บทที่ 7 สามีของฉัน
หายใจเข้าลึก ๆ มองไปที่นาฬิกา ใกล้ที่จะสายเกินไปแล้ว
ซ่งชีงเหย็นเก็บความรู้สึกของเธอไว้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็นำข้อมูลทั้งหมด แล้วรีบออกไป
ด.ร.ติง เป็นผู้เชี่ยวชาญในประเทศอันดับต้น ๆ เธอจะไปสายไม่ได้
ซ่งชีงเหย็นขับรถตรงไปยังสนามบิน
……
“เพื่อนร่วมงานทุกท่าน ฉันขอแนะนำให้คุณทราบอีกครั้งหนึ่ง คนนี้คือด.ร.ติงที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก วันนี้เราโชคดีมากที่ได้มีโอกาสเชิญด.ร.ติงมาร่วมงาน มาช่วยเราเอาชนะปัญหาทางเคมีที่เราเจอในตอนนี้”
ในห้องประชุม ซ่งชีงเหย็นพูดแนะนำไปให้เพื่อนร่วมงานในแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์
เธอยืนอยู่ข้างๆ และตรงกลางนั้นมีชายชราที่สวมแว่นตากรอบดำยืนอยู่
“ด.ร.ติง เราหวังมานาน ในที่สุดคุณก็มาแล้ว”
“มีคุณอยู่ ปัญหาที่เราเจอให้ครั้งนี้ต้องแก้ไขได้อย่างราบรื่นแน่ๆ”
“ใช่ มีด.ร.ติงอยู่ ผลิตภัณฑ์ของเราจะต้องผลิตออกมาได้ตามเวลาที่กำหนด”
หลังจากเสียงตบมือที่ตื่นเต้นจบลง พนักงานในแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์ล้วนมองมาที่ด.ร.ติงด้วยความตื้นตันใจ
ด.ร.ติงคนนี้เป็นคนเก่งกาจที่มีความสามารถจริง เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาเคมี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอาง เครื่องสำอางที่ชื่อดังในประเทศส่วนมากเขาก็เคยไปเข้าร่วมพัฒนา
ถ้าหากว่าสามารถแสดงความสามารถตนเองต่อหน้าเขา ดีไม่ดีอาจจะถูกเขารับมาเป็นลูกศิษย์หรือช่วยแนะนำงานให้ ถึงตอนนั้นตนเองจะต้องได้มีชื่อเสียงแน่
“ทุกคนชมเกินไปแล้ว ก่อนที่ยังไม่ได้ไปเข้าใจปัญหานี้ ผมไม่อาจรับปากได้เลยครับ”ด.ร.ติงยิ้มแล้วพูดขึ้น
แต่ในใจเขา ก็ยังมีความเชื่อมั่นอยู่
ปัญหาทางเคมีของเครื่องสำอางไม่ค่อยมีปัญหาที่เขาจะแก้ไขไม่ได้
“ด.ร.ติง นี่เป็นเอกสารการวิจัยและผลการทดลองในช่วงหนึ่งปีนี้ของเรา”
เพื่อไม่ให้เอกสารเหล่านี้หลุดไหลออกไป ของเหล่านี้พวกเขาจะไม่เปิดเผยให้ใครเห็น ดังนั้นด.ร.ติงก็ไม่เคยเห็นเอกสารเหล่านี้มาก่อน
“ดี”
ด.ร.ติงรับเอกสารมาแล้วก็อ่านขึ้นมาทันที
ผ่านไปกี่ชั่วโมง
สีหน้าของด.ร.ติงไม่ค่อยดูดีมาก
เขามองไปยังซ่งชีงเหย็นด้วยความเสียใจ“คุณซ่ง ผมขอโทษนะ ปัญหาที่พวกคุณเจอในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ในประเทศเรายังไม่ได้แก้ แม้ในต่างประเทศก็ยังไม่มีวิธีที่สมบูรณ์มาแก้ไขเหมือนกัน....”
สีหน้าของซ่งชีงเหย็นเริ่มขาวซีด เพื่อได้ชวนด.ร.ติงมา เธอไปขอให้หลายคนช่วยแล้ว
เธอเอาความหวังทั้งหมดวางในตัวด.ร.ติง
ถ้าหากว่าด.ร.ติงก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของพวกเขาได้ งั้นก็หมายความว่าในประเทศนี้ไม่มีใครแก้ไขได้อีกแล้ว
ไม่ใช่นี่ ที่ด.ร.ติงพูดคือในต่างประเทศก็ยังไม่มีวิธีที่สมบูรณ์มาแก้ไข
นี่ไม่ใช่หมายความว่า ผลิตภัณฑ์สาวงามอดุลของเธอจะไม่สามารถทำได้อีก?งั้นบริษัทจะเอาอะไรไปพัฒนาขึ้นอีกหล่ะ?
“ด.ร.ติง ไม่มีวิธีแก้ไขแล้วจริงหรือคะ”เสียงของซ่งชีงเหย็นสั่นเล็กน้อย
ด.ร.ติงถอนหายใจ ครั้งนี้เขารู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย“พูดตามจริง ช่วงนี้ผมก็กำลังวิจัยปัญหานี้อยู่ ในใจผมก็มีแผนหลายแผน แต่ก็ยังต้องไปทดลองดูก่อน คงทดลองไปหลายต่อหลายครั้งก็ไม่อาจสำเร็จได้ ถึงจะสำเร็จได้ คงเป็นเวลาอีกหนึ่งปี สองปี หรือจะนานกว่านี้......”
อย่าว่าแต่สองปีแล้ว แม่หนึ่งปี บริษัทเธอก็รอไม่ไหวแล้ว
ซ่งชีงเหย็นหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง เอกสารในมือก็หลุดออกจากมือแล้วตกลงบนพื้น
เอกสารเหล่านั้นลอยกระจายออกไป
“นี่.....”
ด.ร.ติงมองดูเอกสารที่กระจายอยู่บนพื้น เมื่อมองเห็นลายมือเขียนวาดในนั้นก็ตะลึงงันทันที
ซ่งชีงเหย็นเพิ่งรู้สึกว่าตนเองเสียมารยาท เลยรีบขอโทษด.ร.ติง แล้วก้มตัวลงอยากไปเก็บเอกสารเหล่านั้น
ลายมือเหล่านี้ก็เป็นที่เฉินจิ้นอยากเอาคืนเธอแล้วตั้งใจเขียนเข้าไปตามอำเภอใจ
“เดี๋ยวก่อน”
ด.ร.ติงเหมือนได้กินยาบำรุงก็ไม่บาน กระโดดขึ้นจากเก้าอี้ แล้วรีบไปเก็บเอกสารเหล่านั้นขึ้นมา
“ใช่ ใช่แล้ว”
“ใช่อย่างนี้แหล่ะ ใช่อย่างนี้”
“ทำไมผมคิดไม่ออกว่ายังสามารถใช้วิธีแบบนี้ไปแก้ไข ผมนี่โง่จริงๆเลย”
“วัสดุสองประเภทนี้ผสมกันยังสามารถเกิดปฏิกิริยาทางเคมีแบบนี้ได้”
“ใช่ ในทางทฤษฎีเป็นไปได้จริงๆ วิธีที่ละลายแล้วค่อยหลอมรวมปะทะกันในประวัติศาสตร์เคมีไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย นี่จะต้องทำให้วงการเคมีเกิดความเคลื่อนไหวใหญ่แน่ และปัญหาหลายอย่างก็ได้แก้ไขไปอย่างง่ายๆ”
ยิ่งอ่านลงไป ด.ร.ติงก็ยิ่งตกใจ
ในปากก็พึมพำไม่หยุด
เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวตกใจ เดี๋ยวขมวดคิ้ว...สีหน้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนกับคนบ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน