บทที่ 135 ตกลงแกเป็นใครกันแน่
นี่คือจีวองชี่ของแท้?
กู้ชิงหลินไม่เชื่อเลยสักนิด
แต่คนที่พูดประโยคนี้ออกมาคือผู้จัดการร้านเรือธงจีวองชี่ สิ่งที่เขาพูดนั้นศักดิ์สิทธิ์กว่ากู้ชิงหลินอยู่มาก
อย่างน้อยคนที่พูดว่าชุดจีวองชี่เป็นของแท้หรือของปลอมนั่น ไม่มีใครในที่นี้เทียบได้โดยสิ้นเชิง
“นี่มันเป็นของแท้ได้หรือ? เขาจนเสียยิ่งกว่าอะไร จะสามารถซื้อจีวองชี่ได้อย่างไร?! ถ้าทั้งชุดนี้เป็นของแท้ แล้วมันราคาเท่าไหร่!”
กู้ซิงเว๋ยโมโหจนดวงตาทั้งสองข้างแทบพ่นไฟออกมา
ถ้าหากว่าดวงตาทั้งสองข้างสามารถพ่นไฟออกมาได้จริง ๆ กู้ซิงเว๋ยจะต้องใช้สายตาพ่นเปลวไฟออกมาเผาชุดบนตัวของหลี่โม่จนกลายเป็นขี้เถ้าแน่ ๆ ให้หลี่โม่ได้รู้ว่าตนเกลียดเขาอย่างไร ให้เขาเปลือยกายล่อนจ้อน
“ชุดบนร่างกายของแขกกิตติมศักดิ์ท่านนี้ เป็นชุดที่ใช้โชว์ในงานแฟชั่นโชว์ที่ออกมาล่าสุดของจีวองชี่ มีแค่หนึ่งร้อยชุดทั่วโลก ในจีนแผ่นดินใหญ่มีโควตาแค่ห้าชุดเท่านั้น นี่เป็นหนึ่งในนั้น ราคาคือเก้าแสนเก้าหมื่นเก้าพัน”
กู้ซิงเว๋ยนิ่งในทันใด แม่มึงเถอะ นี่มันชุดอะไรเกือบจะล้านหนึ่ง เพียงพอที่จะซื้อรถหรู ๆ ได้หนึ่งคันเลยนะ!
สีหน้าของกู้เจี้ยนหมินและหวังฟางประหลาดใจอยู่บ้าง ในขณะเดียวกัน ในใจก็เกิดคำถามหนึ่งขึ้นมาว่าหลี่โม่จะใส่เสื้อผ้าที่มีราคาแพงขนาดนี้ได้อย่างไร?
เมื่อก่อนหลี่โม่ยากจนอย่างไม่มีอะไรเทียบ กู้เจี้ยนหมินสามีภรรยารู้ชัดเจนดี!
ถ้าหากหลี่โม่มีกำลังที่จะสวมใส่เสื้อผ้าที่หรูหราขนาดนี้ได้จริง ๆ ทำไมถึงจำเป็นจะต้องกล้ำกลืนฝืนทนให้คนอื่นทำให้อับอายด้วย
กู้หยุนหลันเองก็นิ่งไป สายตาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นไม่แน่ใจ อย่างไรก็ไม่เชื่อว่านี่เป็นของแท้
ฮั่วเจี้ยนเฟิงอับอายจนกลายเป็นโทสะ คิดปัญหาอย่างหนึ่งออกในทันที หรือว่าหลี่โม่จะจ่ายเงินให้กับผู้จัดการร้านคนนี้เหมือนกัน?
ยิ่งคิด ฮั่วเจี้ยนเฟิงก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ ตนสามารถออกเงินหนึ่งหมื่น ไม่แน่นะ หลี่โม่อาจจะยอมจ่ายเงินสองหมื่นเพื่อรักษาหน้าตาของตนเอาไว้ ไม่แน่อาจจะถึงสามหมื่น
“คุณรับเงินของเขามาแล้วใช่ไหม? คุณรับเงินมาเท่าไหร่ ผมให้คุณสองเท่าเลย ไม่สิ สามเท่า! ขอเพียงคุณพูดว่าชุดของเขาเป็นของก๊อป!”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงจ้องผู้จัดการร้านด้วยใบหน้าดุร้าย
ผู้จัดการร้านเบะปาก ในใจก็คิดว่าพวกเขาสมองทึ่ม ฉันจะไม่ผิดใจกับผู้ยิ่งใหญ่ตรงหน้านี้หรอก เขาไม่โง่ขนาดนั้น
“พูดจาให้มันดี ๆ หน่อยคุณ จุดประสงค์ของพวกเราจีวองชี่คือการบริการลูกค้าอย่างสุดจิตสุดใจ ผมจะไร้จิตสำนึกเพราะเงินได้อย่างไรกัน อาศัยชุดบนตัวของเขา ไม่ว่าจะไปจีวองชี่สาขาไหน ก็ล้วนแต่เป็นแขกผู้มีเกียรติสูงส่งของเรา เป็นพระเจ้าในใจของพวกเรา”
ผู้จัดการร้านพูดด้วยท่าทีสูงส่ง ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและความน่าเกรงขามจนแทบจะมีออร่าความศักดิ์สิทธิ์ออกมา
ฮั่วเจี้ยนเฟิงแค้นในใจจนเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีใครไม่ไว้หน้าเขาเช่นนี้... ไม่สิ ดูเหมือนเมื่อครู่ก็โดนหวงเหวินจิ่นตบจนไม่เหลือหน้าเลยสักนิดแล้ว
“พระเจ้า ท่านอยากจะพักผ่อนหรืออยากจะดูเครื่องแต่งกายคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดของพวกเรา? เสี่ยวปิง เสี่ยววี่ เสี่ยวเหม่ย พวกเธอรีบมาดูแลพระเจ้าของพวกเรา”
ผู้จัดการร้านเผยรอยยิ้มประจบสอพลอหลี่โม่ จากภาพลักษณ์ที่เป็นผู้จัดการร้านที่สมบูรณ์แบบ ชั่วพริบตาก็เปลี่ยนท่าทางเป็นพนักงานเรียกแขกในซ่องโสเภณี
เห็นแก่ที่หลี่โม่เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของประธาน ฯ หวง ขอเพียงหลี่โม่บอกเป็นนัย ๆ ผู้จัดการร้านไม่เพียงแต่ส่งพนักงานสาวสวยของร้านไปแนะนำขายสินค้า กระทั่งยินดีจะเก็บสบู่ให้กับหลี่โม่ เปลี่ยนท่าเปลี่ยนทางตามที่หลี่โม่ต้องการ!
ลองได้ใกล้ชิดกับหลี่โม่แล้ว นั่นก็เทียบเท่ากับการได้เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของประธาน ฯ หวงไปครึ่งตัว! ต่อไปก็สามารถเดินกร่างในเมืองฮ่านได้แล้ว!
มีใครบ้างที่ไม่มีความฝันที่อยากจะเดินกร่างในบ้านเกิดล่ะ!
ขอเพียงมีโอกาสใครก็อยากจะเป็นคนที่หล่อและเท่ที่สุดในบ้านเกิดกันทั้งนั้นแหละ
พนักงานสาวสวยสามคนเดินไปพูดคุยหัวเราะต่อกระซิกกันไปทางหลี่โม่ ค่อย ๆ เผยรอยยิ้มหวานหยดไปให้หลี่โม่ แขกกิตติมศักดิ์ที่ทำให้ผู้จัดการร้านตื่นเต้นขนาดนี้นั่นจะต้องเป็นบุคคลมีชื่อเสียงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
พนักงานในร้านขายของฟุ่มเฟือยเช่นนี้ ใครบ้างไม่อยากผูกสัมพันธ์ ฝันอยากจะเป็นหงส์โบยบินไปอยู่บนยอดไม้ เห็นกิ่งไม้สูงอยู่ตรงหน้า เช่นนั้นแน่นอนว่าต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่สุดตัวมายั่วยวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...