สรุปเนื้อหา บทที่ 40 ฉันรีบ – จักรพรรดิมารหวนคืน โดย หว่อปู้ซื่อZ
บท บทที่ 40 ฉันรีบ ของ จักรพรรดิมารหวนคืน ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หว่อปู้ซื่อZ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 40 ฉันรีบ
อะไรนะ?
เมื่อทุกคนในห้องคิดว่าโสมพันปีนี้จะตกเป็นของเมิ่งจื่อจิ้นแล้วก็ยังมีคนกัดฟันสู้งั้นหรือ?
ทุกคนหันมองไปที่ต้นเสียงเพื่อต้องการที่จะดูว่าผู้กล้าคนไหนที่กล้าล้ำเส้นเมิ่งจื่อจิ้น และมีเงินมากมายขนาดนั้น!
พอเห็นแล้วทุกคนก็แทบกระอักเลือด
เด็กหนุ่มคนนั้นที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องจริงๆด้วย
ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง
หลายคนมองเหมือนกำลังดูละคร ในใจก็อดไม่ได้ที่จะเพิ่มอรรถรสเข้าไป
เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องตรงนั้นจะกระเป๋าหนาสักเท่าไหร่กัน?
จะสามารถต่อกลอนกับคุณชายใหญ่อย่างเมิ่งจื่อจิ้นได้ไหม?
ทว่าผู้ดำเนินงานกลับยิ่งดีใจมาก หากราคานี้เพิ่มสูงขึ้นอีก แน่นอนว่าเขาจะต้องดีใจมาก
หากใครประมูลสินค้าแล้วไม่มีเงินจ่าย ก็ต้องตามเช็กบิล
หึหึหึ
เรื่องแบบนี้ตลาดประมูลเสินโจวย่อมไม่ปล่อยไว้แน่
“ได้ งั้นมาลองดูกัน!” เมิ่งจื่อจิ้นหันไปมองเฉินจิ้นและแอบพูดในใจ
อย่างไรก็ตามที่นี่คือตลาดประมูลเสินโจว เขาจึงไม่กล้าฝ่าฝืนกฎคุกคามเฉินจิ้น จึงทำได้เพียงใช้สายตาน่าเกรงขามมอง!
เฉินจิ้นมองเมิน
“70 ล้าน!”
เมิ่งจื่อจิ้นกัดฟันพูดด้วยการเสนอราคาที่สูงขึ้นอีก 10 ล้าน
นี่ไม่ใช่เพราะเงิน ฉันแค่จะดูว่าคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันในเจียงนาน จะมีใครทำได้มากกว่าฉันอีกไหม!
ทันทีที่เสนอราคาออกมา ผู้คนที่อยู่ในงานต่างอยู่ในอาการตื่นตะลึง คุณชายใหญ่เมิ่งจื่อจิ้นคนนี้ร่ำรวยเสียจริง
หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ เงินที่เขาครอบครองจะต้องมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน
ในบรรดาคนแบบพวกเขาไม่ใช่ว่าจะไม่มีเงินเยอะขนาดนี้ แต่โดยสถานะของพวกเขาก็ไม่สามารถใช้จ่ายเยอะขนาดนี้ได้
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย เพราะแม้กระทั่งหัวหน้าครอบครัวก็ไม่สามารถใช้เงินเป็นสิบๆล้านได้ตามใจชอบ
“71 ล้าน!”
เฉินจิ้นเสนอราคาอีกครั้ง
จากนั้นภายในงานก็เงียบจนได้ยินเสียงเข็มตกลงมา
เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้าไปที่เมิ่งจื่อจิ้น
คนคนนี้เป็นใครกัน
ถึงไม่กลัวตายแบบนี้?
เป็นคนที่สามารถนั่งได้แค่มุมเล็กๆในงาน ยังกล้ายุ่งกับเมิ่งจื่อจิ้น
ช่างน่าชื่นชมจริงๆ
สายตาผู้คนมองไปที่เฉินจิ้นด้วยความรู้สึกซับซ้อน
มีทั้งความรู้สึกชื่นชม เห็นใจ สงสารและละโมบ
“80 ล้าน!”
เมิ่งจื่อจิ้นตัดสินใจแล้วว่าจะคว้าโสมพันปีนี้มาให้ได้
พ่อของเขาได้รับบาดเจ็บ เขาจะต้องได้โสมพันปีนี้เพื่อเอาใจพ่อ
แต่เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องคนนั้น เมิ่งจื่อจิ้นคิดจะลงโทษให้ตาย
ไม่ใช่เพราะแกอยากได้หรอกหรือ งั้นฉันจะให้แกเอง
แต่ว่าฉันจะให้แก ในราคาที่แกรับไม่ไหว
จากนั้นเขาก็รอให้การประมูลสิ้นสุดลง
คนที่นั่งอยู่มุมเล็กๆตรงประตูกล้าแย่งของของฉัน งั้นฉันจะให้แกรู้เองว่าการหยามเมิ่งจื่อจิ้นจะมีจุดจบเช่นไร!
“81 ล้าน!”
ทุกคนได้ยินเสียงนี้และรู้สึกมึนงง
นี่ไม่ใช่เพราะปัญหาเรื่องเงินหรือความคุ้มค่าเเล้ว
พวกเขาแค่จะรอดูว่าเจ้าเด็กนั่นจะตายอย่างไร
“90 ล้าน!”
เมิ่งจื่อจิ้นกัดฟันพูดราคานั้นออกมา
จากนั้นเขาไม่เตรียมจะเพิ่มราคาแล้ว แต่จะใช้วิธีอยุติธรรมในการแย่งมา
ครั้งนี้กลับไม่มีเสียงเด็กหนุ่มที่นั่งตรงมุมห้องดังขึ้นมา
“90 ล้าน ครั้งที่ 1!”
“90 ล้าน ครั้งที่ 2!”
“90 ล้าน เคาะราคา!”
มีความปีติยินดีในใจของผู้ดำเนินงาน เขามีความเป็นมืออาชีพสูงจึงระงับอารมณ์ของเขาได้ แต่ความตื่นเต้นนั้นไม่สามารถปกปิดได้ด้วยเสียงของเขา
หลังจากได้ยินว่า “เคาะราคา” เมิ่งจื่อจิ้นก็คิดขึ้นมาได้ว่าทำไมเด็กหนุ่มคนนั้นถึงไม่ตาม?
เขารอให้เจ้านั่นเพิ่มราคา แต่เจ้านั่นกลับไม่เสนอราคาตาม!
ผ่านไปสักพักเข้าก็เข้าใจ เขาตกหลุมพรางเข้าเเล้ว!
“วันนี้แกกล้ามากนักนะ ของที่เมิ่งจื่อจิ้นจับจ้อง ยังกล้าแย่งไปจากฉัน!”
เมิ่งจื่อจิ้นพูดถมึงทึง เพื่อเห็นแก่หน้าตัวเอง เขาจึงไม่ได้ยกเรื่องที่ตกหลุมพลางของเฉินจิ้นขึ้นมาพูด
ผู้ที่ไม่ได้ออกจากการประมูลและตามมารอดูการแสดงดีดี ในเวลานี้พวกเขาแอบพูดอยู่ในใจ ในที่สุดละครสนุกๆก็ได้เริ่มขึ้นเเล้ว ไม่เสียแรงที่รอดูอยู่นาน
“เมิ่งจื่อจิ้นเป็นใคร? ไม่เห็นเคยได้ยิน”
“ไม่รู้จัก น่าจะเป็นคนฆ่าหมูคนหนึ่ง”
ฮุยโสงและเถ่ฉวนพูดรับส่ง
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มที่มุมปากเริ่มกระตุก
เมื่อเมิ่งจื่อจิ้นได้ยินคำพูดของสองคนนั้น ก็พูดออกมาด้วยสีหน้าโมโห “ดี ดีมาก เดิมทีฉันคิดจะจัดการพวกแกให้เหลือแขนสักข้าง แต่ตอนนี้ดูแล้วคงต้องตัดขาทั้งสี่ของพวกแกซะแล้ว!”
“ถุย! พวกแกมันสวะ” เมิ่งจื่อจิ้นพูดเย้ย
พอพูดเสร็จก็มีผู้ชายรูปร่างแข็งแกร่งไม่แพ้ฮุยโสงและเถ่ฉวนออกมาจากฝูงชน
เมื่อผู้คนที่มาดูการแสดง เห็นชายร่างแกร่งที่เดินออกมาก็ถึงกับมึนงงไปชั่วคราว
และรู้สึกเสียขวัญแทนสามคนนั้น
เมิ่งจื่อจิ้นคือคุณชายใหญ่แห่งแก๊งมาเฟียเฮยหลงซึ่งเป็นแก๊งใต้ดินที่มีอำนาจมากที่สุดในพื้นที่เขตเจียงนาน
ภายในแก๊งแก๊งมาเฟียเฮยหลงมีผู้คุ้มครองหลักๆ 4 คนทั่วทั้งสี่ภาค ตงขุยก็เป็นหนึ่งในนั้นที่มีพละกำลังเเข็งแกร่ง ฝีมือเหี้ยมโหด คนในเมืองเจียงไม่มีใครไม่รู้จัก
ครั้งหนึ่งเขาเคยต่อสู้ทำสงครามกับแก๊งแก๊งมาเฟียเฮยหลงทางตอนใต้ และทำลายกองกำลังใต้ดินที่ไม่เชื่อฟังอีกมากมายจนได้รับชื่อเสียง
“กล้ายุ่งกับหลานชายสุดที่รักของนายพวกเรา พวกแกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วล่ะสิ!”
รูปร่างตงขุยเหมือนดังสมญานามของเขาที่ดูสง่างามและแข็งแกร่ง
ทุกตารางนิ้วของผิวหนังเต็มไปด้วยเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อราวกับว่าเต็มไปด้วยพละกำลัง
“บ้าเอ๊ย!”
เฉินจิ้นพูดเสียงเรียบ
“หาที่ตาย!”
ตงขุยรีบวิ่งไปที่เฉินจิ้นทันที เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นว่าร่างที่แข็งแกร่งของเขาที่ดูเหมือนจะไม่สะดวกในการเคลื่อนไหว แต่ในความเป็นจริงความยืดหยุ่นของเขาดีกว่าคนส่วนใหญ่
ฮุยโสงและเถ่ฉวนเตรียมพุ่งตัวออกไป
เฉินจิ้นยื่นมือไปห้ามพวกเขา
“ชีงเหย็นกำลังรออยู่ที่บ้าน วันนี้ฉันต้องรีบทำเวลา!”
พอพูดจบ เฉินจิ้นก็ยื่นมือขวาออกมาสามนิ้ว เพียงใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางเท่านั้นที่วางเคียงกันในรูปของดาบ!
จากนั้นก็หันหน้าไปทางตงขุยผู้มีความยืดหยุ่นสูงและใช้ดาบตัด
ในขณะนั้นประกายเงินบนดาบก็แผ่ออก และชี้ไปทางตงขุย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน