จักรพรรดิมารหวนคืน นิยาย บท 27

สรุปบท บทที่ 27 ถึงเวลาที่ควรจะมีลูกได้แล้ว: จักรพรรดิมารหวนคืน

อ่านสรุป บทที่ 27 ถึงเวลาที่ควรจะมีลูกได้แล้ว จาก จักรพรรดิมารหวนคืน โดย หว่อปู้ซื่อZ

บทที่ บทที่ 27 ถึงเวลาที่ควรจะมีลูกได้แล้ว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิมารหวนคืน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หว่อปู้ซื่อZ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 27 ถึงเวลาที่ควรจะมีลูกได้แล้ว

เจียงโจว บ้านตระกูลหวาง

ข้างในห้องประชุม เต็มไปด้วยความโกรธแค้น

“ไอ้สัตว์นี่ แกต้องตาย!”

แม่บ้าน คุณป้าที่อยู่รอบๆ พอได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกกลัวจนหัวหด รีบออกจากที่นั่นทันที

พวกเธอรู้ดีว่า ถ้าเกิดว่าท่านเจ้าของบ้านโกรธขึ้นเมื่อไหร่ ใครก็ตามที่ทำให้เขารู้สึกรำคาญ คนนั้นต้องซวยแน่ๆ แล้วชีวิตที่เหลือจากนี้ก็จะน่าเวทนามาก

“เล๋ยเป้า แกรู้โทษของตัวเองไหม?”

หัวหน้าตระกูลหวาง หวางเจิ้นเวย มองหน้าเล๋ยเป้าที่ยืนอยู่กลางห้องโถง เขาโกรธมากจนอยากจะกระทืบเขาให้ตาย

“การที่ไม่ได้คุ้มครองคุณชายให้ดี ขอให้คุณตัดสินโทษมา ผมก็เต็มใจจะยอมรับทุกอย่าง”

เล๋ยเป้าคุกเข่าลงบนพื้นแล้วก็สั่นไปทั้งตัว

เขาคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นมาแต่ไหนแต่ไร แถมตอนนี้ เขายังห่างจากบูโดขั้นสูงสุดอีกแค่หนึ่งขั้นเท่านั้น เขาแทบจะไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ซ่างจุง ที่เป็นแชมป์ของนักมวยใต้ดินที่มีชื่อเสียงมากมาย เขาก็ไม่คิดจะเห็นค่าเลยด้วยซ้ำ ในสายตาของเขา ก็มองแค่ว่าเป็นคนที่มีแรงเยอะแค่นิดหน่อยเพียงเท่านั้น

แต่ว่าหวางเจิ้นเวยที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ คือคนที่เล๋ยเป้าเลียแข้งเลียขามาโดยตลอด ไม่ยังงั้น เขาคงไม่ได้อยู่ในบ้านตระกูลหวางมาได้นานขนาดนี้หรอก

“ฆาตกรล่ะ?”

หวางเจิ้นเวยปล่อยให้เล๋ยเป้าคุกเข่าอยู่ที่พื้นอย่างไม่แยแส แล้วก็ถามออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

หวางฮ่าวคือลูกชายคนโตของเขา ถึงแม้ว่าจะทำตัวลูกผู้ดีมีเงิน แต่ว่าเขาอายุยังน้อย ถ้าฝึกฝนไปฝีกซักสองสามปี เขาก็จะสามารถมารับช่วงต่อของตระกูลหวางได้แล้ว

แต่ว่าตอนนี้ ลูกชายของเขา ตายแล้ว

“เล๋ยเป้าไร้ความสามารถ รู้แค่ว่าเขาชื่อเฉินจิ้น เป็นลูกเขยของตระกูลซ่ง สามีของซ่งชีงเหย็น นอกนั้นผมก็ไม่รู้อะไรเลยครับ”

พอพูดจบ เล๋ยเป้าก็รู้สึกแสบคอ แล้วก็กระอักเลือดออกมา

ถึงแม้ว่าเฉินจิ้นจะไม่ได้ฆ่าเขา แต่ว่าหลังจากนั้นก็ทำร้ายเขา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาได้รับโทษมาแล้ว

แต่ว่า เล๋ยเป้าก็สงสัยว่า ถ้าเกิดว่าเฉินจิ้นไม่อยากให้เขากลับมาเล่าต่อ เขาก็คงต้องเจอชะตากรรมเหมือนกับหวางฮ่าว

“ซ่งชีงเหย็น ลูกสาวของซ่งเจี้ยนหยวน?” หวางเจิ้นเวยกัดฟันกรอด

“กำจัดตระกูลซ่งซะ แล้วจับซ่งชีงเหย็นกับเฉินจิ้นมาให้ฉัน ฉันจะต้องให้พวกมันชดใช้!”

หวางเจิ้นเวยพูดออกมาด้วยความโกรธแค้น

ตระกูลซ่งฆ่าลูกชายของเขา เท่ากันรนหาที่ตาย

“พ่อ ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน!”

ตอนนั้นเอง หวางเม่ยอวูที่นั่งเงียบๆอยู่ด้านข้างตลอดก็พูดออกมา

หวางเจิ้นเวยขมวดคิ้ว แล้วมองหน้าหวางเม่ยอวู สายตาของเขาอ่อนโยนลงเล็กน้อย “ทำไม?”

หวางเม่ยอวูเปลี่ยนท่าทีกลับมาเป็นเนือยๆเหมือนปกติ เธอไม่ตอบคำถามของหวางเจิ้นเวยทันที แต่ว่าหันไปมองหน้าเล๋ยเป้า “เล๋ยเป้า การที่นายสามารถมีชีวิตกลับมาได้จนถึงตอนนี้ เฉินจิ้นได้สั่งให้นายมาพูดอะไรไหม?”

“คุณผู้หญิงฉลาดมากเลยครับ” เล๋าเป้าใจสั่นไปหมดทั้งตัว เขาพยายามจะพูดออกมาแต่ว่าตั้งนานก็พูดไม่ออก

“พูดมา”

หวางเจิ้นเวยเห็นท่าทีของเขา ก็พูดออกมาด้วยความโกรธ

“เฉินจิ้นบอกว่า เขาเคยเตือนพวกเราแล้ว แต่ว่าคุณชายหวางฮ่าวก็ยังกล้าไปแตะต้องผู้หญิงของเขา โทษก็คือ ต้องโดนประหารทั้งครอบครัว!”

พอพูดถึงตรงนี้ เสียงของเล๋ยเป้าก็เริ่มสั่นขึ้นมาอีกครั้ง

เขาคิดไว้ว่า หวางเจิ้นเวยต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่นอน

“กำเริบเสิบสาน!”

ไม่ต้องเดาเลยว่า พอหวางเจิ้นเวยได้ยินประโยคนั้น ก็ระเบิดออกมาทันที

เขาตบโต๊ะลงไปด้วยความโกรธ ทันใดนั้น โต๊ะก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ใบหน้าที่สวยงามของหวางเม่ยอวู เหมือนกำลังถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง

แต่ว่าหวางเม่ยอวูรู้ดีว่า เขาต้องพูดอะไรอีกแน่นอน เธอขยับริมฝีปากที่แดงระเรื่อของเธอแล้วพูดว่า “พูดต่อสิ!”

เล๋ยเป้ารู้สึกกลัวจนใจสั่นไปหมด กลัวว่าหวางเจิ้นเวยจะฆ่าเขาทิ้งด้วยความโมโห แต่ว่า พอนึกถึงฝีมือที่น่ากลัวของเฉินจิ้นแล้วนั้น เขาก็รู้สึกเสียวไปทั้งตัว แล้วรีบพูดต่อว่า “เขายังพูดอีกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนี้มันเกิดเพราะว่าการกระทำของคุณชายหว่างฮ่าวเอง เพราะฉะนั้น เขาให้เราเตรียมชุดยาสมุนไพรที่เขาต้องการ แล้วเขาจะไม่มาอะไรกับตระกูลหวางอีก ไม่ยังงั้น......”

เล๋ยเป้ากลืนน้ำลายของตัวเอง เหงื่อออกหน้าผากไม่หยุด

ประโยคต่อไปนั้น เขากลัวจริงๆว่าหวางเจิ้นเวยจะฆ่าเขาทิ้งด้วยความโกรธ

“พูด”

มันไม่เป็นเหมือนที่เล๋ยเป้าคาดคิดไว้ หวางเจิ้นเวยมีท่าทีสงบลง เพราะว่าความโกรธ จะทำให้เขาสูญเสียการคิดอย่างมีเหตุผลและการตัดสินใจ

“ไม่งั้น ไม่งั้น......เจียงโจว จะไม่มีตระกูลหวางอีกต่อไป!”

ประโยคนี้หมายความว่ายังไง หมายความว่าถ้าตระกูลหวางไม่เชื่อฟัง เขาก็จะถอนรากถอนโคนตระกูลหวางซะ ให้หายไปจากเจียงโจวตลอดกาล

“ดี ดีมาก นี่มันไม่ใช่แค่บ้ารำห่ำแล้ว แค่มันคนเดียว ยังกล้าพูดขนาดนี้ บอกว่าจะลบชื่อของตระกูลหวางออกจากเจียงโจวไปงั้นเหรอ มันเป็นเพียงแค่ความเพ้อฝันของคนโง่เท่านั้นแหละ!”

พอได้ยินเธอพูดดังนั้น คนในตระกูลหวางก็รู้สึกวางใจ

ถ้าเกิดว่าพลังของหวางเม่ยอวูหายไปก่อนแต่งงาน ก็เหมือนเป็นการหักหน้าตระกูลเจิ้งของเมืองจีงเฉิง ตอนนั้น ถ้าเกิดว่าทำผิดต่อตระกูลเจิ้งของเมืองจีงเฉิง นั่นแหละถึงจะเรียกว่าอันตราย ที่ตระกูลหวางจะโดนลบออกไปจากเมืองเจียงโจว!

หวางเม่ยอวูมองหน้าพวกลุงๆของตระกูลหวาง รวมถึงพ่อแท้ๆของเธอ สิ่งที่พวกเขากังวลไม่ใช่เรื่องความปลอดภัยของตัวเอง แต่เป็นเรื่องที่ว่าพลังหยวนหยินของเธอยังอยู่รึป่าว เธอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก

“พ่อคะ ตกลงทำตามเงื่อนไขของเฉินจิ้นเถอะ ถ้าเกิดว่าเขากล้ามาท้าถึงหน้าประตูขนาดนี้แล้ว ก็ให้เขาเข้ามาแล้วกลับไปไม่ได้อีก!”

หวางเม่ยอวูกัดริมฝีปากแน่น พอมาเป็นถึงเรื่องความรักของตัวเองแล้วนั้น สายตาของเธอก็เย็นชาขึ้นมาราวกับน้ำแข็ง!

ซ่งชีงเหย็นกับซ่งจื่อหารโดนลักพาตัวไป เรื่องนี้ซ่งเจี้ยนหยวนกับฉินเฝิ้งเจียวไม่ได้รู้เรื่องเลย

พอเฉินจิ้นพาลูกสาวทั้งสองคนมาหา ซ่งเจี้ยนหยวนกับฉินเฝิ้งเจียวก็รีบต้อนรับอย่างกระตือรือร้น

“จิ้นเอ๋อ ลูกไปไหนมาหนะ? ทำไมถึงพึ่งกลับมาตอนนี้ล่ะ?”

ซ่งเจี้ยนหยวนมองหน้าเฉินจิ้น ก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา

เขารู้สึกเป็นห่วงเฉินจิ้นจากใจจริง ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้ที่เฉินจิ้นช่วยชีวิตเขา ก็เลยทำให้เขาเห็นเฉินจิ้นเป็นเหมือนลูกแท้ๆ

ฉินเฝิ้งเจียวก็มีสีหน้าเป็นห่วง ตอนนี้ เธอรู้สึกพอใจในตัวลูกเขยคนนี้มาก

พอใจมากเกินไปด้วยซ้ำ

สำหรับผู้หญิงที่มีอำนาจมากอย่างฉินเฝิ้งเจียวนั้น เฉินจิ้นไม่ได้รู้สึกชอบใจเท่าไหร่นัก แต่ว่าซ่งเจี้ยนหยวน เขาดีกับเฉินจิ้นมากจริงๆ

ดังนั้น เฉินจิ้นก็ยิ้มออกมาแล้วตอบว่า “ข้างนอกมีเรื่องนิดหน่อย ตอนนี้พึ่งจัดการธุระเสร็จครับ!”

“ฮ่าๆ ก็ดี ผู้ชายก็มีธุระของตัวเองให้ต้องจัดการอยู่แล้ว จัดการธุระเสร็จแล้วก็อย่าลืมมาดูแลคนในครอบครัวด้วยนะ”

ซ่งเจี้ยนหยวนพูดออกมาอย่างสนิทสนม

เขาได้ยินจากฉินเฝิ้งเจียวแล้ว เพราะว่าเรื่องเข้าใจผิด ซ่งชีงเหย็นก็เลยต้องการหย่ากับเฉินจิ้น

หลังจากได้ยินต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซ่งเจี้ยนหยวนก็ตำหนิฉินเฝิ้งเจียวออกไปทันที

ยิ่งไปกว่านั้น ซ่งเจี้ยนหยวนที่เป็นคนหัวโบราณ เขาก็คิดว่า การที่ลูกสาวได้แต่งงานกับผู้ชายคนนั้น นั่นหมายถึงตลอดชีวิต อยู่ๆจะมาหย่าได้ยังไง แถมยังต้องไปหาผู้ชายคนอื่นอีกงั้นเหรอ

ในตอนนั้น ซ่งเจี้ยนหยวนก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวอะไร

“ใช่สิ จิ้นเอ๋อ ชีงเหย็น พวกเธอก็แต่งงานกันมาสามปีแล้ว น่าจะถึงเวลาที่จะมีลูกได้แล้วสินะ? อาศัยตอนที่เรายังสุขภาพแข็งแรงอยู่ พวกเธอก็สามารถยุ่งกับธุรกิจต่อไปได้ เราก็จะได้เลี้ยงลูกให้แทน”

ซ่งเจี้ยนหยวนพูดพลางหัวเราะออกมา

พอพูดออกมา ใบหน้าของซ่งชีงเหย็นก็แดงก่ำขึ้นอีกครั้ง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน