จักรพรรดิมารหวนคืน นิยาย บท 81

บทที่ 81 ผลอันเลวร้าย

จนเจิ้งตงหยางลอยออกไปฉันงหลังประมาณเจ็ดแปดเมตรจนกว่าจะตกลงสู่พื้น

ระหว่างทางยังทิ้งร่องรอยเลือดสีแดงสดเอาไว้

หลังจากตกลงไปบนพื้นแล้ว เจิ้งตงหยางก็ทนไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่ามีชิ้นส่วนอวัยวะภายในแตกอยู่รำไร

การที่ถูกแทงในครั้งนี้ เจิ้งตงหยางได้รับบาดเจ็บสาหัส !

เห็นหน้าอกที่เต็มไปด้วยเลือดสดๆ ของตัวเอง มองเห็นแม้กระทั่งกระดูกซี่โครงอยู่รางๆ มีความรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทของเจิ้งตงหยาง

ในตอนนี้เขาจะยังอยู่ในชุดสีขาวปลิวไสวและหน้าตาอันหล่อเหลาเหมือนตอนแรกได้ซะที่ไหน

เจิ้งตงหยางได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนทักษะ “ล็อกนภา” ของเขาก็ใช้การไม่ได้แล้ว

ทุกคนๆ ต่างก็เริ่มหายใจกระหืดกระหอบ และได้รับอิสระกลับคืนมา

ยุทธวิธีของเจิ้งตงหยางนั้นช่างน่าหวาดกลัวเหลือเกิน !

ทว่าเมื่อสายตาของทุกๆ คนมองไปยังเฉินจิ้นก็ยิ่งหวาดกลัวเพิ่มขึ้นอีก

เฉินจิ้นน่ากลัวมากกว่าเจิ้งตงหยาง !

โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรมาจารย์จ่วยหลายคนที่อยู่ในฝูงชน รู้สึกลึกซึ้งเป็นพิเศษ

แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่น่าจะประหลาดใจที่สุดคือการที่ปรมาจารย์อีกหลายคนที่ยังซ่อนตัวอยู่ยังไม่ได้ปรากฏตัวออกมา

เจิ้งตงหยางไปภาคใต้และดึงดูดสายตามากมายขนาดนี้

มากไปกว่านั้นคือเฉินจิ้นอาจจะเป็นปรมาจารย์หนุ่มแกร่งกล้าผู้ลึกลับได้มาท้าประลองฝีมือด้วยชีวิตกับเจิ้งตงหยาง แล้วจะไม่มีปรมาจารย์สนใจได้อย่างไร

นอกจากปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทางใต้ทั้งสองคนที่กลัวการท้าทายจากเจิ้งตงหยางแล้ว ยังรวมถึงซาโป๋หยิน เซินหมิงเวย และเวินหงอี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาโป๋หยิน เซินหมิงเวย และเวินหงอี้มีความรู้สึกลึกซึ้งที่สุด

พวกเขาได้รับรู้ความร้ายแรงของยุทธวิธี “ล็อกนภา” ของเจิ้งตงหยาง

แม้แต่เวินหงอี้ที่เป็นถึงชั้นกลางปรมาจารย์ก็ยังได้รับผลกระทบบ้าง ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงซาโป๋หยินกับเซินหมิงเวยเลย

แต่การแสดงของเฉินจิ้นเมื่อกี้ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย มันช่างน่าเหลือเชื่อ !

หลังจากนั้นเฉินจิ้นได้ใช้ยุทธวิธีนั้นกลืนการโจมตีที่ได้รับ แล้วบีบอัดอยู่ในร่างกายจนถึงที่สิ้นสุดสุด จากนั้นก็ระเบิดสะท้อนกลับไป ยุทธวิธีนี้พวกเขาไม่เคยพบเห็น ทางทฤษฎีมันอาจมีความเป็นไปได้ แต่มันสุดแสนจะยากในทางปฏิบัติ

แม้แต่ปรมาจารย์ที่ต้องเผชิญกับการโจมตีของปรมาจารย์จ่วยก็ไม่กล้าทำเช่นนั้น นับประสาอะไรกับระดับเดียวกัน

ปรมาจารย์เหล่านี้มองไปที่เฉินจิ้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

......

......

เจิ้งตงหยางยืนขึ้นและมองไปที่เฉินจิ้นด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

เขาเป็นบุตรของพระคุณ

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกที่เป็นปรมาจารย์ แต่เขาก็มั่นใจว่าเขาเป็นคนที่เก่งกล้าที่สุด

เขามีหัวใจอยู่ยงคงกระพัน ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็สู้ฉันไม่ได้ !

ทว่าตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินจิ้นกลับได้รับความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

โฉมหน้าอันหล่อเหลาของเจิ้งตงหยางเริ่มดุร้าย

“เฉินจิ้น นี่คือคุณบังคับฉันเองนะ วันนี้จะเอาเลือดของคุณมาเซ่นสังเวยหัวใจอยู่ยงคงกระพันของฉันให้สาสม !”

เจิ้งตงหยางพูดตะคอกขึ้นไปโดยมิได้สนใจความบาดเจ็บที่หน้าอก

ในตอนแรกความทรงพลังของเขาค่อยๆ ถดถอย แต่ทันใดนั้นกลับมีความเปลี่ยนแปลงขึ้นมากะทันหัน แล้วจึงเหาะขึ้นสู่ยอดเขาอีกครั้ง

มิใช่เพียงเท่านั้น หลังจากไปถึงยอดเขาของตัวเองแล้ว มากไปกว่านั้นคือยังเพิ่มขึ้นอยู่รำไร

ทุกคนเห็น แต่เดิมทีเจิ้งตงหยางผู้หล่อเหลาไม่ได้ใครเทียบ ตอนนี้ทั่วทั้งตัวมีเนื้อและเลือดจางๆ บางส่วนเหี่ยวแห้งลง

ผิวเอิบอิ่มและเต็มเปี่ยมกลายเป็นเหี่ยวเฉา !

“นี่......นี่คือการเผาไหม้ของเลือด”

เวินหงอี้อุทานออกมาด้วยความตกใจ !

การเผาไหม้ของเลือด นี้เป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่ง เป็นการแผดเผาเลือดของตัวเราเองแล้วจะถูกบังคับให้เพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง หากใช้เคล็ดลับนี้โดยสนใจสิ่งใด สำหรับผู้ที่พรสวรรค์อาจจะถูกบังคับให้ยกระดับตนเองให้สูงขึ้น

และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจิ้งตงหยางเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่หาที่เปรียบมิได้

ม่านตาของเวินหงอี้หดลง หากเมื่อวานเจิ้งตงหยางได้ใช้การเผาไหม้ของเลือดสู้กับเขา แม้แต่เขาก็อาจจะพ่ายแพ้อยู่ในกำมือเจิ้งตงหยางก็เป็นได้

“นี่เขาบ้าไปแล้วเหรอ ?”

พวกเซินหมิงเวยต่างก็ตกอกตกใจไม่แพ้กัน

นี่มันแทบจะเหมือนการทำลายรากฐานของตนเอง

“สิ่งที่เจิ้งตงหยางต้องการมันยิ่งใหญ่มาก ทุกคนต่างก็คิดว่าหัวใจอยู่ยงคงกระพันสำเร็จแล้ว แต่สิ่งที่เขาไล่ล่าคือ หัวใจอยู่ยงคงกระพัน ที่สมบูรณ์แบบ การที่เขามาทางใต้ในครั้งนี้ คือมุ่งมั่นที่จะมาสังหารปรมาจารย์ท่านหนึ่ง ! สำหรับปรมาจารย์ท่านอื่นๆ ต่างก็มีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งมาก และมีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่กว้างขวาง แม้แต่ตระกูลเจิ้งในเมืองหลงก็มิกล้าที่จะไปมีปัญหาง่ายๆ เฉินจิ้นจึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างมิต้องสงสัย เขาปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหันและไม่ได้มีเบื้องหลังที่ใหญ่โต แน่นอนว่าจึงเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับการสังหารของเจิ้งตงหยาง”

“กุญแจสำคัญคือตอนนี้มิได้เกี่ยวข้องกับเบื้องหลังแล้ว แต่ถ้าหากเจิ้งตงหยางพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของเฉินจิ้น ถ้าเช่นนั้นการพยายามทุกวิถีทางก็จะเปล่าประโยชน์ทั้งสิ้น ดังนั้นแม้ว่าจะใช้การเผาไหม้ของเลือดที่ส่งผลกระทบต่อตนเอง เขาก็ต้องสังหารเฉินจิ้นให้ได้แน่นอน เพียงเท่านี้หัวใจอยู่ยงคงกระพันจึงจะสมบูรณ์แบบได้ ถ้าหากพ่ายแพ้แล้ว อย่าว่าแต่สมบูรณ์เลย หัวใจอยู่ยงคงกระพันของเขาจะต้องหักลงในทันที”

เวินหงอี้กล่าวออกไป

เห็นได้ชัดว่าเขามองมันได้อย่างชัดเจนมากขึ้นไปอีก

“ยิ่งไปกว่านั้น จากประวัติของตระกูลเจิ้งในเมืองหลวง แม้ว่าจะยังมีอาการแทรกซ้อนของการเผาไหม้ของเลือดที่ยังคงเหลืออยู่ แต่ก็สามารถชดเชยได้ มันจะไม่ทำลายรากฐานของเขามากเกินไป มากสุดก็เพียงแค่อ่อนแอไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับการที่สามารถบรรลุความสมบูรณ์ของหัวใจอยู่ยงคงกระพัน แล้ว การเสียสละเหล่านี้ก็คุ้มค่า”

“แม้ว่าเฉินจิ้นจะเก่งกล้า แต่ในครั้งนี้ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว”

ปรมาจารย์มองเห็นมันอย่างละเอียดถี่ถ้วน ส่วนผู้อื่นที่มองดูการสู้รบ แม้ว่าจะไม่เฉันใจสิ่งเหล่านี้

แต่เมื่อเห็นการเปลี่ยนอันทรงพลังที่ยิ่งน่าหวาดกลัวของเจิ้งตงหยาง ทุกคนจึงรู้เจิ้งตงหยางดูเหมือนจะเก่งกล้ากว่าเฉินจิ้นเสียอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน