกินไป เขาจึงสบถกับตัวเองแล้วรีบเดินออกไปเร็วๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ