การประมูลใกล้จะสิ้นสุด และหินธรรมชาติที่ผู้เชี่ยวชาญชื่นชอบมากที่สุด ถูกเฝิงจื่อฉายประมูลไปในราคาหนึ่งล้านหยวน
“เฮียฉายสุดยอดมาก เพิ่มราคาสองครั้งจนทำให้ผู้ชมตกใจไม่มีใครกล้าเสนอราคาแข่งกับเฮียฉายอีกเลย”
“คาดว่าผู้ตั้งประมูลคงอยากร้องไห้ ผมได้ยินมาว่าหินธรรมชาติชิ้นนี้มีมูลค่าประมาณหกหรือเจ็ดล้าน แต่เฮียฉายประมูลมาด้วยราคาแค่หนึ่งล้าน”
“พวกเราประมูลหินธรรมชาติได้แล้ว ไอ้คนไร้ประโยชน์ยังไม่เคลื่อนไหว เป็นเพราะกลัวพวกเราจนโง่ไปแล้วใช่ไหม จะลองไปดูมันหน่อยมั้ย”
เหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆ จ้องมองที่ไปหลี่โม่ตลอด ในห้องประมูลมีแต่หลี่โม่คนเดียวที่ไม่ยกป้ายประมูล ทำให้เหอลี่ฉุนและคนอื่นๆ ดูถูกเหยียดหยามหลี่โม่
เฝิงจื่อฉายยิ้มเยาะเย้ย ลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า “ไป ไปทำให้ไอ้เศษสวะอับอายขายหน้า ตอนนี้ที่เหลืออยู่ชิ้นเดียวคือหินธรรมชาติที่คุณภาพแย่ที่สุด คาดว่าเงินที่ไอ้เศษสวะมีคงซื้อได้แค่หินธรรมชาติก้อนนั้น”
เหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆ เดินตามเฝิงจื่อฉายไปหาหลี่โม่ เวลานี้การประมูลกำลังจะจบ ตอนนี้เหลือหินธรรมชาติที่คุณภาพแย่ที่สุดเพียงชิ้นเดียว ไม่มีใครสนใจประมูล และทุกคนเอาแต่จ้องเฝิงจื่อฉายและคนอื่นๆ
กลุ่มเฝิงจื่อฉายเดินไปหยุดข้างหลี่โม่ กู้เจี้ยนหมินและหวังฟางเปลี่ยนไปนั่งที่อื่น เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลี่โม่
หวังฟางพยายามดึงตัวกู้หยุนหลันออกจากหลี่โม่ แต่กู้หยุนหลันปฏิเสธ หวังฟางจึงทำได้เพียงแค่ยอมแพ้
“เจี้ยนเฟิง คนพวกนี้คือเพื่อนร่วมธุรกิจของคุณใช่ไหม? สักครู่คุณต้องดูแลหยุนหลันให้ดี อย่าให้หยุนหลันได้รับผลกระทบ”
หวังฟางดึงตัวฮั่วเจี้ยนเฟิงและพูดกำชับ
ฮั่วเจี้ยนเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณป้าโปรดวางใจ หยุนหลันจะไม่มีปัญหาใด ๆ พวกเขาพุ่งเป้าไปที่หลี่โม่เท่านั้น”
จากนั้นหวังฟางถึงจะหายห่วง และกระซิบว่า “ทางที่ดีที่สุดให้ไอ้หายนะนั้นตาย จะได้ไม่อยู่ทำร้ายคนอื่นได้อีก”
เฝิงจื่อฉายมองไปที่กู้หยุนหลันแวบหนึ่ง จากนั้นก็แหงนหน้า เหลือบมองหลี่โม่
“ไอ้คนไร้ประโยชน์ การประมูลใกล้จะสิ้นสุดแล้ว นี่เป็นหินธรรมชาติชิ้นสุดท้ายแล้ว แม่งแกรีบเสนอราคาประมูล หรือว่าแกยากจนมากจนไม่สามารถเพิ่มราคาประมูลหนึ่งร้อยได้?”
“ผมไม่คิดว่าไอ้คนไร้ประโยชน์จ่ายไม่ได้แม้แต่สักแดงเดียว คาดว่าเดือนนี้ภรรยาไม่ได้ให้เงินค่าขนม ไอ้เศษสวะที่เกาะเมียกินคนนี้มันน่าสังเวชเสียจริง”
“แกคิดว่าถ้าไม่ประมูลหินธรรมชาติ ก็ไม่ต้องพนันกับพวกเราแล้วใช่ไหม? ถ้าแกไม่มีหินธรรมชาติ แกก็แพ้พนันโดยตรง แม้แต่ท่านเทียนก็ไม่สามารถปกป้องแกได้”
เหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆ หัวเราะเฮฮาดูถูกเหยียดหยามหลี่โม่ รู้สึกมีความสุขมาก พวกเขารู้สึกว่าเมื่อสักครู่ที่ต้องทนรองรับอารมณ์ของฉู่จงเทียนและลู่เจี้ยนปิน ความโกรธพวกนั้นได้ระบายออกมาจนหมดแล้ว
เฝิงจื่อฉายยิ้มเยาะเย้ยแล้วกล่าวว่า “คนไร้ประโยชน์ ถ้าแกไม่มีเงินประมูล ก็คุกเข่าลงเรียกฉันว่าพ่อ แค่แกเรียนฉันว่าพ่อ ฉันก็จะประมูลหินธรรมชาติก้อนนั้นให้แก ให้โอกาสแกได้เปลี่ยนโชคชะตาของตนเอง”
ผู้ประมูลทั้งหมดรายล้อมเข้ามารวมตัวกัน พวกเขาเฝ้าดูอย่างสอดรู้สอดเห็น ไป๋เชียนหลี่บอกกับผู้คนรอบ ๆถึงข้อตกลงการพนันของหลี่โม่กับเฝิงจื่อฉาย
ผู้คนรอบ ๆที่สอดรู้สอดเห็นได้ฟังแล้วก็หัวเราะดัง รู้สึกว่าหลี่โม่ไม่เจียมตัว
“นี่ล้อเล่นหรือ? หินธรรมชาติก้อนสุดท้ายนี้ไม่โปร่งแสง ไม่มีลักษณะผิวของหินหยกธรรมชาติเลย คาดว่าเป็นหินธรรมดาที่ปะปนเข้ามา”
“ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหินหยกธรรมชาติ แต่ก็ไม่มีทางเทียบได้กับหินธรรมชาติที่เฮียฉายประมูลได้ หินธรรมชาติก้อนนั้นของเฮียฉายผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ตรวจดูแล้ว ต่างก็บอกว่าเป็นหินธรรมชาติที่มีคุณภาพดีและหายาก”
“นี่ยังจะพนันอะไรกันอีก ถ้าเป็นผม ผมจะคุกเข่าลงให้เฮียฉายโดยตรงเลย เกียรติยศเป็นแค่หัวโขน การมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งสำคัญกว่า”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของพวกสอดรู้สอดเห็น ทำให้กู้หยุนหลันรู้สึกกังวลมาก
เดิมคิดว่าหลี่โม่เสี่ยงมากแล้ว หลังจากได้ยินเสียงพึมพำของคนเหล่านี้แล้ว ยิ่งทำให้กู้หยุนหลันรู้สึกว่าหลี่โม่จะพ่ายแพ้
หลี่โม่ยิ้ม แล้วชูป้ายประมูล โบกมือให้กับพนักงานประมูล
พนักงานประมูลที่มองดูห้องประมูลที่วุ่นวายจนอยากร้องไห้ และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกับสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้
เดิมของที่ประมูลชิ้นสุดท้ายนี้จะจัดการตามลำดับขั้นตอนการประมูล พนักงานประมูลเห็นหลี่โม่โบกป้ายประมูล
พนักงานประมูลรู้สึกตื่นเต้น กล่าวเสียงดังว่า “คุณหมายเลข 99 เสนอราคาหนึ่งร้อยหยวน มีใครจะให้ราคาสูงกว่านี้อีกไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...