ณ ห้องประชุมในบริษัทของตระกูลกู้
กู้เจี้ยนกั๋วกับครัฟฟ์นั่งอยู่ในที่นั่งประธาน ส่วนกู้เจี้ยนเจียง กู้ซิงเว๋ย กู้หยุนหลัน และพนักงานของครัฟฟ์ก็นั่งอยู่ทั้งสองด้าน
ครัฟฟ์ยิ้มพูดว่า “เพื่อความร่วมมือที่ดีขึ้นของเรา เนื้อหาและรายละเอียดต่างๆ เราต้องเจรจากันอีกครั้ง ผมจึงจะให้ผู้ช่วยของผมแจกแจงรายละเอียดและเงื่อนไขของทางเรานะครับ”
ผู้ช่วยของครัฟฟ์ถือเอกสารแล้วลุกขึ้นยืน “ก่อนอื่นเราต้องเน้นย้ำอีกครั้งว่าทุกโครงการของเราจะมุ่งเน้นไปที่ตัวของคุณกู้หยุนหลันนะครับ เมื่อไหร่ที่ตัวของคุณกู้หยุนหลันไม่ได้เป็นศูนย์กลางหลักของความร่วมมือของเรา สัญญาก็จะถูกยุติโดยอัตโนมัติครับ”
สีหน้ากู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆ บูดบึ้งไปทันที เดิมทีกู้เจี้ยนกั๋วยังคิดว่าแมวดาวจะสับเปลี่ยนเป็นองค์ชาย แต่ที่ไหนได้ ครัฟฟ์กลับเน้นย้ำว่าต้องให้กู้หยุนหลันเป็นจุดศูนย์กลางของทุกเงื่อนไข
กู้หยุนหลันเอายาวิเศษอะไรให้ชาวต่างชาติกินกันแน่!
กู้ซิงเว๋ยคิดอย่างไม่พอใจและจ้องไปที่กู้หยุนหลันอย่างดุเดือด
กู้หยุนหลันก็รู้สึกงงงวยและไม่เข้าใจว่าจะมีเงื่อนไขแบบนี้ได้ไง
“ทำไมต้องให้ความสำคัญกับหนูขนาดนี้คะ?”
“คุณหยุนหลันสุดสวยครับ เราได้ประเมินสมาชิกหลักทั้งหมดของครอบครัวคุณแล้ว เราพบว่าคุณมีวุฒิภาวะที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นนิสัย ความรู้และความสามารถในการบริหารจัดการของคุณ ถ้าคุณไม่ใช่ผู้รับผิดชอบหลักของโครงการภายใต้ความร่วมมือของเรา ผลลัพธ์ก็คือล้มเหลวอย่าง 100% ครับ”
กู้ซิงเว๋ยยืนขึ้นแล้วตะคอกอย่างไม่พอใจ “คุณครัฟฟ์ครับ นี่พวกคุณกำลังดูหมิ่นพวกเราอยู่นะ? คุณคิดว่าคนอื่นๆ นอกจากกู้หยุนหลันแล้วไม่มีประโยชน์เลยเหรอครับ? ครอบครัวตระกูลกู้ไม่ได้มีแค่กู้หยุนหลันคนเดียวนะครับ!”
กู้ซิงเว๋ยรู้สึกโกรธและคิดว่าตัวเขาถูกดูดหมิ่นมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ความสามารถ กู้ซิงเว๋ยก็คิดว่าเขาเหนือกว่ากู้หยุนหลันเป็นร้อย ๆ เท่า
“คุณในตอนนี้ก็ดูไร้เดียงสาและมีความแตกต่างกับคุณกู้หยุนหลันราวฟ้ากับเหวแล้วนะครับ คุณยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ”
ครัฟฟ์พูดและทำท่าทางไปด้วย
กู้เจี้ยนกั๋วเพ่งมองไปที่กู้ซิงเว๋ยแล้วพูดอย่างดุเดือด “ไร้ประโยชน์สิ้นดี! ยังไม่รีบนั่งลงไปอีก ทำตัวเป็นตัวตลกในสายตาของคุณครัฟฟ์ไปเปล่าๆ!”
กู้ซิงเว๋ยก็นั่งลงแต่ความโกรธเคืองในใจยังอยู่
“ขออภัยที่ลูกชายผมไม่สุภาพนะครับคุณครัฟฟ์ โปรดอย่าถือสากันนะครับ แต่อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าหยุนหลันยังเด็กและขาดประสบการณ์มากเกินไป ถ้าให้ผมมาเป็นผู้อำนวยการในโครงการนี้น่าจะเหมาะสมกว่านะครับ”
กู้เจี้ยนกั๋วคิดเรื่องนี้มานานสักพักแล้ว เขาคิดว่าคนที่สามารถบีบให้กู้หยุนหลันออกไปต้องเป็นตัวเขาเท่านั้น
ครัฟฟ์ส่ายหัวและกางมือแล้วพูดว่า “นี่เป็นกฎเหล็กของการร่วมมือของเรา ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด นอกจากพวกคุณปฏิเสธที่จะร่วมมือกับพวกเรา”
ให้ปฏิเสธการร่วมมืองั้นหรือ ไม่มีทางอย่างแน่นอน
กู้เจี้ยนกั๋วได้แต่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา เขาทำได้เพียงยอมรับเงื่อนไขไปก่อน ค่อยดูสถานการณ์ในภายหลัง
“โอเคครับ เราเห็นด้วยกับข้อเสนอของคุณครับ”
“พ่อ!”
กู้ซิงเว๋ยพยายามจะห้าม แต่กู้เจี้ยนกั๋วยกมือขึ้นแล้วสั่งกู้ซิงเว๋ยให้เงียบอย่างเด็ดขาด
ในขณะนี้ประตูห้องประชุมถูกเปิดออก และหลี่โม่ก็เดินเข้าไปในห้องประชุม
ครัฟฟ์เหลือบมองไปที่หลี่โม่ จากนั้นหันกลับไปที่ห้องประชุม
และในเวลานี้ ความโกรธที่อัดอั้นอยู่ในตัวของกู้ซิงเว๋ยก็ได้ส่งต่อไปที่หลี่โม่ “ไอ้คนไร้ประโยชน์ นายจะเข้ามาทำไม! คนอย่างนายไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาในการประชุมระดับสูงของบริษัท!”
หลี่โม่ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของกู้ซิงเว๋ย เขาเดินตรงไปที่กู้หยุนหลันแล้วนั่งลงข้างเธอ จากนั้นยิ้มพูดว่า “ผมได้ข่าวว่ามีคนจะเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับที่ดินของภรรยาผม ในฐานะที่เป็นสามีของกู้หยุนหลัน ผมก็มีกรรมสิทธิ์ครึ่งหนึ่งในการตัดสินใจ ดังนั้นผมจึงมีสิทธิ์เข้ามาฟังด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...