จักรพรรดิมารหวนคืน นิยาย บท 90

บทที่ 90 ขออภัย

หากไม่มีเจิ้งหงจื๋อ ชั้นสูงสุดปรมาจารย์ท่านนี้ โม้ซื่อ เจิ้งหยางโป๋จึงได้กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเจิ้ง ในตอนแรกลำดับชั้นญาติของเขาก็เป็นรองแค่เจิ้งหงจื๋อกับเจิ้งเจี้ยนหัว

ดังนั้นเขาจึงสั่งให้โม้หลัว เจิ้งตงหยาง เป็นหัวหน้าครอบครัว มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

ส่วนเจิ้งหงจื๋อถูกเฉินจิ้นปิดผนึกกำลังภายในแล้ว จึงกลายเป็นเพียงตาเฒ่าธรรมดาๆ คนหนึ่ง แล้วปล่อยให้เขาเพลิดเพลินกับเวลาชีวิตที่เหลืออย่างสันโดษ

จากนั้นเฉินจิ้นจึงได้ฝึกซ้อมอยู่ในตระกูลเจิ้งหลายวัน เพื่อหลอมพลังแห่งศรัทธาที่อยู่ในรูปปั้นทองคำ จากนั้น จิตเสินของเขาก็ได้แข็งแกร่งมากขึ้นพอที่จะปกคลุมพื้นที่พันกิโลเมตร

สถานที่ที่จิตเสินไปถึง แม้ว่าจะเป็นหนวดของมดกระตุกเพียงเล็กน้อย เฉินจิ้นก็สามารถรู้ได้อย่างชัดเจน

หลังจากดูดซับเสร็จเรียบร้อย เฉินจิ้นก็วางรูปปั้นทองคำกลับไปที่เดิมอย่างเงียบๆ แล้วปล่อยให้ผู้คนของตระกูลเจิ้งบูชาต่อไปทุกวัน !

แม้ว่าแดนจะไม่เฉันสายตาเฉินจิ้น แต่ภาพลักษณ์บรรพบุรุษแดนเสินของตระกูลเจิ้งท่านนั้นได้หยั่งรากลึกอยู่ในใจของคนในตระกูลเจิ้ง

เฉินจิ้นก็ไม่ได้ไปแทรกแซง รอให้พลังแห่งศรัทธาในรูปปั้นทองคำสะสมจนถึงปริมาณแล้วเขาจึงค่อยมาหลอมก็ได้

หลังจากเฉินจิ้นดูดซับรูปปั้นทองคำแล้วจึงออกจากการฝึกซ้อม เจิ้งหยางโป๋จึงรีบจัดหาสาวงามที่เป็นลูกหลานของตระกูลเจิ้งหลายคนมาเป็นเพื่อนเฉินจิ้น

แต่ละคนอยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ

สามารถพูดได้ว่าสร้างความหายนะแก่บ้านเมืองและประชาชน

เป็นผลพวงให้ลูกหลานของตระกูลเจิ้งหลายคน รวมถึงทายาทเศรษฐีของเมืองหลวงที่ได้ถือเป็นเทพธิดาแทบน้ำลายไหลยืด

ส่วนเฉินจิ้นเมื่อรู้แล้วก็ส่ายหัวปฏิเสธ

ไม่ใช่ผู้หญิงคนใดก็มีคุณสมบัติได้ขึ้นเตียงของคุณแห่งโลกปีศาจได้ !

ก่อนหน้านี้ค่ายปกป้องจวนของตระกูลเจิ้งถูกเฉินจิ้นทำลายลง เฉินจิ้นจึงได้เขียนรายการหนึ่งใบ แล้วให้ตระกูลเจิ้งไปรวบรวมชิ้นส่วนมา เฉินจิ้นจะสร้างค่ายที่มีชุดป้องกันและโจมตีให้กับตระกูลเจิ้งใหม่ ก่อนที่เขาจะจากเมืองหลวงไป

หลังจากได้ข่าวนี้แล้วจึงได้ดุ่มๆ ไปสั่งให้รวบรวมชิ้นส่วน

ต่อมา เฉินจิ้นก็นึกไม่ถึงเลยว่าโทรศัพท์ของเขาจะดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ตั้งแต่เขาเกิดใหม่ สำหรับเขาแล้วแทบจะพูดได้ว่ามีโทรศัพท์ก็เหมือนไม่มี ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้ต้องมาเมืองหลวงแล้วให้คนที่อยู่เจียงโจวติดต่อเขาได้สะดวก มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะถือโทรศัพท์ นับประสาอะไรกับชาร์จโทรศัพท์มือถือ

เฉินจิ้นเห็นชื่อแสดง : ไอ้อ้วน !

คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็คลายลงอีกครั้ง

“ไอ้อ้วน !” เฉินจิ้นรับสายแล้วจึงได้เรียกออกไปหนึ่งคำ

ไอ้อ้วนคนนี้เขานามว่าลู่หยวน เติบโตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาด้วยกันกับเฉินจิ้น หากพูดว่าเฉินจิ้นคนเดิมยังมีเพื่อนแท้บนโลกนี้ ถ้าเช่นนั้นนับลู่หยวนเป็นคนหนึ่ง

“อะไรวะเนี่ย พี่ใหญ่ จริงๆ แล้วคุณยังจำฉันได้ด้วย เดือนที่ผ่านมานี้โทรศัพท์คุณโทรไม่เคยติดเลย ฉันคิดว่าคุณระเหยไปบนโลกนี้แล้วเสียอีก”

ทันใดนั้นเสียงตื่นเต้นก็ดังมาจากฝั่งตรงฉันม

“ไอ้เหี้ย พี่ใหญ่ ฉันจะบอกคุณว่าฉันเพิ่งจีบสาวคนหนึ่ง แถมยังเป็นเศรษฐินีน้อยด้วย ฉันพยายามน้อยกว่ายี่สิบปีก็ยังเอามาได้ ฮ่าๆๆ ฉันจะเลียนแบบคุณ เฉันไปเป็นเขยบ้านคนรวย จากนั้นก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าและอาหาร !”

เฉินจิ้นกุมหน้าผากไว้ แม้ว่าเขาจะไม่เคยเจอลู่หยวนคนนี้ แต่จากภาพความทรงจำของคุณของเดิม ลักษณะของลู่หยวนก็ปรากฏขึ้นในสมอง

“ยินดีด้วยนะๆ หลังจากนี้พวกเราก็ไปเกาะผู้หญิงกินด้วยกันนะ !”

เฉินจิ้นพูดออกไปอย่างไม่พอใจ

เนื่องจากลู่หยวนเป็นเพื่อนสนิทของคุณของเดิม ตั้งแต่เฉินจิ้นได้ใช้ร่างกายนี้ต่อแล้วก็มีความรู้สึกที่ดีต่อเขา

“ดีเลย นอกจากสามารถเกาะผู้หญิงกินด้วยกันแล้ว ถ้าคุณว่างก็มาเมืองหลวงนะ ฉันจะชวนคุณไปกินอาหารป่าและอาหารทะเลที่มีค่า พาคุณไปเที่ยว......”

เสียงในโทรศัพท์ตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ได้ยินแค่เสียง เฉินจิ้นก็รู้สึกได้ว่าฝ่ายตรงฉันมยิ้มแย้มแจ่มใส

“ตอนนี้ฉันอยู่เมืองหลวง !”

เฉินจิ้นพูดออกไปช้าๆ

ทันใดนั้นฝ่ายตรงฉันมก็หยุดการหายใจ

“ไอ้เหี้ย ถือเสียว่าฉันไม่ได้พูดนะ......ไม่ใช่ ทำไมคุณไม่บอกตั้งแต่แรก !”

......

......

“พี่ใหญ่ ตรงนี้ !”

เมื่อเฉินจิ้นมาถึงสถานที่ที่ได้นัดกับลู่หยวนแล้ว ก็มองเห็นชายหนุ่มที่อ้วนเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีผลกระทบต่อรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาต่อเขา กำลังโบกมือให้เขาไม่หยุด

ฉันงๆ เขามีสาวงามขายาวคนหนึ่งที่แต่งตัวตามสมัยนิยม

เฉินจิ้นยิ้มขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เร่งฝีเท้าขึ้นไปด้วย

ห่างกันยี่สิบกว่าเมตร ไม่กี่พริบตาเฉินจิ้นก็มาถึง

ลู่หยวนตื่นเต้นเกินไป จนสังเกตไม่เห็นถึงยุทธวิธีดำดินรุกคืบของเฉินจิ้น

ส่วนสาวสวยขายาวนั้นไม่ได้ให้ความสนใจกับเฉินจิ้นแม้แต่น้อย นับประสาอะไรกับสังเกตได้

“พี่ใหญ่ ขอแนะนำให้คุณนะ คนนี้เป็นของฉันเอง ซูมั่นเฟย”

ลู่หยวนชี้ไปที่ผู้หญิงฉันงๆเขาแล้วพูดขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน