จักรพรรดิมังกร นิยาย บท 143

บทที่143 มาแล้วจริง ๆ

“ถุย! สวะอย่างเจ้าอย่าเข้ามาแส่ อยู่เป็นดินเน่า ๆ อย่างนั้นดีแล้ว ไม่พูดไม่มีใครว่าเป็นใบ้ หากเจ้าพูดอีกคำ จะตัดลิ้นของเจ้าทิ้ง!”

หวังฟางพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล

เพิ่งทำให้บรรยากาศสงบลง ก็ถูกเจ้าหลี่โม่ทำลายจนบันดาลโทสะขึ้นมา

“เจ้ามีความสามารถนั้นเหรอ? ถ้าเจ้ามีความสามารถก็เชิญเถ้าแก่หลูมาให้ได้สิ! พูดพล่อย ๆ คนเดียวไม่ได้เรื่อง”

ฮั่วเจี้ยนเฟิงตะโกนด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองว่า

“เจ้าไม่น่าจะมีความสามารถเชิญมาได้ ผมเชิญไปแล้ว อีกเดี๋ยวเถ้าแก่หลูก็มา”

หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ฮึฮึ เชื่อเจ้าก็บ้าแล้ว!”

ฮั่วเจี้ยนเฟิงหยิบมือถือขึ้นมาแล้วพูดว่า “พ่อผมเป็นประธานบริษัทจินซิ่ง เพียงแค่ให้พ่อผมเอ่ยปาก แซ่หลูคนนั้นต้องรีบมาอย่างแน่นอน”

จางชุ่ยฮัวดึงตัวสวี่หมานแล้วพูดว่า “ลูกเขย บริษัทจินซิ่งนี้ชื่อเสียงเป็นอย่างไร?”

“แน่นอนซิ ร้ายกาจมาก เป็นบริษัทสิบอันดับแรกในเมืองฮ่านของพวกเรา ทำธุรกิจส่งออกเป็นหลัก ทำกำไรเงินดอลลาร์มากมาย! ไม่คาดคิดว่าตระกูลของคุณฮั่วจะร้ายกาจขนาดนี้ ช่างเป็นลูกหลานมังกรจริง ๆ ผมปรารถนาที่จะเชื่อมสัมพันธ์ธุรกิจกับคุณฮั่ว สัมผัสความร้ายกาจของพลังมังกร!”

“ต้าชิงล่มสลายไปนานแล้ว ยังมีพลังมังกรอะไรที่ไหนอีก”

หลี่โม่ พูดพึมพำ

“เจ้ามันพวกสวะ พูดมากไปเพื่ออะไร สนใจเรื่องที่มีสาระบ้าง ไม่ใช่วันวันเอาแต่ทำแต่เรื่องไร้สาระบนโลกออนไลน์ จะทำให้ไอคิวของเจ้าถดถอยขึ้นทุกวัน อีกเดี๋ยวคงจะเหลือศูนย์!”

จางชุ่ยฮัวกับพวกแสดงสีหน้ามีความหวัง ไม่คาดคิดว่าตระกูลของคุณฮั่วจะร้ายกาจถึงเพียงนี้

ไม่เพียงแต่ฮั่วเจี้ยนเฟิงเป็นบุคคลสำคัญในแวดวงการลงทุน พ่อของเขากุมอำนาจในธุรกิจนำเข้าส่งออกอีก นี่ช่างเป็นตระกูลชนชั้นสูงจริง ๆ !

ก่อนหน้านี้หวังฟางไม่รู้ว่าฮั่วเจี้ยนเฟิงยังมีพ่อที่เก่งกาจถึงเพียงนี้ หลังจากได้ยิน แทบอยากจะวิ่งไปบีบคอหลี่โม่ให้ตายเสียตรงนั้น จากนั้นก็ให้ฮั่วเจี้ยนเฟิงมาเป็นลูกเขยแทน

เกี่ยวดองกับครอบครัวที่เก่งกาจขนาดนี้ ต่อไปต้องสุขสบายไปตลอดชีวิต อยากจะได้สินค้าหรูหราแบบไหน ซื้อหาได้ตามใจชอบ!

อีกทั้งยังสามารถโอ้อวดต่อหน้าเพื่อนสนิท เชิดหน้าให้พวกเขาดูซักหน่อย!

ฮั่วเจี้ยนเฟิงแสดงท่าทางให้ทุกคนดูว่าตนร้ายกาจเพียงไรโดยไม่พูดซักคำ เพื่อให้ทุกคนมองด้วยสายตาอิจฉาริษยา

กดเลขหมายบนโทรศัพท์ ฮั่วเจี้ยนเฟิงแสดงท่าทางมาดมั่นสุดเท่ที่เคยซุ่มซ้อมมาหลายครั้ง เอาโทรศัพท์แนบไว้ที่หู ครั้งนี้ฮั่วเจี้ยนเฟิงรู้สึกว่าตนกลับมาถึงจุดสูงสุดได้อีกครั้ง

เมื่อครู่เป็นเพียงแค่เรื่องเหนือความคาดหมาย!

เพราะว่าตนปกปิดสถานะของตนเอง ไม่เคยเอ่ยปากถึงตระกูลของตนเอง ผมเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดาเท่านั้น แต่ว่าพวกคุณบังคับให้ผมต้องแสดงพลังของตน!

ทันใดนั้น ฮั่วเจี้ยนเฟิงระงับความคิดที่เก็บกดไว้ในใจ

ถ้าหากให้หลี่โม่ล่วงรู้ความเก็บกดในใจของฮั่วเจี้ยนเฟิง คงจะถูกหัวร่อออกมาคำโต

“ท่านพ่อ ทางนี้ผมเกิดปัญหาครับ อยากให้พ่อช่วยออกหน้าซักครั้ง”

ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูด

“มีเรื่องอะไรรีบพูดมา อีกเดี๋ยวพ่อจะเข้าประชุมแล้ว”

ปลายสาย พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“บริษัทการลงทุนของหลูหมิงเซิงระดมทุนผิดกฎหมาย เพื่อนผมทางนี้นำเงินเข้าไปลงทุนเอาเงินคืนไม่ได้......”

ไม่รอให้ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดจบคำ ปลายสาย พ่อของฮั่วเจี้ยนเฟิงถึงกับขมวดคิ้ว

“เจ้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นทำไม หลูหมิงเซิงคนนั้นยุ่งด้วยไม่ได้ ขัดขวางช่องทางการเงินของคนอื่น เหมือนกับทำร้ายบิดามารดา เจ้าอย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า เจ้าไปทำในสิ่งที่ควรทำดีกว่า”

“ไม่ใช่อย่างนั้น แค่ช่วยเหลือไม่กี่คนเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร และไม่ได้ตัดช่องทางการเงินของใคร”

“เด็กน้อย! อย่าไปยุ่งเรื่องนี้ หากรู้ว่าเจ้าไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้ กลับมาบ้านจะหักขาเจ้าทิ้งซะ!”

ได้ยินเสียงตัดสาย ฮั่วเจี้ยนเฟิงยังคงไม่วางโทรศัพท์ลง ในใจกลับยุ่งเหยิงคิดฟุ้งซ่าน

เกิดอะไรขึ้น พ่อของตนเองก็ยังไม่ช่วยเหลือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร