เมื่อได้ยินฮั่วเจี้ยนเฟิงกล่าวถึงท่านเทียน กู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางมองไปที่ฮั่วเจี้ยนเฟิงพร้อมกัน
“เจี้ยนเฟิง คนที่คุณพูดถึงคือท่านเทียนของเมืองฮ่านของพวกเราใช่ไหม?”
กู้เจี้ยนหมินถามอย่างจริงจัง
“ใช่ คือเขาแหละ เมื่อสักครู่ท่านเทียนทักทายกับไอ้ไร้ประโยชน์ ผมรู้สึกว่ามันแปลก ๆ”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดอย่างตรงไปตรงมา
สีหน้าของกู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาด ภาพที่ฉู่จงเทียนเคารพนับถือหลี่โม่ในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่หวาง ได้ปรากฏขึ้นในความคิดของทั้งสองคน
เมื่อเห็นว่าสีหน้ากู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางผิดปกติ ฮั่วเจี้ยนเฟิงถามด้วยความสงสัยว่า “คุณลุง คุณป้า พวกคุณเป็นอะไร?”
“เจี้ยนเฟิง เรื่องนี้คุณอย่าถามอีกเลย เมื่อก่อนหลี่โม่โชคดีเคยช่วยท่านเทียนไว้ด้วยเรื่องเล็กน้อย เขากับท่านเทียนไม่ได้มีไมตรีอะไรมากมาย”
กู้เจี้ยนหมินหาข้อแก้ตัวเพื่อให้เรื่องนี้ผ่านไป สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างหลี่โม่กับฉู่จงเทียน และเฉียนฝู กู้เจี้ยนหมินสองสามีภรรยาเหมือนกับชมดอกไม้ในสายหมอก เพราะมองยังไงก็ไม่ชัดเจน
เมื่อมองไม่ชัดเจน ก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าอธิบายแล้วจะต้องถูกซักถามต่อไปอีกแน่นอน แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่หวาง ก็ต้องพูดออกมา ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเป็นการทำให้ขายหน้าเปล่า ๆ
หวังฟางมองหลี่โม่อย่างดุดัน จากนั้นก็ยื่นนิ้วออกไปกดขมับของหลี่โม่อย่างดุดัน
“ไอ้เศษสวะอย่างแก เมื่อเห็นท่านเทียนแล้วก็ไม่ประจบดี ๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะมีความสัมพันธ์กับท่านเทียน แกไม่รู้จักคว้าโอกาส เอาแต่เอ้อระเหยลอยชายขี้เกียจสันหลังยาวทั้งวัน”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงมองอากัปกิริยาของหวังฟางที่มีต่อหลี่โม่ แม้ว่าเขาจะมีข้อสงสัยอยู่ในใจ แต่เขาไม่สามารถถามต่อไปได้
อีกอย่างอากัปกิริยาของหวังฟางที่มีต่อหลี่โม่ ทำให้ฮั่วเจี้ยนเฟิงรู้สึกว่าหลี่โม่กับฉู่จงเทียนน่าจะไม่ได้มีไมตรีอะไรมากมาย อาจเป็นเพราะว่าฉู่จงเทียนอยากแสดงอำนาจให้จางจงหยางได้เห็น ดังนั้นเขาจึงหลอกใช้คนไร้ประโยชน์อย่างหลี่โม่
แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม หลี่โม่ก็ได้ล่วงเกินจางจงหยางและเฝิงจื่อฉายไปแล้ว หลังจากการประมูลสิ้นสุดลง หลี่โม่ต้องได้รับความทุกข์ทรมานแน่นอน
ฮั่วเจี้ยนเฟิงจ้องไปที่หลี่โม่อย่างดุดัน หลังจากนั้นก็กล่าวกับกู้หยุนหลันว่า “หยุนหลัน อีกสักครู่ถ้าถูกใจของชิ้นไหนบอกผมได้เลย”
“ฉันไม่มีอะไรถูกใจ”
กู้หยุนหลันกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น
หวังฟางสะกิดแขนกู้หยุนหลันอย่างไม่พอใจ และกระซิบว่า “ทำไมลูกโง่จัง? ของที่เจี้ยนเฟิงมอบให้ ลูกก็แค่รับมันไว้”
“ฉันไม่ต้องการมัน ทำไมต้องรับด้วย”
กู้หยุนหลันกล่าวอย่างราบเรียบ
หวังฟางถอนหายใจ รู้ว่าไม่มีทางที่จะคุยกับกู้หยุนหลันรู้เรื่อง หากจะพูดต่อไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าๆ
เมื่อการประมูลเริ่มขึ้น ทุกคนถูกการประมูลดึงดูด พวกเขาเริ่มสนใจมองไปที่การประมูล
เฝิงจื่อฉายพาเหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆนั่งอยู่โซนด้านหน้า มองดูการประมูลที่กำลังดำเนินอยู่ มีคนสองสามคนกระซิบกันไม่กี่ประโยค จากนั้นจึงยกป้ายขึ้น และหยกจำนวนมากถูกประมูลไปในช่วงเวลาสั้นๆ
หลังจากประมูลหยกไปหลายชิ้น เฝิงจื่อฉายก็บ่นพึมพำกับไป๋เชียนหลี่ จากนั้นไป๋เชียนหลี่ก็ยืนขึ้นและแหงนหน้ามองหลี่โม่ เขาชูนิ้วกลางกระดิกให้หลี่โม่สองครั้ง “ไอ้ยาจก ถ้ามีความสามารถก็ยกป้ายเสนอราคาสิ!”
ทันใดนั้นผู้ประมูลทั้งหมดมองไปตรงที่นั่งของหลี่โม่ กู้หยุนหลันและคนอื่น ๆ
รู้สึกถึงการจ้องมองที่มาจากทั่วทุกมุม ทำให้กู้เจี้นนหมินกับหวังฟางทั้งรู้สึกขายหน้า
“นี่มันเรื่องอะไรกัน เจี้ยนเฟิง มันเกิดอะไรขึ้น?”
หวังฟางกล่าวอย่างกังวล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...