คำพูดของกู้หยุนหลันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ในห้องรับแขกเงียบสนิทขึ้นในพริบตา
หลังจากนั้นเหอซูฟางขมวดคิ้วครู่หนึ่งแล้วถาม: “ทำไมถึงมีเรื่องการลักพาตัว ครอบครัวเล็ก ๆอย่างพวกเธอ ไม่ควรจะมีเรื่องการลักพาตัวเกิดขึ้นนะ”
ซีเหมินจื้อเผิงหัวเราะเยาะพูดว่า: “คงไม่ใช่เป็นไอ้สวะนั้นจัดฉากขึ้นมาหรอกนะ การลักพาตัวสำหรับผมก็แค่เรื่องตลก”
กู้หยุนหลันไม่ได้ยิ้ม ในความทรงจำหวนนึกถึงตอนที่ถูกลักพาตัว หลี่โม่เองทำเพื่อความปลอดภัยของตนแล้ว ต้องยอมอดทนต่อความอับอายที่ใหญ่หลวงมาก
หวังฟางถอนหายใจ ตบไหล่กู้หยุนหลันเบา ๆแล้วพูดว่า: “เรื่องลักพาตัวนั้น ฉันก็รู้สึกสงสัยอยู่ไม่น้อย เป็นไปได้ว่าไอ้สวะนั้นจัดฉากการแสดงจริงๆ เธอก็อย่าโง่อีกเลย”
“พูดเรื่องเก่าตั้งมากมายเพื่ออะไร พูดคุยเกี่ยวเรื่องอนาคตดีกว่า ช่วงนี้หยุนหลันเธอดูแลบริษัทมีปัญหาอะไรบ้างไหม?มีปัญหาอะไรก็ขอคำแนะนำจากจื้อเผิงได้ จื้อเผิงดูแลบริษัทที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ เธอต้องเรียนรู้ให้มากหน่อย”
กู้เจี้ยนหมินเปลี่ยนเรื่องในการสนทนา ซีเหมินจื้อเผิงยิ้มแล้วพูดว่า: “การบริหารธุรกิจเป็นจุดแข็งของผม แต่การบริหารที่แท้จริงก็คือการลงมือบริหารจริง หยุนหลันหากมีความสนใจก็มาเป็นผู้ช่วยของผมได้ อย่างนี้จึงจะได้เรียนรู้ให้มากขึ้น”
“ขอโทษด้วย ฉันไม่มีเวลาไปต่างประเทศ”
กู้หยุนหลันพูดตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่ต้องไปต่างประเทศ ผมกำลังเตรียมจะเปิดบริษัทที่เมืองฮ่านที่นี่ ดำเนินการตั้งสำนักงานสาขาที่เมืองฮ่านชั่วคราว กำกับดูแลธุรกิจทั้งหมดในระยะยาว ข้างกายกำลังขาดผู้ช่วยที่เหมาะสมอยู่พอดี”
ซีเหมินจื้อเผิงแย้มยิ้มมองที่กู้หยุนหลัน แล้วพูดต่อว่า: “บริษัทสาขาที่ลงทุนห้าร้อยล้านในเมืองฮ่าน เตรียมขยายธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ยาเวชภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และธุรกิจในตระกูลกู้ของพวกคุณก็สามารถสร้างประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย”
กู้เจี้ยนหมินเกิดความคิดขึ้นมาทันที นี่น่าจะเป็นเรื่องดี ๆ มาสู่ตระกูลกู้ หากสามารถร่วมมือกับซีเหมินจื้อเผิงได้จริงแล้ว อย่างนั้นสถานะของบ้านพี่รองตระกูลกู้ (ลูกคนที่สองของตระกูล) ก็จะเพิ่มสูงขึ้นมาก
“จื้อเผิงจะลงทุนที่เมืองฮ่านจริงเหรอ? งั้นสามารถดำเนินการเรื่องสัญญาความร่วมมือกับตระกูลกู้ของพวกเรา มีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือตรงไหน พวกเราจะต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่”
กู้เจี้ยนหมินพูดด้วยท่าทางตื่นเต้น
“พวกเราเริ่มต้นเตรียมการทางนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องให้ลุงสนับสนุน ก็คือให้หยุนหลันมาเป็นผู้ช่วยของผม”
ซีเหมินจื้อเผิงพูดอย่างภูมิใจ
แค่โยนเหยื่อลงไปให้ปลา กู้เจี้ยนหมินก็รีบติดกับดักแล้ว เพียงแค่กู้เจี้ยนหมินและหวังฟางสนับสนุน ซีเหมินจื้อเผิงรู้สึกว่าหลี่โม่ไม่สามารถจะอยู่ต่อไปได้ อีกไม่นานก็ต้องถูกตระกูลกู้เตะออกนอกกำแพงไป และตนเองก็จะได้โอบกอดสาวงาม
“ฉันไม่ว่าง ช่วงนี้งานที่บริษัทมีเป็นจำนวนมาก ยุ่งมากไม่มีเวลาไปเป็นผู้ช่วยอะไรทั้งนั้น ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ขอตัวกลับไปที่ห้องก่อน”
กู้หยุนหลันไม่อยากที่จะเสแสร้งและดึงเวลา ในการเอาชนะซีเหมินจื้อเผิงต่อไป
เหอซูฟางและซีเหมินจื้อเผิงหายใจถี่ด้วยความโกรธ รู้สึกว่ากู้หยุนหลันทำเกินไปหน่อย
“หวังฟาง! นี่มันท่าทีอะไรของลูกสาวของคุณนี่ มองเจตนาดีของจื้อเผิงของพวกเราเป็นเจตนาร้ายไปได้!”
เหอซูฟางตบโต๊ะแล้วพูดด้วยความโกรธ
หวังฟางสั่นสะท้านไปทั้งตัว เหอซูฟางทำให้ตกใจกลัว: “ไม่ ไม่ใช่ พี่ซูฟางคุณอย่าเพิ่งโมโห หยุนหลันของฉันมีนิสัยดื้อรั้น ฉันจะต้องสั่งสอนเธอดีกว่านี้”
“ฮึ! ฉันให้เกียรติพวกคุณแล้วแต่พวกคุณกลับไม่รับไว้ สั่งสอนลูกสาวของคุณให้ดี ๆ พรุ่งนี้พาเธอไปขอโทษลูกชายของฉัน มิเช่นนั้นฉันจะให้ทุกคนในตระกูลของพวกคุณได้เห็นดีกัน”
เหอซูฟางแทบจะระเบิดความโกรธออกมา ด้วยความรู้สึกว่าตระกูลยิ่งใหญ่ที่เหนือกว่า ไม่สามารถทนต่อการที่ถูกผู้อื่นไม่ให้ความสำคัญได้เลย
“คุณแม่ คุณอย่าเพิ่งโมโห ผู้หญิงแบบนี้ถึงจะเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ สุดท้ายม้าพยศก็ต้องถูกทำให้เชื่อง ให้ผมค่อยๆ พิชิตใจเธอก็แล้วกัน”
ซีเหมินจื้อเผิงพูดปลอบมารดาไปประโยคหนึ่ง ในใจคิดอยากจะพิชิตใจเธอให้ได้ อยากทำให้เชื่องเหมือนกับม้าป่า ทำให้กู้หยุนหลันเชื่องให้ได้
เหอซูฟางพยักหน้าเล็กน้อย: “เธอยังมีความคิดอย่างนั้นฉันก็ไม่พูดอะไรให้มากความ ที่เหลือให้ลูกจัดการเอง แม่ก็ไม่ยุ่งแล้ว ไม่อย่างนั้นคงต้องทำให้โกรธจนตาย”
หวังฟางตั้งใจพูดประจบว่า: “เป็นเพราะตระกูลฉันสั่งสอนไม่ดีพอ พี่ซูฟางคุณอย่าได้โกรธเลยนะ คราวหลังหยุนหลันไม่ทำอย่างนั้นอีกแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...