บทที่ 134 ของแท้
ในตอนนี้ กู้ชิงหลินใช้สายตาที่หยาบคายมองหลี่โม่!
ตามองหลี่โม่ที่ออกหน้าออกตาอย่างใหญ่หลวงในงานเลี้ยงวันเกิด กู้ชิงหลินจะกลืนความโมโหนี้ไว้ได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ได้เห็นหวงฝูชิงแสดงท่าทีเคารพนบนอบต่อหลี่โม่ก็ยังเพิ่มความไม่พอใจอีกเรื่องเข้าไปในใจของกู้ชิงหลิน อยากจะเหยียบย่ำหลี่โม่ให้เต็มสองเท้าอย่างหาคำอธิบายไม่ได้
ดูเหมือนว่าในตอนนี้ ที่ที่สามารถเหยียบย่ำได้บนร่างกายของหลี่โม่จะมีเพียงแค่ชุดแฟชั่นลิมิเต็ดอิดิชั่นจีวองชี่ของก๊อปเท่านั้น
ได้ยินเสียงตะโกนของกู้ชิงหลิน ฮั่วเจี้ยนเฟิงและกู้ซิงเว๋ยก็ล้วนพากันหยุดก้าวเดิน ทั้งสองคนใช้สายตาที่ไม่ดีมองไปที่หลี่โม่
กู้ซิงเว๋ยอยากดูเรื่องสนุก ๆ โดยเฉพาะ เมื่อครู่ทั้งหวาดกลัวและกังวลจนทานอาหารได้ไม่เต็มที่ หลังมื้ออาหารในตอนนี้ หากได้เหยียบย่ำหลี่โม่เสียหน่อย ก็จะสามารถชดเชยความกังวลและหวาดกลัวเมื่อครู่ไปได้
ยิ่งความคิดของฮั่วเจี้ยนเฟิงยิ่งแล้วใหญ่ เห็นได้ชัดว่าการพนันกันก่อนหน้านี้ของหวังฟางและหลี่โม่จะเกี่ยวกับเรื่องการหย่าของหลี่โม่
ขอเพียงพิสูจน์ได้ว่าเสื้อผ้าของหลี่โม่เป็นของเก๊ เช่นนั้นหลี่โม่จะต้องหย่ากับกู้หยุนหลันโดยปริยาย
คิดมาถึงตรงนี้ ลมหายใจของฮั่วเจี้ยนเฟิงก็ถี่กระชั้นขึ้น นัยน์ตาเปล่งประกายระยิบระยับ
หวังฟางยืนอยู่ตรงข้ามกับหลี่โม่ หัวเราะอย่างเยือกเย็นและพูดว่า “หลี่โม่ พวกเราไปห้องเสื้อกันสักหน่อยเถอะ”
“คุณน้า พวกเราไปห้างสรรพสินค้านานาชาติจงเม่ากันเถอะ ที่นั่นมีร้านเรือธงของจีวองชี่ จะต้องยืนยันได้แน่ ๆ ว่าชุดของเขาเป็นของแท้หรือของปลอม”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดอย่างตื่นเต้น
ร้านเรือธงของจีวองชี่ในห้างสรรพสินค้านานาชาติจงเม่าเป็นที่ที่ฮั่วเจี้ยนเฟิงมักจะไปจับจ่ายใช้สอยอยู่บ่อย ๆ สนิทสนมกับผู้จัดการสาขาของที่นั่นดี ครั้งนี้ไม่ว่าหลี่โม่จะสวมชุดของแท้หรือของปลอม ฮั่วเจี้ยนเฟิงก็จะให้ผู้จัดการสาขาพูดว่าเป็นของปลอม แค่จ่ายเงินนิดหน่อยเท่านั้น!
หวังฟางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เจี้ยนเฟิงขับรถให้น้าหน่อยนะ หยุนหลันก็มานั่งด้วยกัน หลี่โม่ นายไปเองแล้วกัน อย่าให้พวกเราต้องรอนานเกินไปล่ะ!”
หวังฟางลากกู้หยุนหลันเดินไปที่รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูของฮั่วเจี้ยนเฟิง กู้หยุนหลันดิ้นรนอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่กล้าออกแรงมาก สุดท้ายก็ทำได้เพียงถูกหวังฟางลากไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง
กู้ชิงหลินมองหลี่โม่อย่างดูถูก สองมือกอดอกพูดว่า “สวะอย่างแกอย่าคิดว่าโชคดีได้ออกหน้าออกตาก็จะกลายเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้ พอถึงห้องเสื้อจีวองชี่ก็รีบยอมรับว่าตัวเองใส่ของเก๊เสียเถอะ ไม่อย่างนั้นคนที่จะขายหน้าก็คือแก”
“ฮ่า ๆ ๆ อย่างเจ้าดินเละ ๆ นี่จะยังมีหน้ามีตาอะไร หน้าตาของเขาอยู่บนพื้นมาตั้งแต่แรก ฉันจะรอดูว่าแกจะร้องไห้คร่ำครวญอย่างไร”
กู้ซิงเว๋ยพูดจบก็ถ่มน้ำลายออกมาจากปาก เชิดหน้ายิ้มและเดินไปขึ้นรถของตน
หลี่โม่ยิ้มอย่างเยือกเย็นเดินไปข้างถนนอย่างช้า ๆ รีบโบกรถไปยังร้านเรือธงจีวองชี่
เมื่อหลี่โม่รีบเดินทางมาถึงร้านเรือธงจีวองชี่ เห็นพนักงานกำลังต้อนรับพวกของฮั่วเจี้ยนเฟิงอย่างกระตือรือร้นเข้าพอดี
ฮั่วเจี้ยนเฟิงชี้ไปที่แถวแรกของเครื่องแต่งกายสตรีคอลเล็กชั่นล่าสุดแล้วถามว่า “หยุนหลัน เธออยากลองดูสักหน่อยไหม พวกคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดนี่ดี ๆ ทั้งนั้นเลยนะ เธอสวมแล้วจะต้องดูดีมาก ๆ แน่ ๆ”
“ฉันไม่สนใจ และฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องสวมชุดพวกนี้”
กู้หยุนหลันพูดด้วยความเศร้าซึม
แค่คิดถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานต่อจากนี้ กู้หยุนหลันก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ความสนใจอะไรตอนนี้เธอไม่มีมันทั้งนั้นแหละ
กู้ชิงหลินมองแล้วรู้สึกปวดใจ ขณะที่สายตามองไปมองมานั้นก็เห็นหลี่โม่เข้ามาอย่างพอดิบพอดี
“ไอ้สวะมาแล้ว ดูสภาพเขาสิ สวมชุดทองยังไม่เหมือนจักรพรรดิ สวมของก๊อปทั้งตัวอย่างกับแรงงานชาวบ้านที่เพิ่งเข้าเมือง”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงยิ้มเย็น หันหน้าไปหาผู้จัดการร้านจีวองชี่ข้าง ๆ ส่งสายตาไปให้ผู้จัดการร้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...