บทที่ 82 คุณจะหนีไปได้เหรอ ?
เมื่อเห็นเงานี้ ปรมาจารย์ทุกคนที่ซ่อนตัวอยู่ต่างก็หยุดหายใจ
สำหรับชายชราในชุดคลุมสีเทา เป็นที่รู้จักกันดีในเหล่าปรมาจารย์ มิมีผู้ใดมิรู้ นี่คือขั้นสุดปรมาจารย์ผู้น่ากลัวแห่งตระกูลเจิ้งในเมืองหลวง เจิ้งหยางโป๋
ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียง เคยมียุคแห่งการวางอำนาจบาตรใหญ่
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน
ต่างก็ว่ากันว่ากำลังเก็บตัวถือศีล หวังว่าจะสามารถเฉันสู่ชั้นสูงสุดปรมาจารย์ !
แต่ตอนนี้กลับมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่
ทันใดนั้นพวกเวินหงอี้จึงเฉันใจได้ในทันที
เจิ้งตงหยางเป็นคนที่อัจฉริยะมาก
เป็นอัจฉริยะในระดับร้อยปีก็ยากที่จะได้พบเจอ แม้แต่ตระกูลเจิ้งในเมืองหลวงหรือหวาเสี้ย
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเจิ้งตงหยางมิอาจมีใครเทียบเทียมได้ และยังเป็นคนของตระกูลเจิ้งในเมืองหลวง การที่เขามาทางใต้ในครั้งนี้ แทบจะเป็นไม่ได้เลยที่จะเกิดอันตรายใดๆ แต่ปีศาจของตระกูลเจิ้งนี้ยังคงแอบปกป้องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ตอนนี้ความเป็นไปได้หนึ่งในหมื่นก็ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
ทันใดนั้นพวกปรมาจารย์เวินหงอี้ที่ซ่อนตัวอยู่ก็ทยอยปรากฏตัวขึ้น แล้วเดินไปยังสนาม
“เวินหงอี้แห่งเจียงหนาน ขอคารวะคุณเจิ้ง”
“ซาโป๋หยินแห่งเมืองเย็น ขอคารวะคุณเจิ้ง”
“เซินหมิงเวยแห่งเมืองเซียง ขอคารวะคุณเจิ้ง”
“หลิวหยวนซู่แห่งหยูนเจียง ขอคารวะคุณเจิ้ง”
......
แม้ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ปรมาจารย์ที่ซ่อนตัวอยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วมาคารวะต่อเจิ้งหยางโป๋
สีหน้าของเจิ้งหยางโป๋มืดครึ้ม แล้วพยักหน้าเล็กน้อยถือเป็นการตอบแทน
ส่วนพวกปรมาจารย์จ่วยที่อยู่ฉันงนอกก็มองออกว่าเป็นเจิ้งหยางโป๋
เห็นเหล่าปรมาจารย์ปรากฏตัวออกมาเรื่อยๆ มากมายขนาดนี้ ก็อยากจะก้าวไปฉันงหน้า แต่สุดท้ายก็หยุดก้าวเท้าลง
พวกเขายิ้มอย่างขมขื่นโดยไม่รู้ตัว พวกเขาเองก็อยากจะเดินไปคารวะ แต่ก็ไม่ได้มีคุณสมบัตินี้
แน่นอนว่าผู้คนจำนวนมากต่างก็งงงวย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ สร้างความตกใจให้กับทุกคนครั้งแล้วครั้งเล่า
เสิ่นเสี้ยงหรุงมั่นใจมากเสมอว่าเฉินจิ้นจะสามารถต่อกรกับเจิ้งตงหยางได้ ในที่สุดสีหน้าตอนนี้ก็มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
แม้ว่าหลังจากบรรพบุรุษมา ตระกูลเสิ่นจะไม่มีปรมาจารย์แล้วก็ตาม แต่สิ่งที่สืบสานกันมามากกว่าร้อยปีคือตระกูลใหญ่แห่งบูโด สำหรับเรื่องของแดนบูโด เสิ่นเสี้ยงหรุงที่เป็นปรมาจารย์จ่วยรู้เป็นอย่างดี
ชายชราในชุดคลุมสีเทาที่อยู่ตรงหน้านี้เขาก็รู้จักโดยธรรมชาติ
ชื่อเสียงและความสามารถที่น่ากลัวของเขา เสิ่นเสี้ยงหรุงก็รู้อย่างเป็นธรรมชาติ
จากปรมาจารย์เหล่านี้ที่พากันปรากฏตัวแล้วไปคารวะ ก็เห็นได้ว่าไม่ธรรมดา
แม้แต่ซ่งชีงเหย็น หวางเม่ยอวูที่ไม่ใช่คนในแดนบูโด ไม่รู้ว่าเจิ้งหยางโป๋เป็นใคร แต่จากการเปลี่ยนแปลงในสนาม ก็สามารถมองออกได้ว่าคนคนนี้น่ากลัวมากเพียงใด
จากนั้นจึงได้กังวลขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว
มีเพียงแต่ปีศาจลามกเว่ยอูซินกับฮุยโสงที่ยังมองไปในสนามด้วยสายตาที่แน่วแน่เช่นเดิม
พวกเขาเชื่อมั่นว่านายท่านของพวกเขาทำได้ทุกอย่าง
นายท่านเฉินจิ้นทรงพลังที่สุด !
……
……
“ไอ้ขี้ขลาด ในที่สุดคุณก็ปรากฏตัวแล้วสินะ ฉันคิดอยู่ว่าคุณจะอดทนได้ถึงเมื่อไหร่ ?”
เฉินจิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“คุณนี่สังเกตเห็นพ่อเฒ่าด้วยเหรอ ?”
ใบหน้าอันมืดครึ้มของเจิ้งหยางโป๋ปรากฏขึ้นด้วยสีไม่คาดคิด
“คุณคิดว่าคุณฉลาดมากเหรอที่ซ่อนตัวอยู่ใน วิชาเร้นกาย นั่นมันก็แค่ฝีมือระดับต่ำต้อย !”
เฉินจิ้นหัวเราะเยาะ
ทันใดนั้นพวกปรมาจารย์เวินหงอี้ก็แสดงสีหน้ากระดากอาย
เห็นด่าเฉินจิ้นจะรู้ถึงการซ่อนตัวของพวกเขามานานแล้ว
ในรูปลักษณ์ที่กระดากอายของพวกปรมาจารย์เผยสีหน้าหวาดกลัวอยากลึกล้ำ
แม้แต่เวินหงอี้ที่เป็นชั้นกลางปรมาจารย์ก็ยังสังเกตการณ์ซ่อนตัวของเจิ้งหยางโป๋ไม่ได้
ทว่าเฉินจิ้นรู้มานานแล้ว นี่มันหมายความว่าอะไร ?
ทุกคนย่อมรู้กันเป็นอย่างดี
“คุณเด็กสารเลว คุณนี่แข็งแกร่งมากเลยนะ แข็งแกร่งมากกว่าตงหยางเสียอีก เขาพ่ายแพ้ให้คุณมันก็ไม่ผิด แต่คุณไม่ควรฆ่าเขา มากไปกว่านั้นไม่ควรไปหลอมร่างกายของเขา ! คุณนี่ยั่วยุความน่าเกรงขามของตระกูลเจิ้งของฉัน คงอยากตายสินะ !”
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามาโทษว่าฉันสังหารอัจฉริยะก็แล้วกัน !”
สีหน้าของเจิ้งหยางโป๋ยังคงมืดครึ้มเช่นเดิม
ถ้าเจิ้งตงหยางเพียงแค่พ่ายแพ้ให้กับเฉินจิ้น เขาจะไม่ปรากฏตัวเลย !
ตั้งแต่เจิ้งตงหยางออกจากเมืองหลวง เขาก็แอบติดตามไปตลอดทาง แต่เจิ้งตงหยางไม่รู้ ถ้าหากเจิ้งตงหยางรู้เฉัน ใจในจะมีความคิดพึ่งพาเกิดขึ้น จะรู้สึกว่าไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เขาก็จะไม่เกิดอันตรายอย่างแน่นอน ถ้าเช่นนั้น หัวใจอยู่ยงคงกระพัน จะไม่มีทางสมบูรณ์แบบไปได้เลย
ส่วนการที่เจิ้งหยางโป๋ติดตามมาก็เป็นเพราะฝึกซ้อมนานเกินไป แต่ไม่ได้มีการพัฒนา จึงมีอารมณ์ชั่ววูบที่จะอยากออกมาสูดอากาศ
ทว่าในตอนนี้เขากลับรู้สึกโชคดีมาก โชคดีที่ตนเองตามมา ไม่เช่นนั้นความหวังในอีกร้อยปีหน้าของตระกูลเจิ้งของพวกเขา อัจฉริยะที่อาจก้าวถึงแดนเสินคงต้องตายอยู่ที่เจียงเป่ยเสียแล้ว
ส่วนปรมาจารย์ท่านอื่นๆ แม้ว่าจะได้มาคารวะต่อเจิ้งหยางโป๋ แต่เห็นได้ว่าพวกเขาไม่ได้อยากจะมีส่วนร่วมในความบาดหมาง
หลังจากที่ได้คารวะกับเจิ้งหยางโป๋แล้ว ต่างก็ถอยออกไปทีละคน
ในสนามเหลือเพียงแค่เฉินจิ้นกันเจิ้งหยางโป๋สองคน
เจิ้งเหยางโป๋กวัดแก่วงมือ ทันใดนั้นก็มีกำลังชี่ที่ทรงพลังตัดผ่านอากาศแล้วยิงไปที่โลงศพ
เมื่อเฉินจิ้นเห็นก็หัวเราะเยาะขึ้นมา
แค่เพียงดีดนิ้ว กำลังชี่ของเจิ้งหยางโป๋ก็ระเบิดขึ้นบนอากาศ
“คุณเด็กสารเลว วันนี้ไม่มีใครที่สามารถช่วยคุณได้ !”
เมื่อเห็นเช่นนี้สีหน้าของเจิ้งหยางโป๋ก็ยิ่งมืดมนยิ่งขึ้นไปอีก แล้วตะโกนออกไปว่า “วันนี้จะทำให้คุณได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าล็อกนภาที่แท้จริง !”
ในเวลาเดียวกันก็มีพลังอย่างหนึ่งที่ระเบิดออกมาแล้วทำให้พวกปรมาจารย์เวินหงอี้หวาดกลัวขึ้น
“ถอย !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน