จักรพรรดิมังกร นิยาย บท 133

บทที่ 133 อาหารฟรีสี่ล้าน

คุณหลี่?

ทุกคนตกตะลึง หลังจากนั้นก็คิดทันทีว่าในห้องส่วนตัวนี้คนที่แซ่หลี่มีใครบ้าง

ไม่ต้องคิดให้ละเอียด คนแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คือหลี่โม่

ขวับ ขวับ ขวับ!

สายตาตกตะลึงของทุกคนมองไปยังหลี่โม่ ทุกคนรู้สึกราวกับขาดอากาศหายใจ!

วันนี้เจ้าพ่อพวกนี้เป็นบ้าอะไรกันไปหมด ทำไมทุก ๆ คนต่างมีความสัมพันธ์กับหลี่โม่กันหมดแล้ว?

“ทั้งโต๊ะนี้มอบให้กับหลี่โม่? ท่านประธานอู๋ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหมครับ หลี่โม่เขามีดีอย่างไรถึงทำให้ท่านประธานอู๋มอบอาหารชุดที่ยิ่งใหญ่ทั้งโต๊ะเช่นนี้”

กู้เจี้ยนหมินถามแก้มกระตุก ในใจก็คิดว่าหรือหลี่โม่จะมีความคิดชั่วร้ายอะไรอีก

หลี่โม่มองอู๋เต้าเหวินปราดหนึ่ง ชั่วขณะที่สายตามองสบกัน อู๋เต้าเหวินก็เข้าใจอย่างชัดเจนแล้วว่าตนควรจะจากไปแล้ว ถ้าหากยังไม่ไปอีก เกรงว่าหลี่โม่ที่อยู่ตรงหน้าจะกลืนเขาเข้าไปทั้งเป็น

“ไม่ได้ล้อเล่นจริง ๆ ครับ ผมยังมีธุระต้องขอตัวก่อน เชิญทานกันตามสบายครับ”

อู๋เต้าเหวินค้อมกายลง ถอยหลังกลับออกไปจากห้องส่วนตัว จากไปจากห้องส่วนตัวได้สิบกว่าเมตรก็พ่นลมหายใจออกมายาว ๆ ครั้งหนึ่ง

เมื่อครู่ตอนที่โดนหลี่โม่มองมา เสือร้ายอย่างอู๋เต้าเหวินก็กลั้นลมหายใจไว้ ไม่กล้าถอนมันออกมา

“เป็นมนุษย์นั้นยากเสียจริง แม้แต่ส่งของกำนัลยังยากถึงเพียงนี้”

หลังจากที่อู๋เต้าเหวินพึมพำประโยคนี้เสร็จก็เพิ่มความเร็วของย่างก้าวจากไป

ภายในห้องส่วนตัวเงียบสงัดหาใดเปรียบ ทุก ๆ คนต่างจ้องมองหลี่โม่อย่างตกตะลึงราวกับบนใบหน้าของหลี่มีดอกไม้งอกออกมาอย่างไรอย่างนั้น

ในใจของฮั่วเจี้ยนเฟิงทั้งโกรธทั้งอับอาย รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำมาทั้งวันนี้นั้นขับให้หลี่โม่เด่นขึ้น

ตนเป็นผู้ที่กลับมาใหม่ เป็นดาวดวงใหม่ที่ทำให้วงการการลงทุนค่อย ๆ สูงขึ้น แต่ก็ได้สาบานไว้แล้วว่าจะคว้าเอากู้หยุนหลันมาให้ได้ ทำไมถึงกลายเป็นยิ่งทำให้เจ้าตัวไร้ประโยชน์หลี่โม่นั่นโดดเด่นขึ้นได้

ถ้าอย่างนั้นไม่ได้ชัดเจนแล้วหรือว่าตนเองเทียบไม่ได้แม้แต่เศษสวะ!

“แกมันคนขี้ขลาดตาขาวไร้ความสามารถ ตกลงไปทำอะไรมา ประธานอู๋ถึงได้มีท่าทีเช่นนั้น!”

ฮั่วเจี้ยนเฟิงถามด้วยสีหน้าเยือกเย็น

หลี่โม่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ใช้นัยน์ตาที่มีรอยยิ้มมองไปยังฮั่วเจี้ยนเฟิง

กู้ซิงเว๋ยตบโต๊ะ จ้องหลี่โม่เขม็งแล้วถามว่า “นี่มันงานเลี้ยงที่หงเหมินหรือ? นักโทษก่อนจะถูกตัดหัวยังให้กินอาหารดี ๆ ก่อน คาดว่าพอพวกเรากินอาหารมื้อใหญ่ฟรีนี่เสร็จหัวก็ขาดแล้ว!”(งานเลี้ยงที่หงเหมินเป็นเรื่องราวอันมีความหมายว่า "ใครบางคนถูกเรียกตัวให้ไปตาย หรือเรียกตัวให้ไปรับความผิด หรือการวางแผนเพื่อลอบสังหารโดยที่อีกฝ่ายไม่มีทางเลือก")

หลี่โม่เกือบจะลั่นเสียงหัวเราะออกมาแล้ว ใช้สายตาเห็นอกเห็นใจมองไปที่กู้ซิงเว๋ย

สองมือของกู้ชิงหลินคว้าไปจับที่หน้าโต๊ะอย่างทื่อ ๆ พูดด้วยใบหน้าขาวซีดว่า “ตกลงมันบ้าอะไรกันเนี่ย หลี่โม่แกมันไอ้คนจน เหตุใดจึงทำให้ประธานอู๋ส่งอาหารมื้อใหญ่มาให้ได้ แกจำเป็นจะต้องชี้แจงออกมาให้พวกเราฟังนะ!”

อารมณ์ที่ฉุนเฉียวเริ่มลุกลาม ถึงแม้ว่าอาหารมื้อใหญ่จะอยู่ตรงหน้า แต่ก็ไม่มีใครกล้าขยับตะเกียบโดยสิ้นเชิง ใครจะไปรู้ว่ากินเข้าไปแล้วจะมีจุดจบอย่างไร

ทุกคนผลัดกันบีบคั้นเอาคำตอบกับหลี่โม่ แต่หลี่โม่กลับไม่ออกเสียงใด ๆ เพียงแต่รอยยิ้มในสายตาล้ำลึกขึ้นทุกที

กู้เจี้ยนหมินไม่ทนอีกแล้ว ส่งเสียงคำรามไปทางหลี่โม่ “พูด! เรื่องอะไรกันแน่!”

“อ๋อ เมื่อกี้คุณพ่อพูดเองไม่ใช่หรือ ว่าไม่ให้ผมพูดอะไร ผมไม่ได้กำลังทำตามที่ท่านว่าหรอกหรือครับ"

หลี่โม่มองกู้เจี้ยนหมินตาใส

กู้เจี้ยนหมินรู้สึกว่าความดันโลหิตกำลังจะพุ่งไปถึงสองร้อยยี่สิบแล้ว รู้สึกถูกยั่วโมโหจนเส้นเลือดจะแตกอยู่ทุกนาที

“ไอ้ระยำ! แกฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือ! ช่างเถอะ แกรีบพูดมา ว่าตกลงเรื่องของแกกับประธานอู๋มันอย่างไรกันแน่ ทำไมเขาถึงได้ส่งอาหารที่มีมูลค่าสูงขนาดนี้มา”

กู้หยุนหลันใช้ขาสะกิดหลี่โม่ ใช้สายตาบอกใบ้ให้หลี่โม่ตอบคำถาม อย่าก่อกวนอีกเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร