บทที่ 28 ลูกเขยที่ดี
“พวกเรา……”
เฉินจิ้นกำลังจะอธิบาย ว่าเขากับซ่งชีงเหย็นได้ตัดสินใจหย่ากันแล้ว
แต่ว่าตอนที่เฉินจิ้นกำลังจะพูดนั้น ก็ถูกซ่งชีงเหย็นตัดบทออกมาก่อน
ซ่งชีงเหย็นรีบก้าวออกมาข้างหน้า แล้วก็พูดจาอย่างออดอ้อนว่า “พ่อ ตอนนี้พวกเรายังวัยรุ่นอยู่เลย ถึงแม้ว่าจะผ่านไปอีกสิบ พวกเราก็ยังคงแข็งแรงอยู่ดีแหละพ่อ”
“ตอนนี้พวกเราอยู่ในช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ เพราะฉะนั้นเรื่องลูก รออีกซักสองสามปีก็ไม่ช้าไปหรอก!”
ซ่งชีงเหย็นยิ่งพูด หน้าก็ยิ่งแดง
เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเฉินจิ้น
เฉินจิ้นที่ยืนอยู่ข้างๆก็อึ้งไปทันที
ซ่งชีงเหย็นหมายความว่ายังไงเนี่ย?
แต่ว่า ในเมื่อซ่งชีงเหย็นพูดออกมาขนาดนี้แล้ว ตอนนี้เฉินจิ้นก็ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องหย่าขึ้นมาอีก
“เฮ้อ พวกวัยรุ่นอย่างพวกเธอเนี่ยคิดมากเกินไปแล้ว ตอนนั้นพ่อกับแม่ ตอนอายุเท่าลูกเนี่ย ลูกก็โตจนวิ่งเล่นในสนามได้แล้ว……” ซ่งเจี้ยนหยวนส่ายหน้า
“พ่อ!” ซ่งชีงเหย็นร้องออกมาด้วยความเขินอาย
“โอเคๆ พ่อไม่จู้จี้แล้วก็ได้ พวกลูกมีความคิดของลูก ถ้ายังงั้นก็ทำตามความคิดของตัวเองก็แล้วกัน”ซ่งเจี้ยนหยวนพูดออกมาอย่างจำใจ “เย็นนี้ วันนี้พวกลุงๆของลูกจะมาจากเจียงหนาน ชีงเหย็น พวกลูกก็ไปจัดการหาโรงแรมให้หน่อย แล้วตอนเย็นก็ไปต้อนรับพวกเขานะ!”
หลังจากซ่งชีงเหย็นฟังนั้น ก็ขมวดคิ้วแน่น พ่อของเธอป่วยมาสามปีเต็ม ก็ไม่เคยมีลุงคนไหนมาเยี่ยมเขาเลยซักครั้ง แต่อยู่ดีๆตอนนี้มาเพื่ออะไร
ที่จริงพวกเขาก็ไม่ได้สนิทสนมกันเท่าไหร่หรอก
หลังจากพูดจบ ซ่งเจี้ยนหยวนก็เรียกเฉินจิ้นไปคุยด้วย
สุดท้ายตอนบ่ายของวันนั้น ก็ไม่ได้ไปทำเรื่องหย่า
หลังจากซ่งชีงเหย็นจองร้านอาหารเรียบร้อย ก็ได้เชิญพวกเพื่อนๆในเมืองเจียงโจวของเธอมาร่วมด้วย ณ ตอนเย็นของวันนั้น พวกเฉินจิ้นไม่ถึงโรงแรมได้ไม่นานเท่าไหร่ ทักทายกับญาติคนอื่นๆซักแป๊ปนึง ซ่งเจี้ยนโก๋ก็มาถึง
“พี่ใหญ่ ยินดีด้วยที่กลับมาสุขภาพแข็งแรง”
“น้องสะใภ้ ยิ่งผ่านไปยิ่งหน้าเด็กนะเนี่ย”
“ ชีงเหย็น สวยขึ้นเยอะเลยนะเรา”
“จื่อหาร ไม่ได้เจอกันตั้งปีนึงแหนะ สวยขึ้นเรื่อยๆเลยนะเรา ใกล้จะเรียนจบแล้วใช่ไหม?”
หลังจากที่ซ่งเจี้ยนโก๋มาถึง ก็มาทักทายซ่งเจี้ยนหยวน หลังจากนั้นก็ทักทายคนอื่นๆด้วย
แต่ว่า ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีใครสนใจเฉินจิ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
ราวกับว่าพยายามเมินเขาอยู่ยังไงยังงั้น
“ซูนเจ๋อ รีบมาหาคุณลุงเร็ว”ซ่งเจี้ยนโก๋ก็เรียกเด็กหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาหล่อเหลาที่อยู่ด้านหลังเขา
คนๆนั้น คือลูกเขยของเขาที่พึ่งแต่งงานเข้าบ้านมา
วันนี้ครอบครัวของซ่งเจี้ยนโก๋ เขากับภรรยา ลูกสาวและลูกเขย ก็มาที่เจียงโจวหมดเลย
ซ่งเจี้ยนโก๋มีลูกสาวแค่คนเดียวเท่านั้น ดังนั้น ลูกเขยคนนี้ ก็เหมือนกับเฉินจิ้น ที่ต้องแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิง
พอซูนเจ๋อได้ยินซ่งเจี้ยนโก๋เรียกตัวเอง ก็รีบเดินเข้ามา แล้วก็ทักทายทุกคนอย่างสุภาพด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
จนถึงสุดท้าย เหมือนกับว่าเขาพึ่งจะสังเกตุเห็นว่า นอกจากซ่งชีงเหย็นและครอบครัวเธอทั้งหมดสี่คน ด้านข้างๆก็ยังมีคนอยู่อีกคนนึง
ซูนเจ๋อกล่าวขอโทษ “ขอโทษด้วยนะครับ เมื่อกี้ผมไม่ทันสังเกตุเห็นคุณ คุณคือสามีของชีงเหย็นใช่ไหม? สวัสดีครับ ผมชื่อซูนเจ๋อ หวังว่าเราจะได้รู้จักกันในอนาคตนะ!”
“เฉินจิ้น!” เฉินจิ้นพูดออกมาด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
ตอนที่เฉินจิ้นพึ่งจะพูดออกมาอยู่นั้น ลูกสาวของซ่งเจี้ยนโก๋ ซ่งหยวนหยวนก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ก็แค่คนไร้ประโยชน์ จะไปยุ่งด้วยทำไม”
พอพูดออกมาปุ๊ป สีหน้าของซ่งเจี้ยนหยวนก็เปลี่ยนไปทันที
เมื่อกี้พวกเขาก็สัมผัสได้ว่า ซ่งเจี้ยนโก๋พยายามจะเมินเฉินจิ้น
ตอนนี้ ซ่งหยวนหยวนพูดออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม
“หยวนหยวน ห้ามทำตัวไม่มีมารยาท!”ซ่งเจี้ยนโก๋ตำหนิ
หลังจากนั้นก็หันมามองหน้าซ่งเจี้ยนหยวนแล้วหัวเราะออกมา “พี่ใหญ่ เพราะว่าฉันตามใจลูกจนเคยตัว ก็เลยคิดว่าอะไรมันง่ายไปหมด ซูนเจ๋อพึ่งจะได้เลื่อนขั้นเป็นรองผู้อำนวยการ แต่เธอยังด่าว่าเป็นคนไร้ประโยชน์เลย”
คำพูดของซ่งเจี้ยนโก๋ ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนกำลังตำหนิลูกสาวตัวเอง
แต่ใครก็ฟังออก ประโยคของเขาที่ว่า “ซูนเจ๋อพึ่งจะได้เลื่อนขั้นเป็นรองผู้อำนวยการ”
ตอนนั้น ญาติคนอื่นๆที่นั่งอยู่ก็หันมามองหน้าซูนเจ๋อทันที
ทำให้ซ่งเจี้ยนโก๋รู้สึกดีมาก
ซ่งเจี้ยนหยวนก็หัวเราะออกมาเช่นกัน “อายุยังน้อยอยู่เลย แต่สามารถก้าวหน้ามาถึงขั้นนี้แล้ว เจี้ยนโก๋ นายได้ลูกเขยที่ดีเลยนะเนี่ย อนาคตยังยาวไกล!”
“พี่ใหญ่ก็พูดเกินไป ฉันกลับรู้สึกว่าซูนเจ๋อยุ่งกับงานมากเกินไป เวลาที่จะอยู่กับหยวนหยวนก็เลยน้อย พวกเขาทั้งสองคนยังอายุน้อย ทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมาก ทำให้พวกเราไม่สบายใจ! เฮ้อ ไม่เหมือนกับเฉินจิ้น เขาสามารถอยู่กับชีงเหย็นได้ทั้งวัน เดาว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาคู่นี้คงกลมเกลียวกันน่าดูเลยล่ะสิ พี่ใหญ่ก็คงจะมีความสุข ฉันอิจฉามากเลยนะเนี่ย”
ซ่งเจี้ยนโก๋ทำหน้าเหมือนอิจฉา
คำพูดพวกนี้ ซ่งเจี้ยนหยวนได้ยินแล้วก็ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมา แต่ว่าฉินเฝิ้งเจียวเริ่มไม่พอใจแล้ว
ความหมายของนายก็ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าจะสื่อว่าลูกเขยของนาย ยุ่งอยู่กับงาน อนาคตยังอีกยาวไกล
ส่วนลูกเขยของฉัน วันๆไม่มีงานอะไรให้ทำ ก็เลยมีเวลาอยู่กับภรรยางั้นเหรอ?
ฉินเฝิ้งเจียวกำลังจะอ้าปากพูด
แต่ว่าซ่งเจี้ยนหยวนก็ส่ายหน้าให้เธอ บอกให้เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไป
ถึงแม้ว่าฉินเฝิ้งเจียวจะมีอำนาจมาก แต่ว่าเธอก็เชื่อฟังในสิ่งที่สามีพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน